Thursday, May 22, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

Apple เปิดตัว HomePod (รุ่นที่ 2) ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงและความชาญฉลาดระดับสะเทือนวงการ

Jackrich T. by Jackrich T.
January 18, 2023
in iPhone, NEWS, PR News
0
SHARES
1.3k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

วันนี้ Apple ได้ประกาศเปิดตัว HomePod (รุ่นที่ 2) ซึ่งเป็นลำโพงอัจฉริยะอันทรงพลังที่มีระบบเสียงสุดล้ำในดีไซน์สวยงามไม่ซ้ำใคร HomePod ที่อัดแน่นไปด้วยหลากหลายนวัตกรรมจาก Apple และความชาญฉลาดของ Siri นี้มีระบบเสียงขั้นสูงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังระดับสะเทือนวงการ พร้อมรองรับแทร็คเพลงที่ใช้ระบบเสียงตามตำแหน่งเพื่อความเต็มอิ่มสมจริง วิธีการใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้จัดการงานประจำวันและควบคุมบ้านอัจฉริยะได้อย่างง่ายดายช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างการทำงานอัตโนมัติของบ้านอัจฉริยะได้ผ่าน Siri รับการแจ้งเตือนเมื่อเซ็นเซอร์ส่งเสียงว่าตรวจพบควันไฟหรือก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในบ้าน รวมทั้งตรวจดูอุณหภูมิและะความชื้นของห้องได้แบบไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใดๆ เลย

“HomePod รุ่นใหม่คือการนำความเชี่ยวชาญด้านเสียงและนวัตกรรมต่างๆ ของเรามาใช้พัฒนาตัวเครื่องให้สามารถมอบเสียงเบสที่ทุ้มลึก เสียงกลางที่เป็นธรรมชาติ และเสียงสูงที่ใสคมชัด” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “แม้ HomePod mini จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม แต่เราก็ยังเห็นว่า HomePod รุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าก็ยังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการเสียงที่ทรงพลังมากขึ้น เราจึงตื่นเต้นมากกับการเปิดตัว HomePod รุ่นใหม่ให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้เลือกซื้อ”

การออกแบบท่ีประณีต

ผ้าตาข่ายแบบไร้รอยต่อไม่ขวางกั้นพลังเสียงและพื้นผิวสัมผัสแบบแบ็คไลท์ที่จะสว่างขึ้นแบบขอบจรดขอบช่วยให้ HomePod รุ่นใหม่ดูสวยงามเหมาะกับการนำไปวางตกแต่งทุกพื้นที่ HomePod มีวางจำหน่ายในสีขาวและสีมิดไนท์ ซึ่งเป็นสีใหม่ที่ผลิตขึ้นจากผ้าตาข่ายรีไซเคิล 100% และมาพร้อมกับสายไฟแบบถักสีเข้ากัน

อุปกรณ์ HomePod (รุ่นที่ 2) สองเครื่องแสดงอยู่บนพื้นหลังสีขาว

ขุมพลังแห่งเสียงเพลง

HomePod มอบคุณภาพเสียงเหนือระดับ ให้ทั้งเสียงเบสทุ้มลึกและเสียงสูงที่น่าประทับใจ วูฟเฟอร์แบบ High Excursion ที่ผ่านการปรับแต่งด้านวิศวกรรมมาเป็นพิเศษ มอเตอร์ทรงพลังที่ใช้ไดอะแฟรมขนาดถึง 20 มม. ไมค์ในตัวแบบ Bass-EQ และชุดทวีตเตอร์ 5 ตัวเรียงแบบบีมฟอร์มมิ่งอยู่รอบฐานต่างทำหน้าที่ประสานกันเพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านเสียงอันทรงพลัง ชิป S7 ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีระบบตรวจจับเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นระบบเสียงขั้นสูงกว่าเดิมที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ระบบเสียงแสดงพลังได้ถึงขีดสุดและผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์รับฟังเสียงเพลงในระดับสะเทือนวงการ

ส่วนประกอบภายใน HomePod (รุ่นที่ 2)

เทคโนโลยีตรวจจับสภาพห้องช่วยให้ HomePod นำข้อมูลเสียงสะท้อนจากพื้นผิวใกล้เคียงมาประมวลผลว่าตอนนี้ตัวเครื่องวางอยู่ชิดผนังห้องหรือตั้งอยู่กลางห้อง แล้วนำไปปรับเปลี่ยนลักษณะเสียงได้แบบเรียลไทม์ การควบคุมแบบสองทิศทางอันแม่นยำของชุดทวีตเตอร์ 5 ตัวที่เรียงแบบบีมฟอร์มมิ่งสามารถแยกและยิงแนวเสียงทั้งแบบตรงและแบบแวดล้อม เพื่อให้ผู้ฟังได้ดื่มด่ำสัมผัสเสียงร้องที่ชัดใสและเสียงเครื่องดนตรีแบบเต็มอิ่ม

หยุดฉายวีดีโอ: การรับรู้ตำแหน่ง

เทคโนโลยีตรวจจับสภาพห้องช่วยให้ HomePod ปรับลักษณะเสียงได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้ผู้ฟังได้ดื่มด่ำสัมผัสเสียงร้องที่ชัดใสและเสียงเครื่องดนตรีแบบเต็มอิ่ม

ผู้ใช้งานเลือกรับฟังเพลงได้จาก Apple Music ซึ่งบรรจุเพลงต่างๆ ไว้มากกว่า 100 ล้านเพลง1 เพลิดเพลินไปกับระบบเสียงตามตำแหน่งใน HomePod เครื่องเดียวหรือใช้สองเครื่องแบบคู่เสียงสเตอริโอ หรือสร้างประสบการณ์โฮมเธียร์เตอร์แบบสมจริงด้วย Apple TV 4K นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้ Siri เพื่อเข้าถึงความรู้ด้านดนตรี หรือจะค้นหาเพลงตามศิลปิน ชื่อเพลง เนื้อร้อง ปีทศวรรษ แนวเพลง อารมณ์ หรือกิจกรรมก็ทำได้

ยกระดับให้ประสบการณ์ด้านเสียงด้วยการใช้ลำโพง HomePod หลายเครื่อง

การใช้ HomePod หรือ HomePod mini ร่วมกันหลายเครื่องจะช่วยปลดล็อคให้คุณได้ใช้หลากหลายคุณสมบัติอันเยี่ยมยอด เมื่อใช้ระบบเสียงที่เล่นพร้อมกันในหลายห้องด้วย AirPlay2 ผู้ใช้งานสามารถพูดว่า “หวัดดี Siri” หรือแตะค้างไว้ที่ด้านบนของ HomePod เพื่อสั่งให้เล่นเพลงเดียวกันผ่านลำโพง HomePod หลายตัว เล่นเพลงแตกต่างกันในลำโพง HomePod แต่ละตัว หรือแม้แต่ใช้ลำโพงเป็นอินเตอร์คอมเพื่อประกาศข้อความไปยังห้องอื่นๆ 

ผู้ใช้งานยังสามารถสร้างคู่เสียงสเตอริโอโดยใช้ลำโพง HomePod สองเครื่องซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้อีกด้วย3 ซึ่งนอกจากจะเล่นเพลงในช่องเสียงซ้ายและขวาแยกกันแล้ว คู่เสียงสเตอริโอนี้ยังจะเล่นเพลงในแต่ละช่องเสียงให้สอดคล้องลงตัวกัน เพื่อสร้างมิติเสียงที่กว้างขึ้นและสมจริงมากกว่าคู่ลำโพงสเตอริโอทั่วไป ผู้ใช้งานจึงได้รับประสบการณ์ด้านเสียงที่โดดเด่นเหนือใคร

ลำโพง HomePod สองเครื่องแสดงอยู่เป็นคู่เสียงสเตอริโอ

การทำงานร่วมกับระบบนิเวศของ Apple อย่างราบรื่น

เรานำเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์มาใช้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถย้ายสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บน iPhone เช่น เพลงโปรด พ็อดคาสต์ หรือแม้แต่สายที่โทรค้างอยู่ มาเปิดเล่นเสียงต่อที่ HomePod ได้โดยตรง4 ทุกคนในบ้านสามารถควบคุมสิ่งที่กำลังเล่นอยู่หรือรับเพลงที่ปรับแต่งตามผู้ใช้งานและการแนะนำพ็อดคาสต์ได้ง่ายๆ เพียงนำ iPhone มาอยู่ใกล้กับ HomePod แล้วคำแนะนำจะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้น HomePod ยังจดจำเสียงได้มากถึง 6 เสียง สมาชิกแต่ละคนในบ้านจึงรับฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ของตัวเอง ถามข้อมูลเรื่องการเตือนความจำ และเพิ่มกิจกรรมลงในปฏิทินได้

HomePod สามารถจับคู่กับ Apple TV 4K ได้อย่างง่ายดายเพื่อสร้างประสบการณ์โฮมเธียร์เตอร์อันทรงพลัง และการรองรับ eARC (Enhanced Audio Return Channel)5 บน Apple TV 4K ก็ช่วยให้ลูกค้าสามารถนำ HomePod ไปใช้เป็นระบบเสียงสำหรับอุปกรณ์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่ออยู่กับทีวี และด้วย Siri บน HomePod ผู้ใช้งานจึงสามารถควบคุมสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บน Apple TV ได้แบบไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใดๆ เลย

การใช้แอป “ค้นหาของฉัน” กับ HomePod ทำให้ผู้ใช้งานทราบตำแหน่งของอุปกรณ์ Apple เครื่องต่างๆ เช่น iPhone ได้ด้วยการเปิดให้อุปกรณ์ที่หาไม่เจอนั้นส่งเสียงออกมา นอกจากนั้น ผู้ใช้งานยังสามารถใช้ Siri เพื่อขอทราบตำแหน่งที่ตั้งของเพื่อนๆ หรือบุคคลที่รักซึ่งได้เแชร์ตำแหน่งที่ตั้งผ่านแอปนี้ได้อีกด้วย

ผู้ใช้งานที่กำลังถือ iPhone อยู่เหนือ HomePod (รุ่นที่ 2)

สิ่งจำเป็นสำหรับบ้านอัจฉริยะ

คุณสมบัติการจำเสียง6 ทำให้ HomePod จะคอยฟังเสียงของเซ็นเซอร์ตรวจจับควันไฟหรือก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ แล้วส่งการแจ้งเตือนไปที่ iPhone ของผู้ใช้งานโดยตรงเมื่อเซ็นเซอร์ส่งเสียงเตือน เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในตัวนี้ตรวจวัดข้อมูลภายในบ้านได้ ผู้ใช้งานจึงสามารถสร้างการทำงานอัตโนมัติให้ปิดม่านหรือพัดลมโดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิในห้องอยู่ถึงจุดที่กำหนดไว้

เมื่อใช้งาน Siri ลูกค้าจะสามารถควบคุมอุปกรณ์หนึ่งชิ้นหรือสร้างบรรยากาศอย่าง “อรุณสวัสดิ์” ที่จะสั่งให้อุปกรณ์เสริมด้านบ้านอัจฉริยะหลายเครื่องทำงานพร้อมกัน หรือสร้างการทำงานอัตโนมัติที่เกิดซ้ำได้โดยไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใดๆ เลย เพียงสั่งว่า​ “หวัดดี Siri เปิดม่านทุกวันตอนพระอาทิตย์ขึ้น”7 เสียงยืนยันเสียงใหม่จะช่วยให้คุณทราบว่า Siri ทำตามคำขอให้ควบคุมอุปกรณ์เสริมสำเร็จแล้ว ซึ่งมีประโยชน์กับอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น เครื่องทำความร้อน หรืออุปกรณ์เสริมที่อยู่ห้องอื่น เสียงแอมเบียนซ์ เช่น เสียงทะเล เสียงป่า และเสียงฝนตก ก็ได้รับการรีมาสเตอร์และผสานให้เข้ากับประสบการณ์ต่างๆ ได้อย่างลงตัวมากขึ้น ผู้ใช้งานจึงสามารถเพิ่มเสียงใหม่ๆ นี้ลงไปในบรรยากาศ การทำงานอัตโนมัติ และใช้เป็นเสียงแจ้งเตือนได้

ผู้ใช้งานยังสามารถเลื่อนหา ดู และจัดเรียงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยแอปบ้านที่มาในดีไซน์ใหม่ มีหมวดหมู่ต่างๆ เพิ่มเข้ามาสำหรับอุปกรณ์ด้านสภาพอากาศ แสงไฟ และความปลอดภัย ช่วยให้ตั้งค่าและควบคุมบ้านอัจฉริยะได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้น แอปนี้ยังมีมุมมองใหม่อย่างมุมมองกล้องหลายตัวอีกด้วย

IPhone แสดงอยู่ถัดจาก HomePod (รุ่นที่ 2)

การรองรับ Matter

Matter ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วจะเข้ามาช่วยให้ผลิตภัณฑ์ด้านบ้านอัจฉริยะสามารถทำงานข้ามระบบนิเวศ ในขณะที่ยังคงรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดไว้ได้ Apple เป็นหนึ่งในสมาชิกของ Connectivity Standards Alliance ร่วมกับบริษัทชั้นนำอื่นๆ ของวงการที่นำเสนอมาตรฐาน Matter HomePod สามารถเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานตามมาตรฐาน Matter รวมถึงทำหน้าที่เป็นฮับที่จำเป็นต้องมีไว้ภายในบ้าน เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงสิ่งต่างๆ ในบ้านได้จากนอกบ้าน

ข้อมูลของลูกค้าคือทรัพย์สินส่วนบุคคล

Apple มีค่านิยมหลักข้อหนึ่งที่จะมุ่งมั่นรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ดังนั้นการติดต่อระหว่างอุปกรณ์เสริมด้านบ้านอัจฉริยะทั้งหมดจึงถูกเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทางเสมอ เพื่อให้ข้อมูลนี้ไม่สามารถอ่านได้โดย Apple ข้อมูลที่เข้ารหัสนี้รวมถึงภาพการบันทึกจากกล้องด้วยกล้องวิดีโอ HomeKit ที่ปลอดภัยด้วย เมื่อใช้ Siri เสียงคำขอต่างๆ จะไม่ถูกเก็บไว้โดยค่าเริ่มต้น ผู้ใช้งานจึงวางใจได้ว่าความเป็นส่วนตัวภายในบ้านจะได้รับการปกป้อง

HomePod และสิ่งแวดล้อม 

HomePod ได้รับการออกแบบมาให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และมีส่วนประกอบเป็นทองคำรีไซเคิล 100% ในการเคลือบแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับ HomePod รวมถึงใช้แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กของลำโพง HomePod เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังปลอดสารปรอท, BFR, PVC และเบริลเลียม บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบใหม่เลิกใช้พลาสติกหุ้มชั้นนอก และบรรจุภัณฑ์ 96% ใช้เยื่อไม้เป็นหลัก จึงทำให้ Apple เข้าใกล้เป้าหมายของบริษัทมากยิ่งขึ้น นั่นคือการเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025

วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ ตลอดจนการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

  • HomePod (รุ่นที่ 2) จะวางจำหน่ายในออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สเปน, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 11 ประเทศและภูมิภาค
  • HomePod (รุ่นที่ 2) ใช้งานได้กับ iPhone SE (รุ่นที่ 2) และใหม่กว่า หรือ iPhone 8 และใหม่กว่าที่ใช้ iOS 16.3 หรือใหม่กว่า หรือ iPad Pro, iPad (รุ่นที่ 5) และใหม่กว่า, iPad Air (รุ่นที่ 3) และใหม่กว่า หรือ iPad mini (รุ่นที่ 5) และใหม่กว่าที่ใช้ iPadOS 16.3



Tags: HomePod (รุ่นที่ 2)
ShareTweetShare

Related Posts

No Content Available
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

OpenAI ประกาศซื้อ io บริษัทสตาร์ทอัพของ Jony Ive เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ AI ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม

OpenAI ประกาศซื้อ io บริษัทสตาร์ทอัพของ Jony Ive เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ AI ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม

May 22, 2025
Fortnite ขึ้นอันดับ 1 ใน App Store ของสหรัฐอเมริกา หลังจากถูกแบนมา 5 ปี

Fortnite ขึ้นอันดับ 1 ใน App Store ของสหรัฐอเมริกา หลังจากถูกแบนมา 5 ปี

May 22, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');