คาดกันว่า Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งถูกเรียกว่า iPhone 12 เนื่องจาก iPhone ในปีที่แล้วใช้ชื่อ iPhone 11 โดยถูกนำเสนอข่าวลือออกมามากมายในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา และในเวลานี้พอจะสรุปได้อย่างชัดเจน 10 ประเด็นด้วยกัน ตามรายงานของ MacRumors
1. ดีไซน์ใหม่
iPhone 12 ถูกอ้างว่าจะได้รับการออกแบบใหม่ แต่ดูเหมือนว่าจะภาษาการออกแบบคล้ายกับ iPhone 4 ด้วยกรอบโลหะแบนราบขอบเหลี่ยม ประกบด้วยแผงกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คล้ายกับที่พบใน iPad Pro หรือ iPad Air รุ่นที่ 4
iPhone 12 ยังได้รับสีสันใหม่ โดยมีข่าวลือว่าจะมีสีฟ้าอ่อน สีม่วง และ สีส้มอ่อน รวมถึงสีอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วใน iPhone 11 ขณะที่ iPhone 12 Pro จะได้รับสีน้ำเงินเข้ม มาแทนที่สีเขียวมิดไนท์กรีน
2. มีให้เลือก 4 รุ่น ใน 3 ขนาด
iPhone รุ่นใหม่ ถูกอ้างว่าจะมีขนาดหน้าจอ 3 ขนาด จากทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 12 Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว, iPhone 12 กับ iPhone 12 Pro ขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 12 mini ขนาด 5.4 นิ้ว
iPhone 12 mini มีขนาดเล็กกว่า iPhone 11 Pro, iPhone 12 กับ iPhone 12 Pro จะมีขนาดใกล้เคียงกับ iPhone 11 และ iPhone 12 Pro Max จะเป็น iPhone ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แน่นอนว่าใหญ่กว่า iPhone 11 Pro Max
3. 5G
iPhone 12 จะสนับสนุนเทคโนโลยี 5G ทั้ง 4 รุ่น แต่คาดว่าจะมีเฉพาะ iPhone 12 Pro Max ที่รองรับคลื่น mmWave ซึ่งมีความเร็วกว่า ขณะที่รุ่นอื่นรองรับคลื่น sub-6GHz ที่มีความเร็วช้ากว่า แต่สัญญาณกระจายไปได้ไกลกว่า
4. จอแสดงผล OLED
iPhone ในปัจจุบัน มีเฉพาะรุ่น Pro เท่านั้น ที่ได้รับจอแสดงผล OLED แต่ มีข่าวว่า iPhone 12 จะได้รับจอแสดงผล OLED ทั้ง 4 รุ่น ซึ่งหมายความว่า iPhone 12 รุ่นเริ่มต้น จะมาพร้อมจอแสดงผลที่มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ให้สีสันลึกขึ้น และ ให้สีดำที่ดำสนิท
5. ชิปประมวลผล A14 Bionic
iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น จะมาพร้อมชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน ซึ่งก็คือ A14 Bionic และ Apple เริ่มนำมาใช้แล้วกับ iPad Air รุ่นที่ 4 โดยเป็นชิประดับ 5 นาโนโมตร ให้ประสิทธิภาพของซีพียูเพิ่มขึ้น 40% และมีประสิทธิภาพของจีพียูเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับชิป A12 Bionic หรือ ให้ประสิทธิภาพของซีพียูเพิ่มขึ้น 16% และมีประสิทธิภาพของจีพียูเพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับชิป A13 Bionic ของ iPhone 11
6. LiDAR Scanner
คาดว่า iPhone 12 รุ่น Pro จะได้รับกล้องหลัง 3 ตัว พร้อม LiDAR Scanner ที่เริ่มนำมาใช้แล้วกับ iPad Pro 2020 เพื่อยกระดับประสบการณ์ด้าน AR และเพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพ (มีความเป็นไปได้ที่ LiDAR Scanner จะจำกัดไว้เฉพาะ iPhone 12 Pro Max)
LiDAR Scanner ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยวัดระยะทางด้วยการปล่อยแสงเลเซอร์ไปยังเป้าหมาย แล้ววัดระยะทางจากการสะท้อนกลับ และสามารถใช้ระยะทางที่วัดได้ รวมถึงความยาวคลื่น เพื่อสร้างภาพ 3 มิติของเป้าหมายได้
7. ไม่มีจอแสดงผล 120Hz และไม่เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C
สมาร์ทโฟน Android หลายรุ่น มาพร้อมจอแสดงผลที่ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz แต่ฟีเจอร์นี้อาจยังไม่ถูกนำมาใช้กับ iPhone 12 ถึงแม้จะมีข่าวลือออกมาบ้าง โดยนักวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้อย่าง Ming-Chi Kuo มั่นใจว่าจอแสดงผลของ iPhone 12 จะไม่รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz เนื่องจากข้อจำกัดด้านอายุการใช้งานแบตเตอรี่ แต่ยืนยันว่า iPhone ในปี 2021 จะสนับสนุน 120Hz อย่างแน่นอน
สำหรับพอร์จเชื่อมต่อของ iPhone 12 ยังคงใช้พอร์ต Lightning ต่อไป ไม่มีการเปลี่ยนมาใช้ USB-C
8. ความจุ
iPhone 12 กับ iPhone 12 mini ถูกอ้างว่าจะมี 3 ตัวเลือก ได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB แต่ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะเริ่มต้นด้วย 128GB และยังมี 256GB กับ 512GB ให้เลือกด้วย
9. มาพร้อมสายเคเบิลใหม่ แต่ไม่มี Power Adapter และ EarPods
Apple ถูกลือว่า จะไม่แถมหูฟัง EarPods และ Power Adapter มาให้ในกล่อง iPhone 12 ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพื้นฐาน หรือ รุ่น Pro โดยอ้างเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม เหมือนที่ได้ถอด Power Adapter ออกจากกล่อง Apple Watch รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นั่นหมายถึง iPhone 12 อาจจะมีเฉพาะสายเคเบิลเส้นเดียวที่แถมมาให้ในกล่อง แต่ก็มีข่าวดีกว่า สายเคเบิลอาจได้รับการออกแบบใหม่เป็นแบบสายถักที่มีความทนทานมากขึ้น แต่ไม่ชัดเจนว่าสายถักนี้ จะแถมมากับ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น หรือจำกัดเฉพาะรุ่น Pro
10. ราคา
iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น ถูกลือว่าจะมีราคาแตกต่างกันดังนี้…
iPhone 12 mini (5.4”)
64GB ราคา 649 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 20,590 บาท
128GB ราคา 699 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 22,900 บาท
256GB ราคา 799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 25,900 บาท
iPhone 12 (6.1”)
64GB ราคา 749 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 23,900 บาท
128GB ราคา 799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 25,900 บาท
256GB ราคา 899 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28,900 บาท
iPhone 12 Pro (6.1”)
128GB ราคา 999 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 31,590 บาท
256GB ราคา 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34,900 บาท
512GB ราคา 1,299 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 40,900 บาท
iPhone 12 Pro Max (6.7”)
128GB ราคา 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34,900 บาท
256GB ราคา 1,199 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36,900 บาท
512GB ราคา 1,399 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 43,900 บาท