เว็บไซต์ Forbes เผยรูปภาพเรนเดอร์ iPhone 8 โดยอ้างว่าได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตเคส Nodus ในการเจาะลึกหาข้อมูลจากห่วงโซ่อุปทานของ Apple จนได้รายละเอียดงานออกแบบของ iPhone 8 ที่ชัดเจน และนี่คือดีไซน์ของ iPhone ที่ Apple ตั้งใจสร้างขึ้นมาในวาระพิเศษครบรอบ 10 ปีของ iPhone
แหล่งข่าวยืนยันว่าภาพเรนเดอร์ชุดนี้ คือดีไซน์ขั้นสุดท้ายแล้ว มากับจอแสดงผล ขนาด 5.8 นิ้ว ขอบจอบางเพียง 4 มิลลิเมตรเท่ากันรอบด้าน โดยตั้งใจออกแบบมาเพื่อลดการสัมผัสขอบจอโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับจอแสดงผล Infinity Display หรือ Edge Screen ของ Samsung
Apple จะไม่นำช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร กลับมาใช้อย่างแน่นอน หลังจากถอดออกไปตั้งแต่ iPhone 7 และยังคงรักษาพอร์ต Lightning เอาไว้เหมือนเดิม แต่มีข่าวว่าจะสนับสนุน Wall Charger แบบ USB Type-C เพื่อให้รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว
iPhone 8 จะใช้ระบบเสียงสเตอริโอเหมือนกับ iPhone 7 โดยขับเสียงผ่านลำโพงด้านล่าง และลำโพงหูฟัง Amplified Earpiece
ปุ่ม Power มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งอาจถูกใช้เป็น Touch ID หากไม่สามารถติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือลงบนจอแสดงผลได้สำเร็จ
สิ่งหนึ่งที่แหล่งข่าวยังไม่มั่นใจก็คือการออกแบบ User Interface ของ iOS 11 ให้รองรับกับจอแสดงผลของ iPhone 8 ซึ่งการที่ขาดปุ่มโฮมแบบ Physical จะทำให้การใช้งานแตกต่างออกไปจาก iPhone ที่มีวางจำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนบนของจอแสดงผลจะแสดงเฉพาะสถานะแบตเตอรี่ สัญลักษณ์เครือข่าย รวมถึงการเชื่อมต่อ ส่วนการแจ้งเตือนจะถูกย้ายไปไว้ด้านล่างซึ่งถูกเรียกว่า Function Area เพื่อให้ง่ายในการเข้าถึงรายละเอียดที่มากขึ้น
อีกฟีเจอร์ที่ชัดเจนก็คือกล้องดิจิตอลด้านหลัง จะเป็นเลนส์คู่อย่างแน่นอน แต่จะจัดวางในแนวตั้ง แตกต่างจาก iPhone 7 Plus ที่วางคู่กันในแนวนอน
สุดท้ายคือแบตเตอรี่ แหล่งข่าวระบุว่า iPhone 8 จะใช้แบตเตอรี่ที่มีรูปทรงเหมือนตัว L ซึ่งจะให้พลังงานที่ยาวนานกว่า iPhone 7 Plus ในขณะที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่า
คาดว่า iPhone 8 จะมีให้เลือก 2 ความจุ (ซึ่งอาจมีขนาด 128GB กับ 256GB) ราคาเริ่มต้น 1,100 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 36,760 บาท และ 1,200 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 40,100 บาท ซึ่งทำให้ iPhone 8 กลายเป็น iPhone ที่มีราคาแพงที่สุดของ Apple
ที่มา – Forbes
http://www.flashfly.net/wp/?p=188696