Apple เปิดเผยแผนงานที่จะขยายโครงการ Today at Apple Creative Studios ไปสู่ครีเอทีฟรุ่นใหม่ซึ่งมาจากกลุ่มคนที่มีอยู่เป็นสัดส่วนน้อยทั่วโลก โปรแกรมส่วนขยายดังกล่าวมีทั้งการให้คำปรึกษาในการสร้างอาชีพ การฝึกอบรม และแหล่งข้อมูลด้านศิลปะหลากหลายแขนง ซึ่งครั้งนี้ได้รวมถึงหลักสูตรแบบใหม่หมดในด้านการออกแบบแอป การทำพ็อดคาสท์ การผลิตคอนเทนต์ที่ใช้ระบบเสียงตามตำแหน่ง และการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยในปีนี้ Creative Studios จะเปิดตัวใน 7 เมืองแห่งใหม่ ได้แก่ แนชวิลล์ ไมอามี เบอร์ลิน มิลาน ไทเป โตเกียว และซิดนีย์ และจะวนกลับมาจัดงานเป็นปีที่สองสำหรับชิคาโก วอชิงตัน ดี.ซี. นิวยอร์กซิตี้ ลอนดอน ปารีส กรุงเทพฯ และปักกิ่ง”สาขาต่างๆ ของเราได้มอบเวทีในการแสดงฝีมือแก่เหล่าศิลปินอัจฉริยะในพื้นที่มายาวนาน และทีม Retail ของเราก็ภูมิใจที่ได้มีบทบาทในการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ภายในชุมชนและสร้างสถานที่ซึ่งพร้อมต้อนรับทุกคน” Deirdre O’Brien รองประธานอาวุโสฝ่าย Retail + People ของ Apple กล่าว “เรารู้สึกขอบคุณอย่างมากต่อ Apple Creative Pros, สมาชิกในทีม Retail ของเรา และเหล่าพันธมิตรในพื้นที่ ซึ่งร่วมมือกันจนทำให้เราสามารถขยายการเข้าถึงการศึกษาและการให้คำปรึกษาด้านศิลปะโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแก่ชุมชนจำนวนมากยิ่งขึ้น”
Creative Studios ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่พบเจอกับอุปสรรคในการเข้ารับการศึกษาเชิงสร้างสรรค์อย่างมีคุณภาพ โดยได้เชื่อมโยงผู้เข้าร่วมงานเข้ากับที่ปรึกษาจาก Apple และพันธมิตรในชุมชนที่ไม่แสวงหากำไรอีกกว่า 30 แห่ง ซึ่งเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น หนังสือและการเล่าเรื่อง การออกแบบแอป การจัดรายวิทยุและพ็อดคาสท์ การถ่ายภาพ ภาพยนตร์ และทีวี ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับการศึกษาแบบที่ได้ลองปฏิบัติเอง การฝึกอบรม และความคิดเห็นเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ของตนเอง นอกเหนือจากการฟูมฟักทักษะเชิงสร้างสรรค์ ที่ปรึกษายังชักชวนให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลองคิดว่า พรสวรรค์ของตนเองจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในชุมชนของตนเองอย่างไร
สาขาของ Apple Store ในบางเมืองยังจัดเซสชั่น Today at Apple Creative Studios ด้วยเช่นกัน และดำเนินการโดยศิลปินที่ได้รับการยอมรับซึ่งจะคอยให้คำปรึกษาแก่คนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมงานผ่าน Creative Studios และ Apple Creative Pros โดยกิจกรรมฟรีเหล่านี้เปิดกว้างแก่ทุกคน และสามารถลงทะเบียนได้ที่ apple.com/th/today“ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้บอกเล่าความหลงใหลในเทคโนโลยีของ Apple และในการเล่าเรื่องให้กับคนรุ่นใหม่เหล่านี้” Rudy P. ซึ่งเป็น Apple Creative Pro ที่ Apple Store สาขา Carnegie Library ในวอชิงตัน กล่าว “เทคโนโลยีมีบทบาทในชีวิตของผมมาตั้งแต่วัยรุ่นและเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของผมโดยสิ้นเชิง ความหวังของผมต่อผู้แต่งเรื่องเหล่านี้ก็คือ อยากให้พวกเขาเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเองต่อไป เพราะโลกต้องการมุมมองจากคนเหล่านี้”
ปีที่แล้วมีคนรุ่นใหม่กว่า 400 คนที่เข้าร่วมโปรแกรม Creative Studios โดยหลายชุมชนได้ร่วมยินดีไปกับหนังสือ ภาพยนตร์ และดนตรีที่ผู้เข้าร่วมงานได้จัดทำขึ้น และแสดงผลงานศิลปะของผู้เข้าร่วมงานผ่านทาง Apple TV, Apple Books และ Apple Musicโปรแกรมในปีนี้มีดังต่อไปนี้
การออกแบบแอป (นิวยอร์ก)
กิจกรรมใหม่สำหรับปีนี้ โดย Creative Studios ที่นิวยอร์กจะให้คำปรึกษา ข้อมูลเชิงลึก และแหล่งข้อมูลต่างๆ แก่ครีเอทีฟที่เป็นสตรีและคนหลากเพศ เพื่อวางคอนเซ็ปต์ของแอปที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
หนังสือและการเล่าเรื่อง (ไมอามีและวอชิงตัน)
ครีเอทีฟรุ่นใหม่ในวอชิงตันจะได้ฝึกฝนทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์และการเล่าเรื่องด้วยภาพ ผ่านการจัดทำหนังสือบอร์ดบุ๊ก หนังสือเสียง และสตอรี่บอร์ด ที่ไมอามี Apple ได้จับมือกับพันธมิตรในชุมชน ซึ่งก็คือ O, Miami เพื่อจัดโปรแกรมสำหรับศิลปินหน้าใหม่ในกลุ่ม BIPOC+ โดยชวนศึกษาการเล่าเรื่องผ่านการจัดทำหนังสือเสียงฉบับเล็ก
ดนตรี วิทยุ และพ็อดคาสท์ (เบอร์ลิน แนชวิลล์ ชิคาโก และปารีส)
นักดนตรีผู้มุ่งมั่นในเบอร์ลินจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตรายการวิทยุ พร้อมสำรวจธีมการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายใต้คำชี้แนะจากที่ปรึกษาผู้มอบแรงบันดาลใจ ซึ่งทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Refuge Worldwide และ Open Music Lab ที่แนชวิลล์ โปรแกรมที่จัดขึ้นเป็นการร่วมมือกับ National Museum of African American Music ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการบันทึกเสียงตามตำแหน่ง โดยจะอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมงานได้เข้าถึงสตูดิโอ Apple Music ที่ปารีส ผู้เข้าร่วมงานจะได้เสริมสร้างทักษะด้านการเล่าเรื่องอย่างสร้างสรรค์ วิศวกรรมด้านเสียง และการอัดเสียงผ่านโปรแกรมใหม่ที่เน้นเรื่องการทำพ็อดคาสท์ และที่ชิคาโก ครีเอทีฟรุ่นใหม่จากเซาท์เวสต์ไซด์จะมาบอกเล่าเรื่องราวภายใต้ธีมการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและอัตลักษณ์ ผ่านประสบการณ์ที่มุ่งเน้นการผลิตรายการวิทยุและการทดลองด้านเสียง/วิดีโอ
ศิลปะและการออกแบบ (ไทเปและมิลาน)
Creative Studios ในไทเปและมิลานจะเชื่อมโยงที่ปรึกษาเข้ากับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ไฟแรงระหว่างที่แต่ละคนศึกษาเรื่องอัตลักษณ์ และออกแบบ สร้างสรรค์ และโปรโมตคอนเทนต์ที่สื่อถึงตนเองและชุมชน ที่มิลาน ผู้เข้าร่วมงานจะมีโอกาสสร้างสรรค์ภูมิทัศน์ทางสื่อที่เปิดกว้างด้านความแตกต่างผ่านโปรแกรมซึ่งยกย่องความหลากหลายในด้านแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ซึ่งนำโดย Afro Fashion ส่วนโปรแกรมที่ไทเปจะเป็นการสร้างพื้นที่อันปลอดภัยแก่คนรุ่นใหม่ในการศึกษาเรื่องเพศภาวะและอัตลักษณ์ผ่านความคิดสร้างสรรค์ โปรแกรมเหล่านี้จะช่วยแนะนำผู้เข้าร่วมงานผ่านการผลิตผลงาน คอยให้คำปรึกษาและมอบแรงบันดาลใจ และเปิดช่องทางให้เข้าถึงแหล่งข้อมูลและข้อมูลวงในของวงการออกแบบ
การถ่ายภาพ ภาพยนตร์ และทีวี (ลอนดอน ซิดนีย์ ปักกิ่ง ญี่ปุ่น และกรุงเทพฯ)
ผู้เข้าร่วมงานในลอนดอนและซิดนีย์จะได้ศึกษาอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และภาพตัวแทน เพื่อใช้จัดทำภาพยนตร์สารคดีเรื่องสั้นและเสริมสร้างทักษะด้านการถ่ายทำภาพยนตร์ การกำกับ และการตัดต่อ พร้อมด้วยความคิดเห็นและข้อมูลเชิงลึกจากศิลปินที่ได้รับการยอมรับ ที่ปักกิ่งและโตเกียว ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับคำชี้แนะระดับมืออาชีพซึ่งเจาะลึกด้านการถ่ายภาพและวิดีโอ เพื่อใช้เป็นสื่อในการบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง ที่กรุงเทพฯ Apple ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในชุมชนเป็นปีที่สอง ซึ่งก็คือมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ โดยเปิดโอกาสให้ครีเอทีฟรุ่นใหม่ได้ศึกษาเซสชั่นมากมายของ Apple ที่สอนโดยทีม Creative Pro จาก Apple ซึ่งโปรแกรม 6 สัปดาห์ในสาขาจะเน้นไปที่การถ่ายภาพและการสร้างสรรค์ผลงานดนตรี
