Apple ปล่อยระบบปฏิบัติการ iOS 11 ออกมาอย่างทางการแล้ว แต่สำหรับในประเทศไทย จะเริ่มได้รับการอัพเดทในวันที่ 20 กันยายนนี้ สำหรับเจ้าของ iPhone, iPad รวมถึง iPod touch จะได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่าง รวมถึงการอัพเกรดแอพ Files, วิธีการลากแล้ววาง ตลอดจนการออกแบบส่วนประกอบอื่นๆ แต่ก่อนที่คุณจะได้ลองใช้คุณสมบัติใหม่ๆ ของ iOS 11 เรามาเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์กันก่อนดีกว่า
เริ่มจากมาดูกันว่าอุปกรณ์ iOS ของคุณ สนับสนุนการอัพเดทเป็น iOS 11 หรือไม่ โดยมีอุปกรณ์ที่รองรับดังต่อไปนี้
เตรียมที่ว่างความจำให้พร้อม
iOS 11 มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม นั่นหมายถึง หลังจากอุปกรณ์ iOS อัพเดทมาใช้เวอร์ชั่นล่าสุด พื้นที่ความจุจะเพิ่มขึ้นจากเดิม แต่ว่าคุณต้องเตรียมพื้นที่ให้พร้อมก่อนติดตั้ง iOS 11 ลงไป
แอพพลิเคชั่น 32-bit จะไม่สนับสนุน iOS 11 ดังนั้น ถ้าคุณมีแอพพลิเคชั่นเก่าเหล่านี้ ควรลบออกไปได้แล้ว เพราะการมีพื้นที่ว่างมากที่สุด เป็นสิ่งสำคัญในตอนนี้
แอพโซเชี่ยลอย่าง Facebook หรือ Snapchat สามารถลบออกแล้วติดตั้งใหม่ในภายหลังได้ เพราะแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ ยิ่งใช้ไปนานๆ ยิ่งขยายความจุเพิ่มขึ้นจากแคชต่างๆ สำหรับ WhatsApp สามารถเข้าไปที่ Settings > Data and Storage Usage > Storage Usage และใช้ตัวเลือก Manage คุณจะเห็นว่า WhatsApp ใช้ความจุไปกับประวัติการแชทมากขนาดไหน
สำรองข้อมูลกับ iTunes
ขั้นตอนนี้สำคัญจริงๆ ก่อนอัพเดทไปใช้ iOS 11 ใหม่ เผื่อเกิดข้อผิดพลาดในระหว่างอัพเดท หรืออยากกลับมาใช้ iOS เวอร์ชั่นเก่า หากพบว่า iOS 11 ยังมีปัญหากับอุปกรณ์ของคุณ ดังนั้น ควรสำรองข้อมูลอุปกรณ์ iOS ไว้กับ iTunes และในส่วนพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เราแนะนำให้เลือกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ และควรเลือก Encrypt iPhone backup เพื่อตั้งรหัสผ่านของบัญชีทั้งหมดใน Health และ HomeKit
ติดตั้ง iOS 11
เมื่ออุปกรณ์ของคุณได้รับ iOS 11 คุณสามารถทำการติดตั้งได้ผ่าน iTunes ซึ่งวิธีการนี้จะต้องใช้สายเคเบิลเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ส่วนอีกวิธีที่ง่ายกว่า คือ ติดตั้งโดยตรงจากอุปกรณ์ iOS ของคุณผ่านทาง OTA แต่คุณต้องมั่นใจว่าแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ iOS ถูกชาร์จจนเต็มแล้ว และควรอัพเดทผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi เพราะจะใช้เวลานานพอสมควร
ที่มา – MacRumors
http://www.flashfly.net/wp/?p=193831