Apple เปิดตัว iPhone 14 และ iPhone 14 Plus อย่างทางการแล้ว โดยทั้งคู่มาพร้อมคุณสมบัติแบบเดียวกัน แตกต่างกันที่ขนาดตัวเครื่องรวมถึงจอแสดงผล และยังถือเป็นการนำชื่อ Plus กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งรุ่นสุดท้ายที่ใช้ชื่อ Plus คือ iPhone 8 Plus ที่เปิดตัวในปี 2017

iPhone 14 มาพร้อมจอแสดงผล Super Retina XDR OLED ขนาด 6.1 นิ้ว (iPhone 14 Plus ขนาด 6.7 นิ้ว) ความสว่างสูงสุด 1,200 นิต ใช้ชิป A15 Bionic (GPU แบบ 5-core) มี 5 สี ให้เลือก ได้แก่ Midnight, Starlight, Blue, Purple และ Product(RED)

iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ได้รับการปรับปรุงกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น ขนาดพิกเซล 1.9 ไมครอน รูรับแสง F/1.5 ปรับปรุงการจับภาพในที่แสงน้อย 49% มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์ (Sensor‑shift OIS)
กล้องหน้าของ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.9 มีระบบออโต้โฟกัส ได้รับการปรับปรุงการจับภาพในที่แสงน้อย และปรับปรุง TrueDepth Camera ให้โฟกัสเร็วขึ้นแม้ในที่แสงน้อย

การปรับปรุงครั้งสำคัญของ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus คือสนับสนุนการเชื่อมต่อดาวเทียม กรณีที่อยู่ในบริเวณไร้สัญญาณมือถือ ก็ยัวสามารถแชร์ตำแหน่งกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย และขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ อย่างไรก็ตาม บริการช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านดาวเทียม ยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐอเมริกา กับแคนาดา และจะพร้อมใช้งานในเดือนพฤศจิกายนนี้
iPhone 14 ราคาเริ่มต้น 799 ดอลล่าร์สหรัฐ และ iPhone 14 Plus ราคาเริ่มต้น 899 ดอลล่าร์สหรัฐ มี 5 สี ให้เลือก ได้แก่ Midnight, Starlight, Blue, Purple และ Product(RED)






