ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด iOS 11 ได้ปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ มากมาย และหนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ นั่นก็คือแอพพลิเคชั่น Camera แน่นอนว่า Apple ได้ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการถ่ายภาพ จนไปถึงการตกแต่งแก้ไข โดยมี 7 คุณสมบัติใหม่ดังต่อไปนี้
เพิ่มความสามารถให้กับ Live Photos
Live Photos เริ่มใช้งานมานาน 2 ปีแล้ว สำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหว แต่ถ้าต้องการให้ภาพเหล่านั้นเล่นวนซ้ำไปไม่รู้จบแบบ GIF จะต้องอาศัยแอพพลิเคชั่นจากบุคคลที่สาม ซึ่งใน iOS 11 ไม่จำเป็นต้องหาแอพเสริมแล้ว เพราะผู้ใช้งานจะสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบวนซ้ำได้ เลือกเฉพาะเฟรมที่ต้องการจาก Live Photos ได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพน้ำตก, น้ำพุ หรือ ภาพรถกำลังแล่นบนท้องถนนยามค่ำคืน
สร้างหน้าปัด Apple Watch
ในฟีเจอร์การแชร์ภาพ จะพบกับฟังก์ชั่นสร้างหน้าปัด Apple Watch ช่วยให้คุณเลือกภาพถ่ายที่ต้องการมาสร้างเป็นหน้าปัด Apple Watch ได้ง่ายๆ
ตัวช่วยถ่ายภาพให้ได้ระดับ
แอพ Camera ใน iOS 11 มาพร้อมตัวช่วยให้คุณถ่ายภาพได้อย่างสมดุล อย่างการถ่ายภาพเส้นขอบฟ้า และในส่วนของการแก้ไข Crop และ Rotate จะพบกับฟังก์ชั่น Auto ช่วยปรับระดับองศาของรูปภาพให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
Portrait Mode ทำอะไรได้มากขึ้น
Portrait Mode เริ่มนำมาใช้กับ iPhone 7 Plus เป็นครั้งแรก ช่วยให้การถ่ายภาพใบหน้าบุคคลออกมาดูดี แต่ยังมีข้อจำกัดอีกมาก สำหรับ iOS 11 ได้ปรับปรุง Portrait Mode ให้สามารถใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเปิดแฟลช, HDR, เพิ่มฟิลเตอร์ รวมทั้งระบบลดภาพสั่นไหว OIS
การแก้ไขภาพใน Portrait Mode
ปัจจุบัน เมื่อมีการถ่ายภาพใน Portrait Mode จะมีการบันทึกภาพไว้ 2 แบบ คือ ภาพที่ถูกทำให้เบลอแล้ว กับ รูปภาพปกติ แต่ใน iOS 11 จะบันทึกภาพ Portrait Mode เพียงภาพเดียว หากต้องการลบรูปภาพที่ถูกทำให้เบลอ จะต้องเข้าสู่โหมดแก้ไขในแอพ Photos แล้วปิดมัน
3D Touch ในไอคอนแอพ Camera
iOS 11 ได้ทำให้ไอคอนทางลัดเข้าสู่แอพ Camera สนับสนุน 3D Touch ซึ่งผู้ใช้งานจะพบกับฟีเจอร์ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในรูปแบบที่ต้องการได้ไวขึ้น
ลดขนาดไฟล์รูปภาพและวีดีโอ
Apple ได้นำวิธีการเข้ารหัสรูปภาพและวีดีโอใหม่ ด้วย HEVC และ HEIC ซึ่งสามารถบีบอัดรูปภาพและวีดีโอโดยใช้พื้นที่น้อยลง สามารถลดขนาดไฟล์ได้ถึง 50% แต่ยังไม่สนับสนุนการแสดงผลบนแอพ Google Photos
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติใหม่ทั้งหมดนี้ ถูกค้นพบใน iOS 11 เวอร์ชั่น Beta หมายความว่า Apple อาจมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขคุณสมบัติเหล่านี้ได้ ก่อนที่จะปล่อยให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัพเดทในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ (กันยายน – พฤศจิกายน)
ที่มา – Phonearena
http://www.flashfly.net/wp/?p=184885