Wednesday, May 28, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

รีวิว Braided Solo Loop และ Solo Loop สาย Apple Watch ใหม่ ที่เบาใส่สบายที่สุดแล้วในเวลานี้

Jackrich T. by Jackrich T.
December 29, 2020
in iPhone, NEWS, Recommended, Review & Preview
0
SHARES
954
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Apple ใช้โอกาสในกิจกรรมเปิดตัว Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แนะนำสาย Apple Watch แบบใหม่ ได้แก่ Solo Loop และ Braided Solo Loop ซึ่งสายทั้ง 2 แบบ มีรูปแบบการใช้งานที่คล้ายกัน แต่ดีไซน์ต่างกัน ส่วนจะมีความพิเศษอย่างไรบ้าง? ทีมงาน @flashfly ได้นำมารีวิวให้ชมแล้ว

แกะกล่อง

สาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop และ Solo Loop ถูกเก็บไว้ในกล่องแบนๆ สีขาว เช่นเดียวกับสายแบบอื่นๆ หน้ากล่องมีรูปภาพของสาย Apple Watch ตามสีสันและดีไซน์ที่เลือกซื้อ

หลังกล่องระบุชื่อของสาย Apple Watch และ ข้อมูลผู้ผลิต สำหรับสายสีแดง PRODUCT(RED) หลังกล่องจะระบุด้วยว่ารายได้จากการจำหน่ายสาย PRODUCT(RED) จะนำไปเข้ากองทุนโลก เพื่อต่อสู้กับโรคเอดส์ และในปีนี้ยังได้นำไปต่อสู้กับ COVID-19 ด้วย

เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับแผ่นพับสีขาว ซึ่งแนบสาย Apple Watch ไว้ภายใน และในแผ่นพับก็มีคำแนะนำในการติดตั้งสายกับ Apple Watch ด้วย

ดีไซน์

สาย Apple Watch แบบ Braided Solo Loop และ Solo Loop มีความเหมือนกันที่ไม่มีตัวล็อคหรือหัวล็อค ทำให้สวมใส่ได้อย่างสบาย และยังง่ายในการสวมหรือถอดออกจากข้อมือ แต่ต้องใช้แรงยืดสายเล็กน้อย

สายแบบ Solo Loop ผลิตด้วยวัสดุยางซิลิโคนเหลว และผ่านการกระบวนการแสง UV แบบพิเศษ เพื่อให้สาย Solo Loop ผิวสัมผัสเรียบลื่นนุ่มนวล 

สายแบบ Solo Loop มีให้เลือก 2 ขนาด (40 มม. / 44 มม.) ปัจจุบันมีให้เลือกถึง 10 สี ได้แก่ สีนอร์ทเทิร์นบลู, สีพลัม, สีกรมท่าเช้ม, สีส้มจี๊ด, สีเหลืองจินเจอร์, สีเขียวไซปรัส, สีชมพูซิตรัส, สีขาว, สีดำ และ สีแดง PRODUCT(RED)

สายแบบ Braided Solo Loop ผลิตจากด้ายโพลีเอสเตอร์ถักหุ้มรอบด้ายซิลิโคน ซึ่งด้ายโพลีเอสเตอร์ทำมาจากเส้นใยที่มีความยาวพิเศษกว่า 16,000 เส้น และผ่านกระบวนการรีไซเคิล 100% จากนั้นนำมาถักเข้ากับด้ายซิลิโคนเส้นบาง

ในรูปแบบโครงสร้าง 300D เพื่อให้ผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม โดยใช้เครื่องถักที่ทันสมัย ก่อนจะนำมาตัดด้วยเลเซอร์ เพื่อให้ได้ความยาวตรงตามที่ต้องการ

สายแบบ Braided Solo Loop มีให้เลือก 2 ขนาด (40 มม. / 44 มม.) มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเขียวอินเวอร์เนสส์, สีชาร์โคล, สีชมพูพันช์, สีแอตแลนติกบลู และ สีแดง PRODUCT(RED)

นอกจากนี้ สายแบบ Solo Loop และ Braided Solo Loop ยังออกแบบมาให้ป้องกันน้ำและกันเหงื่อ จึงสามารถสวมใส่ในขณะว่ายน้ำได้

การเลือกซื้อ

เนื่องจากสายแบบ Solo Loop และ Braided Solo Loop ได้รับการออกแบบมาให้สวมใส่กับข้อมือได้โดยไม่มีหัวล็อค จึงต้องเลือกขนาดสายให้พอดี ถ้าหากซื้อสาย Apple Watch ผ่านเว็บไซต์ทางการของ Apple ก่อนกดสั่งซื้อ จะพบกับคำแนะนำในการวัดขนาด สามารถพิมพ์ตัวอย่างออกมาเทียบขนาดข้อมือได้ หรือ ถ้าไปซื้อที่ร้านค้าโดยตรง ก็แนะนำให้ลองเทียบขนาดก่อนซื้อ

สายแบบ Solo Loop และ Braided Solo Loop รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Watch รุ่น Series 6, SE, Series 5 และ Series 4 โดยตัวเรือน 40 มม. เหมาะสำหรับสายขนาด 1 – 9 และตัวเรือน 44 มม. เหมาะสำหรับสายขนาด 4 – 12 

สายแบบ Solo Loop และ Braided Solo Loop ยังรองรับ Apple Watch Series 3 ด้วย โดยตัวเรือน 38 มม. แนะนำให้ใช้สาย 40 มม. และ ตัวเรือน 42 มม. แนะนำให้ใช้สาย 44 มม.

การเลือกซื้อสายแบบ Solo Loop และ Braided Solo Loop ในตอนแรกควรเลือกขนาดที่สวมใส่แล้วรู้สึกกระชับ แต่ไม่แน่นจนเกินไป เนื่องจากสายรุ่นใหม่นี้ เมื่อผ่านการใช้งานไปสักพัก จะมีการขยายตัวเล็กน้อย จึงไม่ควรเลือกสายที่มีขนาดพอดีจนเกินไป

ราคา

สายแบบ Solo Loop วางจำหน่ายในราคา 1,600 บาท (ราคาเดียวกันทุกขนาดทุกสี) มีให้เลือก 2 ขนาด (40 มม. / 44 มม.) ผลิตออกมาให้เลือกถึง 10 สี ได้แก่ สีนอร์ทเทิร์นบลู, สีพลัม, สีกรมท่าเช้ม, สีส้มจี๊ด, สีเหลืองจินเจอร์, สีเขียวไซปรัส, สีชมพูซิตรัส, สีขาว, สีดำ และ สีแดง PRODUCT(RED)

สายแบบ Braided Solo Loop วางจำหน่ายในราคา 3,100 บาท (ราคาเดียวกันทุกขนาดทุกสี) มีให้เลือก 2 ขนาด (40 มม. / 44 มม.) ผลิตออกมาให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเขียวอินเวอร์เนสส์, สีชาร์โคล, สีชมพูพันช์, สีแอตแลนติกบลู และ สีแดง PRODUCT(RED)

สรุป

สายแบบ Braided Solo Loop และ Solo Loop ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นความสบายของผู้สวมใส่ เนื่องจากไม่มีตัวล็อค ทำให้ไม่รู้สึกมีอะไรมากดทับที่ข้อมือ และเมื่อสวมใส่แล้วก็ให้ความแน่นหนา แต่การสวมใส่จะต้องยืดสายออก เพื่อให้ฝ่ามือรอดผ่านไปได้ ซึ่งการยืดสายออกในช่วงแรกต้องออกแรงพอสมควร 

นอกจากนี้ Apple ยังระบุไว้ว่าสายแบบ Braided Solo Loop และ Solo Loop จะมีการขยายตัวเมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ จึงควรเลือกขนาดสายให้แน่นกระชับข้อมือเล็กน้อย แต่ไม่ควรรัดแน่นจนเกินไป




Tags: Apple WatchBraided Solo Loopsolo loop
ShareTweetShare

Related Posts

ชมคอนเซ็ปต์ Apple Watch X มาพร้อมกล้อง FaceTime มีฟีเจอร์วัดความดันโลหิต
iPhone

Apple ล้มแผนติดกล้องใน Apple Watch ที่เคยตั้งเป้าเปิดตัวในปี 2027

May 26, 2025
Apple Watch Series 10 มาพร้อมฟีเจอร์ลดเสียงลมขณะคุยโทรศัพท์
iPhone

ยอดขาย Apple Watch ลดลง 5 ไตรมาส ติดต่อกัน เนื่องจากไม่มีรุ่นใหม่ออกมา

May 13, 2025
ชมคอนเซ็ปต์ Apple Watch X มาพร้อมกล้อง FaceTime มีฟีเจอร์วัดความดันโลหิต
iPhone

AirPods และ Apple Watch ที่มีกล้องในตัว จะได้รับการเปิดตัวในปี 2027

May 9, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

สัมผัสขุมพลังที่ไม่มีวันหมด ! “realme GT 7 Series” นักฆ่าเรือธงแห่งปีเปิดตัวสุดอลังการที่กรุงปารีส ครั้งแรกของโลก เริ่มต้น 17,999 บาท

สัมผัสขุมพลังที่ไม่มีวันหมด ! “realme GT 7 Series” นักฆ่าเรือธงแห่งปีเปิดตัวสุดอลังการที่กรุงปารีส ครั้งแรกของโลก เริ่มต้น 17,999 บาท

May 27, 2025
Disney+ Hotstar เปิดให้ทดลองดู เฉพาะตอน ไม่มีค่าใช้จ่ายกับ 11 ซีรีส์ดังคุณภาพระดับโลกตั้งแต่วันนี้ถึง 14 สิงหาคม 2568

Disney+ Hotstar เปิดให้ทดลองดู เฉพาะตอน ไม่มีค่าใช้จ่ายกับ 11 ซีรีส์ดังคุณภาพระดับโลกตั้งแต่วันนี้ถึง 14 สิงหาคม 2568

May 27, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');