Friday, December 5, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

เจาะลึกเบื้องหลังดีไซน์ OPPO Find X3 Pro 5G สู่รางวัล Red Dot Award ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต

Jackrich T. by Jackrich T.
May 5, 2021
in Feature, NEWS, OPPO, Recommended, Review & Preview
132
SHARES
20k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกับ OPPO Find X3 มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกอย่างก้าวกระโดด ถือเป็นยุคทองของการสำรวจอวกาศ ที่ไม่เพียงแต่เปิดโลกใหม่ให้กับมนุษยชาติ แต่ยังส่งผลต่อการสร้างแรงบันดาลใจในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกิดจากความสร้างสรรค์ ทั้งสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน และ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

OPPO Find X3 Pro 5G จึงถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่มีความทันสมัย โดยสร้างขึ้นจากแก้วชิ้นเดียวที่ดูลื่นไหลเป็นเส้นโค้งต่อเนื่องกัน และจุดที่เด่นชัดที่สุดของการออกแบบ คือการที่มีกระจกโค้งไหลไปรอบๆ ตัวเรือนกล้องคู่ Gradient Arc Camera สร้างรูปลักษณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน จนได้รับรางวัล Red Dot Award ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต มาดูกันว่าอะไรคือเบื้องหลังของความสำเร็จนี้

การออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากอวกาศ

ทีมออกแบบ สร้างความโค้งบริเวณกล้องหลัง โดยเริ่มต้นด้วยการวาดเส้นโค้งนูน ส่วนโค้งรอบด้านของตัวกล้องให้สัมผัสที่ราบเรียบ พร้อมความเงางามแบบไร้รอยต่อจากด้านหลังของตัวเครื่อง

จุดตัดของส่วนโค้งที่ล้อมรอบกล้องนี้ ไม่สามารถวาดด้วยซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ทั่วไปได้ และเป็นไปไม่ได้เลยในการสร้างภาพขึ้นมาด้วยความคิดแบบเดิมๆ อีกทั้งหากยังยึดติดวิธีการสร้างแบบเดิม จะทำให้ส่วนโค้งมีความไม่สม่ำเสมอ  และจะทำให้พื้นผิวด้านหลังของ OPPO Find X3 Pro 5G มีแสงหักเหกระจัดกระจาย และเกิดแสงสะท้อนที่ยุ่งเหยิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ OPPO จะไม่ยอมให้เกิดขึ้น ความท้าทายนี้ บีบให้ดีไซน์เนอร์ของ OPPO Find X3 Pro 5G ต้องใช้ความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มี ในการสร้างส่วนโค้งที่ไม่เพียงแต่เรียบสนิทโดยไม่มีเหลี่ยมคมเท่านั้น แต่ยังต้องทำให้สะท้อนแสงมีความสว่างที่สม่ำเสมออีกด้วย

การออกแบบ Control points กว่า 2,000 จุด

เพื่อให้บรรลุการออกแบบที่เป็นไปไม่ได้ ทีมออกแบบของ OPPO เลือกใช้กระบวนการที่เรียกว่า “UV point mapping” ซึ่งเป็นการฉายภาพ 2 มิติ ลงบนพื้นผิวแบบ 3 มิติ จากนั้นจึงแบ่งพื้นผิวของส่วนโค้งออกเป็นจุดๆ มากกว่า 2,000 จุด ซึ่งแต่ละจุดสามารถปรับแต่งได้ทีละแบบแยกต่างหาก และการปรับแต่งแต่ละจุดต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้ส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบต่อเนื่อง

หลังจากการพื้นผิวที่มีความโค้งอย่างสมบูรณ์แบบออกมาแล้ว ทีมออกแบบของ OPPO ยังส่งต่อดีไซน์ไปให้ทีมวิศวกรช่วยวัดส่วนโค้ง เพื่อหาจุดบกพร่องหรือความผิดเพี้ยนของส่วนโค้ง แต่ก็ไม่ใช่งานที่ง่ายเช่นกัน ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่เรียกว่า “zebra analysis detection method” เป็นวิธีการฉายเส้นที่แม่นยำลงบนกระจก เพื่อวัดความเรียบของพื้นผิว หากเส้นที่ฉายมีการโค้งงอ นูนขึ้นหรือแสงมีการบิดเบือน นั่นหมายความว่ามีหลุมขนาดเล็กและสันนูนอยู่ในส่วนโค้ง 

สร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

หลังจากมั่นใจได้ถึงความเรียบที่สมบูรณ์แบบที่อยู่ในทุกๆ มิลลิเมตรของส่วนโค้ง OPPO ก็ยังต้องเผชิญกับความยากในกระบวนการผลิต เพราะวิธีการผลิตแก้วหลอมร้อนแบบดั้งเดิม ไม่สามารถสร้างส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบที่ดีไซน์เนอร์ของ OPPO สร้างขึ้นมาได้ เรียกได้ว่า OPPO กำลังจะสร้างสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

ช่างประจวบเหมาะที่ OPPO มีประสบการณ์ในการผลิตเรือธงรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง OPPO Find X2 Pro Automobili Lamborghini Edition ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยส่วนโค้งที่เลียนแบบรูปร่างของรถซูเปอร์คาร์ในตำนาน OPPO จึงใช้เทคนิคเดียวกันมาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้าง OPPO Find X3 Pro 5G ให้มีส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นก่อนจะเริ่มการผลิตได้ OPPO จำเป็นต้องสร้างแม่พิมพ์ที่สมบูรณ์แบบออกมาก่อน แต่ด้วยส่วนโค้ง 3 มิติ ทั้ง 4 ด้าน ทำให้แผงกระจกถอดออกจากแม่พิมพ์ได้ยาก จึงมีการสร้างและปรับรูปแบบของแม่พิมพ์ที่มีความแตกต่างกันถึง 100 แบบ ก่อนที่วิศวกรจะพอใจในประสิทธิภาพ

เมื่อสร้างแม่พิมพ์ออกมาแล้ว ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการตีขึ้นรูปแบบร้อน (hot forging process) โดยใช้แม่พิมพ์ที่ถูกแกะสลักมาจากกราไฟท์ วางลงพร้อมกับแก้วในเตาหลอมอุณหภูมิ 700 องศา ทำให้แก้วนิ่มและอ่อนตัวลง จากนั้นจึงบีบอัดด้วยเครื่องหล่อเพื่อสร้างส่วนโค้งที่แม่นยำ ซึ่งมาจากแรงงานคนจำนวนมากที่ใช้เวลานับไม่ถ้วน และผลที่ได้นั้นใกล้เคียงกับฝาหลังกระจกแบบธรรมดาอย่างน่าทึ่ง

กระบวนการทั้งหมดนี้ ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงวิศวกรรมและการผลิต ต้องอาศัยการควบคุมที่แม่นยำอย่างยิ่งและมีการปรับแต่งอย่างละเอียดบนส่วนโค้ง เพื่อให้แน่ใจว่า OPPO Find X3 Pro 5G จะให้ความรู้สึกที่สมดุลและเป็นธรรมชาติเมื่ออยู่ในมือ ผลลัพธ์ที่ได้คือความไหลลื่น แผ่นกระจกที่ราบเรียบต่อเนื่องมาพร้อมกับความแข็งแกร่งและความสวยงามที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้

ขั้นตอนสุดท้ายของความสมบูรณ์แบบ

กระบวนการผลิต OPPO Find X3 Pro 5G ยังไม่จบ ถ้ายังไม่ได้คำว่าสวยงามสมบูรณ์แบบ และเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น เรือธงรุ่นล่าสุดของ OPPO ต้องให้ประสบการณ์ที่ดีทั้งการสัมผัสด้วยมือ และจ้องมองด้วยสายตา 

OPPO ใช้เทคนิคป้องกันแสงสะท้อนแบบใหม่กับ OPPO Find X3 Pro 5G จนเกิดเป็นพื้นผิวด้านที่ไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกของแก้วที่ลื่นไหลราวกับผ้าไหม แต่ยังให้ความทนทานต่อลายนิ้วมือที่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นผิวจะเรียบเนียนตลอดเวลา

OPPO Find X3 Pro 5G ในตัวเลือก Gloss Black ผ่านการเคลือบเซรามิกที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ให้ความคงทน ความลึกล้ำ และความงามอย่างเหลือเชื่อ ขณะที่สี Blue มาพร้อมพื้นผิวแบบ dual-tone ที่จะเปลี่ยนการสะท้อนของแสงให้เป็นคลื่นที่กระจายออก และมีรูปแบบของสีที่ชวนให้หลงใหล

อย่างไรก็ตาม การลงสีบนแผ่นกระจก กลายเป็นความท้าทายที่สำคัญของวิศวกร เนื่องจากส่วนโค้งของ OPPO Find X3 Pro 5G ทำให้ฟิล์มสีมีรอยย่นและเกิดฟองอากาศที่ไม่น่ามอง เพื่อแก้ไขปัญหานี้ วิศวกรของ OPPO จึงใช้กระบวนการเคลือบ OC0+ ซึ่งเป็นการพ่นหมึกที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม 

กระบวนการเคลือบ OC0+ ช่วยสร้างความสม่ำเสมอ ทำให้ผิวเรียบช่วยเพิ่มแสงสะท้อนในแก้ว และยังลดโอกาสที่กระจกจะแตกร้าวหากทำหล่น  โดย 50% ของฟิล์มเพิ่มเติมที่วางอยู่บนพื้นผิวของกระจกด้านใน จะช่วยป้องกันไม่ให้กระจกแตกหัก และไม่ก่อให้เกิดอันตรายหากได้รับความเสียหายจากแรงกระแทก

ผลตอบแทนจากการทำงานอย่างหนัก

ดีไซน์ของ OPPO Find X3 Pro 5G มีความงามที่เรียบง่าย แต่เบื้องหลังเกิดจากการทำงานที่น่าทึ่งและมีความซับซ้อน ทีมออกแบบและวิศวกรของ OPPO ต้องเผชิญความยากลำบากตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงกระบวนการผลิต แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่า เพราะสามารถคว้ารางวัล Red Dot Award: Product Design 2021 มาครอบครองได้

Red Dot Design Awards เป็นรางวัลด้านการออกแบบในระดับมืออาชีพที่มีชื่อเสียงที่สุดในระดับโลก โดยมีผลงานเข้าร่วมเพื่อพิจารณาด้านการออกแบบถึงหลายพันชิ้นที่มาจากทั่วโลก มากกว่า 60 ประเทศ

ที่สุดของสมาร์ทโฟนในยุคนี้

นอกจากความเป็นเลิศทางด้านดีไซน์ ความสำเร็จของ OPPO Find X3 Pro 5G ยังมาจากความเป็นที่สุดในทุกด้าน เริ่มตั้งแต่จอแสดงผลพันล้านสี สามารถแสดงผลบนหน้าจอได้อย่างคมชัดและสมจริง บนหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว แบบ 1 Billion Colour Display QHD+  ปลุกสีสันในชีวิตมากกว่าที่เคย พร้อม  Adaptive Refresh Rate  120Hz  ที่ให้ความลื่นไหลไม่มีสะดุดและสามารถปรับการแสดงผลให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ได้ 

ไม่เพียงแค่นั้น OPPO Find X3 Pro 5G  เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรก ที่มาพร้อมกล้องหลักคู่ 1 พันล้านสี บนความละเอียด  50 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์  Sony IMX766  บนกล้อง Wide-angle  และ  Ultra-wide-angle  ทำให้สามารถจับภาพนิ่งหรือวิดีโอในสีสันพันล้านสีได้หลากหลายมุมมอง พร้อมให้มองโลกในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนผ่านมุมมองแบบกล้องจุลทรรศน์ด้วย Microlens กำลังขยายสูงสุดถึง 60 เท่าจากที่ตามองเห็น สามารถเห็นได้แม้กระทั่งรายละเอียดของใยผ้าของเสื้อผ้าที่กำลังสวมใส่ หรือรายละเอียดเล็กๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

OPPO Find X3 Pro 5G ยังให้ประสิทธิภาพสูง ด้วยชิปประมวลผลระดับเรือธง Qualcomm Snapdragon 888 ความจำ  RAM 12GB  จับคู่กับ  ROM 256GB รองรับเกมที่ต้องใช้สเปกสูงที่สุดได้ พร้อมประมวลผลระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ในขณะที่ประหยัดพลังงานและสามารถควบคุมอุณหภูมิตัวเครื่องได้อย่างดี อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G แบบ Dual mode ให้ความเร็วที่เสถียรแม้จะใช้งานในสถานที่ที่หลากหลาย

นอกจากนี้ OPPO Find X3 Pro 5G  ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง  4500mAh  บนดีไซน์บางเฉียบ และสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว  65W SuperVOOC 2.0  สามารถชาร์จแบตเตอรี่  40%  ได้ในเวลาเพียง  10  นาที และชาร์จไวแบบไร้สาย  30W AirVOOC Wireless Flash Charge  ชาร์จ  100%  ในเวลาเพียง  80  นาที พร้อมรับรองความปลอดภัยจาก  TÜV Rheinland Certified  เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสบายใจ

สรุป

เรียกได้ว่า OPPO Find X3 Pro 5G เป็นยุคใหม่ของการออกแบบสมาร์ทโฟน ที่ผลักดันขีดจำกัดของการออกแบบและวิศวกรรมจากที่ไม่มีทางเป็นไปได้ให้เป็นไปได้ จนออกมาเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงระดับไฮเอนด์ที่ต้องลองไปสัมผัสเครื่องจริงดูสักครั้ง เพราะนอกจากจะมีดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียมแล้ว ยังมีความทนทานต่อน้ำและฝุ่นละอองที่ระดับ IP68 พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นจอภาพ ระบบกล้อง ชิปประมวลผล การเชื่อมต่อมาตรฐานล่าสุด แบตเตอรี่ และยังเป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่นในด้านเทคโนโลยีชาร์จเร็ว

OPPO Find X3 Pro 5G พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา  33,990 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Gloss Black ผ่านการเคลือบฝาหลังแบบพิเศษ เพื่อให้มีการสะท้อนคล้ายเซรามิก ให้ความสง่างามในทุกองศา และ สีฟ้า Blue Matte ใช้วัสดุ Frost Matte ผิวด้าน ให้สัมผัสนุ่มนวลราวกับผ้าไหม พร้อมป้องกันรอยเปื้อนและรอยนิ้วมือได้อย่างดี

รีวิว OPPO Find X3 Pro 5G สุดยอดแฟลกชิพ กล้องหลักคู่พันล้านสี 50MP ครั้งแรกของโลก






Tags: Gradient ArcOPPOOPPO Find X3 Pro
ShareTweetShare

Related Posts

OPPO จัดเต็มส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ยกทัพสมาร์ตโฟน และอุปกรณ์ IoT ด้วยโปรโมชันสุดคุ้มในแคมเปญ New Year New Phone
NEWS

OPPO จัดเต็มส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ยกทัพสมาร์ตโฟน และอุปกรณ์ IoT ด้วยโปรโมชันสุดคุ้มในแคมเปญ New Year New Phone

December 4, 2025
NEWS

OPPO Reno15 Series 5G ผ่านการรับรองจาก กสทช. เรียบร้อยแล้ว มีให้เลือก 3 รุ่น

November 26, 2025
NEWS

OPPO Find X9s และ Find X9 Ultra จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมและเมษายน 2026 ตามลำดับ

November 25, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • เปรียบเทียบ 2 เรือธงแห่งปี Galaxy S25 Ultra vs iPhone 17 Pro Max

    788 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Apple Arcade เพิ่ม 4 เกมใหม่ เล่นได้แล้ววันนี้!!

Apple Arcade เพิ่ม 4 เกมใหม่ เล่นได้แล้ววันนี้!!

December 5, 2025
ผู้บริหารของ Apple นำ iPhone Air ให้สื่อนอกทดสอบความทนทาน

ราคาขายต่อ iPhone Air ลดลงเกือบครึ่ง อ้างอิงจากผลสำรวจในสหรัฐอเมริกา

December 5, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');