ปฎิเสธกันไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันนั้นการใช้งาน 4G ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ผูกผันกับการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันกันไปแล้ว แน่นอนว่าหลายคนไม่ได้ใช้งานแค่เพียงบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเพียงเครื่องเดียว หลายคนมีอุปกรณ์ที่ต้องการการเชื่อมต่อมากกว่า 1 เครื่อง และอีกหลายคนที่มีการใช้งานกันทั้งครอบครัวแต่ยังต้องแยกบิลค่าใช้จ่ายกันทำให้เสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างแพง วันนี้ลองมาดูวิธีที่จะมาช่วยแก้ปัญหานี้กัน
จะเห็นได้ว่าในหลายครอบครัวนั้นมีการใช้งานทั้งโทรและเน็ตกันหลายเบอร์ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเนื่องจากแยกกันจ่าย รวมไปถึงเรื่องของอุปกรณ์ที่มาในลักษณะของ Internet of Things (IoT) ที่เริ่มมีมาให้ใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น Smart Watch , กล้องดิจิตอล หรือ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ดังนั้นจึงทำให้ความต้องการในการเชื่อมต่อมีมากขึ้น เป็นที่มาของการบริการในลักษณะของ Share Plan หรือการแชร์การใช้งานทั้งเน็ตและโทร ซึ่งเป็นแพ็กเกจที่ทางผู้ให้บริการได้จัดมาให้เพื่อรองรับการใช้งานในลักษณะดังกล่าวนี้
และหนึ่งในแพ็กเกจที่เป็นลักษณะของ Share Plan ที่น่าสนใจจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกันในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งแพ็กเกจที่ทางทรูมูฟ เอช ได้นำออกมาเสนอให้แก่ลูกค้าด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย กับแพ็กเกจ 4G Family Share Plan
ความน่าสนใจของแพ็กเกจ 4G Family Share Plan จากทางทรูมูฟ เอช นั่นก็คือ สามารถแชร์ได้ทั้งเน็ตและโทร สูงสุดถึง 9 เบอร์ โทรหากันฟรีตลอด 24 ชม. และเล่นเน็ต 4G+ แบบ Non-Stop สูงสุดถึง 42 GB อีกด้วย โดยตัวแพ็กเกจมีมาให้เลือกตั้งแต่ ค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นที่ 899 บาทสามารถเล่นเน็ต 4G|3G Non Stop ได้ 14GB โทรฟรีทุกเครือข่าย 500 นาทีและแชร์โทรพร้อมเน็ตได้สูงสุด 5 เบอร์ ไปจนถึงค่าบริการรายเดือนที่ 2,499 บาท สามารถเล่นเน็ต 4G|3G Non Stop ได้ 42GB โทรฟรีทุกเครือข่าย 2,500 นาทีและแชร์โทรพร้อมเน็ตได้สูงสุด 9 เบอร์ รวมถึงยังได้ใช้งาน WiFi ไม่จำกัดอีกด้วย
ซึ่งแพ็กเกจลักษณะของการ Share Plan หรือการแชร์เน็ตและค่าโทรนั้น ทางผู้ให้บริการเครือข่ายในเมืองไทยอีก 2 เจ้าไม่ว่าจะเป็น AIS และ dtac ต่างก็มีแพ็กเกจลักษณะนี้ออกมาให้บริการด้วยเช่นกัน
ซึ่งถ้าลองนำมาทำเป็นตารางเปรียบเทียบจากราคาค่าบริการรายเดือนทีใกล้เคียงกันกับแพ็กเกจ 4G Family Share Plan จากทางทรูมูฟ เอช จะเห็นได้ว่า เมื่อเทียบกับทาง AIS แพ็กเกจของทรูมูฟ เอชนั้นจะสามารถเล่นเน็ตได้แบบ Non-Stop และยังสามารถโทรหากันฟรีตลอด 24 ชม. ทำให้หมดกังวลเรื่องของเน็ตหมดและยังช่วยประหยัดในการโทรหากันภายในกลุ่มได้เพิ่มเติมอีกด้วย ในขณะที่หากเทียบกับทาง dtac จะเห็นได้ว่าในแพ็กเกจที่ราคาเท่ากัน แพ็กเกจของทรูมูฟ เอช จะสามารถใช้งานได้หลายเครื่องกว่า ทำให้ในอนาคตหากต้องการที่จะซื้อเครื่องสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติมก็ไม่ต้องซื้อแพ็กเกจเพิ่มเติมอีกนั่นเอง
ดังนั้น โดยสรุปแล้วแพ็กเกจ 4G Family Share Plan จากทางทรูมูฟ เอช นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายกันแบบทั้งครอบครัว หรือใครที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่อที่มากกว่า 1 เครื่อง เพราะจะสามารถทั้งใช้งานแชร์เน็ตแบบ Non-Stop และแชร์ค่าโทรได้ตั้งแต่ 5 – 9 เบอร์เลยทีเดียว รวมถึงยังสามารถโทรหากันฟรีตลอด 24 ชม.ได้อีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://truemoveh.truecorp.co.th/package