Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ซึ่งตรงกับไตรมาสที่ 3 ตามปฏิทินสากล โดยทำกำไรสุทธิ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.2 แสนล้านบาท มีรายได้ 8.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.2 ล้านล้านบาท

รายได้ไตรมาสล่าสุดของ Apple ลดลง 1% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า แต่รายได้สุทธิประจำไตรมาส 1.46 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นปรับลด เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า

อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 45.2% เทียบกับ 42.3% ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ Apple ยังประกาศจ่ายเงินปันผลรายไตรมาส 0.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น โดยจะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน โดยต้องมีประวัติการชำระ ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน
สำหรับปีงบประมาณเต็ม Apple มียอดขาย 3.833 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิ 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเล็กน้อยจากยอดขาย 3.943 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรสุทธิ 9.98 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีงบประมาณ 2022

“ในวันนี้ Apple ยินดีที่จะรายงานว่ารายได้จาก iPhone ทำสถิติใหม่ประจำไตรมาสเดือนกันยายน ในขณะที่รายได้จากธุรกิจบริการสูงสุดเป็นประวัติการณ์” Tim Cook CEO ของ Apple กล่าว “ในขณะนี้เรามีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งที่สุด พร้อมสำหรับเทศกาลวันหยุด ได้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 15 และ Apple Watch รุ่นแรกที่มาพร้อมความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในความพยายามให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030”
“จำนวนผลิตภัณฑ์ที่ถูกใช้งานอยู่ในตลาดทำสถิติสูงสุดใหม่ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และทุกภูมิภาค ต้องขอบคุณความแข็งแกร่งของระบบนิเวศและความภักดีอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ของลูกค้า” Luca Maestri CFO ของ Apple กล่าว “ในระหว่างไตรมาสเดือนกันยายน ผลประกอบการธุรกิจส่งผลให้รายได้ต่อหุ้นเพิ่มขึ้นถึงสองหลัก และเราสามารถคืนเงินแก่ผู้ถือหุ้นได้เกือบ 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะนี้เรายังคงลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาวตามแผนที่วางไว้”
ที่มา – MacRumors






