ผลจากการทดสอบของเว็บไซต์ Phonearena พบว่า Galaxy S8 ที่มากับแบตเตอรี่ 3,000 mAh ทำคะแนนได้ 8 ชั่วโมง 22 นาที ส่วน Galaxy S8 Plus ที่มากับแบตเตอรี่ 3,500 mAh ทำคะแนนได้ 8 ชั่วโมง ขณะที่ Galaxy A 2017 ทั้ง A3, A5 และ A7 ทำคะแนนได้สูงกว่า 11 ชั่วโมง
นั่นหมายถึง เจ้าของ Galaxy S8 และ Galaxy S8 Plus มีโอกาสที่ต้องพกพาแบตเตอรี่สำรองติดตัวไว้ หากต้องนำออกไปใช้งานนอกบ้านตลอดทั้งวัน แต่มันก็ยังพอมีวิธีที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นอีก กับ 15 เทคนิคดังต่อไปนี้…
1. ใช้ธีมสีเข้ม จอแสดงผล Super AMOLED ของ Samsung จะใช้พลังงานมากขึ้นเมื่อแสดงภาพในโทนสีขาว ดังนั้นการเปลี่ยนวอลเปเปอร์หรือธีมเป็นโทนเข้ม จะช่วยประหยัดพลังงานได้ดีพอสมควร
2. ตั้งค่าให้ปรับความสว่างโดยอัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้จอแสดงผลจะปรับความสว่างให้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม
3. Always On Display อาจจะเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์และใช้พลังงานต่ำ แต่ถ้าคุณต้องการประหยัดแบตเตอรี่ก็สามารถปิดการใช้งานได้ที่ Settings > Lock screen and security
4. App power monitor จัดการแอพพลิเคชั่นที่ไม่ได้ใช้งานด้วยตัวคุณเอง จะช่วยให้การจัดการแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเข้าไปที่ Settings > Device maintenance > Battery
5. Game Launcher ถูกติดตั้งมาตั้งค่าเรือธงรุ่นก่อน เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ระหว่างเล่นเกมให้กดปุ่ม Save Power เมื่ออยู๋ในแอพ และแนะนำให้ติดตั้ง Game Tuner มาใช้งานด้วย สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก Google Play แอพนี้จะช่วยให้คุณปรับแต่งความละเอียดของเกม ยิ่งใช้ความละเอียดและเฟรมเรทต่ำ ก็ยิ่งช่วยประหยัดแบตเตอรี่
6. Smart Stay ฟีเจอร์มหัศจรรย์ที่จะเปิดหน้าจออยู่ตลอดเวลา ตราบเท่าที่คุณมองสมาร์ทโฟน แน่นอนมันบริโภคพลังงานอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สามารถปิดการทำงานได้ที่ Settings > Advanced Features > Smart Stay
7. แก้ไข Screen timeout หรือเวลาหน่วงหน้าจอหลังจากไม่ได้ใช้งาน ควรตั้งค่าไว้ 30 วินาทีหรือต่ำกว่านั้นก็น่าจะเพียงพอ อันที่จริงการกดปุ่มเพาเวอร์เพื่อเข้าสู่โหมดสลีปทันทีเมื่อเสร็จสิ้นการใช้งานก็ช่วยได้มาก คุณสามารถตั้งค่า Screen timeout ได้ที่ Settings > Display > Screen timeout
8. ปรับความละเอียดจอแสดงผล โดยไปที่ Settings > Display > Screen resolution ยิ่งใช้ความละเอียดมาก ก็เปลืองพลังงานมาก
9. NFC หากคุณไม่ได้ใช้งาน Samsung Pay หรือจำเป็นต้องใชเ NFC ที่ปกติจะใช้พลังงานเพียง 1% ต่อวัน แต่ก็สามารถปิดการเชื่อมต่อนี้ได้ที่ Settings > Connections
10. ปิดการแจ้งของหลอดไฟ LED โดยไปที่ Settings > Display > LED indicator
11. Keep screen turned off ฟีเจอร์นี้ช่วยป้องกันการเปิดจอแสดงผลโดยไม่ได้ตั้งใจเวลาพกพาสมาร์ทโฟนไว้ในกระเป๋า สามารถเปิดให้ทำงานได้ที่ Settings > Display > Keep screen turned off
12. Nearby device scanning ฟีเจอร์สแกนหาอุปกรณ์ใกล้เคียง ที่ไม่เหมาะใช้งานในเวลาที่คุณต้องการประหยัดแบตเตอรี่ ควรเข้าไปปิดการใช้งานที่ Settings > Connections > More connection settings
13. ตั้งค่าการระบุตำแหน่งของสมาร์ทโฟนโดยใช้ GPS เท่านั้น เพียงเข้าไปที่ Settings -> Connections -> Location -> Locating method แล้วเลือก Phone only
14. ต่อเนื่องจากข้อ 13 ในแท็บ Location ควรปิดการใช้งาน Wi-Fi scanning และ Bluetooth scanning
15. ปิดฟีเจอร์เกี่ยวกับ Gestures โดยเข้าไปที่ Settings -> Advanced Features
ที่มา – Phonearena
http://www.flashfly.net/wp/?p=181236