บริษัทด้านการลงทุน “แคปสโตน อินเวสเมนต์ส” เผย จำนวนผู้ใช้ “เฟซบุ๊ก” เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ได้ลดจำนวนลงตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา
การเปิดเผยรายงานดังกล่าวส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัท เฟซบุ๊ก อิงค์ ซึ่งมีฐานอยู่ที่เมนโล พาร์ค ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯลดลงทันที 0.6 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 28.09 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 890บาท) หลังปิดการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ขณะที่หุ้นของซิงกา อิงค์ หุ้นส่วนด้านเกมของเฟซบุ๊ก ก็ร่วงลงมา 5.2 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 4.58 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 145บาท) เช่นกัน
รายงานของบริษัทแคปสโตนระบุว่า จำนวนผู้ใช้ของเฟซบุ๊กได้ลดลงราว 1.1 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่โรรี เมเฮอร์ นักวิเคราะห์ของแคปสโตนเผยว่า ในรอบ 3 เดือนล่าสุด ผลสำรวจพบว่าในจำนวน 23 ประเทศทั่วโลกที่เฟซบุ๊กครองตลาดสังคมออนไลน์ได้อย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์นั้น ปรากฏว่า มีถึง 14ประเทศ ที่มียอดการเติบโตของยอดผู้ใช้เพียงเล็กน้อย หรือไม่ก็มีจำนวนผู้ใช้ที่ลดน้อยถอยลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากระแสความนิยมในเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังแห่งนี้ เริ่มถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.2004 แห่งนี้ มีจำนวนผู้ใช้ประเภท “แอ็คทีฟ ยูสเซอร์” ในขณะนี้อยู่ที่ราว 901 ล้านคน โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขณะที่สหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล อินโดนีเซีย และเม็กซิโก ยังครองตำแหน่ง 5 ประเทศที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กสูงที่สุดของโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯที่มีผู้ใช้สูงถึง 157.3 ล้านคน
อ้างอิงจาก – manager






