2 ผู้ผลิตยนตรกรรมระดับโลก Ducati (ดูคาติ มอเตอร์) ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอิตาเลียน และ Bentley (เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส) ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษ ประกาศความร่วมมือในการรังสรรค์ Ducati Diavel for Bentley (ดูคาติ แดเวล ฟอร์ เบนท์ลีย์) รถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของ 2 แบรนด์ผู้ผลิตยนตรกรรมชั้นนำระดับโลก โดย Ducati Diavel for Bentley เกิดจากความร่วมมือของทั้งสองผู้ผลิตยนตรกรรม Ducati และ Bentley ที่นำเอาจุดเด่นด้านสมรรถนะ งานฝีมือ และความพิเศษเฉพาะตัวมาผสมผสาน ผลลัพธ์ที่ได้คือสุดยอดเทคโนโลยี สไตล์ และประสิทธิภาพในการขับขี่ที่โดดเด่น สะท้อนความเป็นยนตรกรรมในฝันของผู้ที่หลงใหลในผลงานระดับมาสเตอร์พีซ Ducati Diavel for Bentley จะได้เผยโฉมต่อสาธารณชนในงาน ‘FuoriSalone’ ณ Art Basel ในไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นงานแสดงผลงานศิลปะยุโรปแบบร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งของโลก
2 ผู้ผลิตยนตรกรรมระดับโลก Ducati (ดูคาติ มอเตอร์) ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอิตาเลียน และ Bentley (เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส) ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษ ประกาศความร่วมมือในการรังสรรค์ Ducati Diavel for Bentley (ดูคาติ แดเวล ฟอร์ เบนท์ลีย์) รถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของ 2 แบรนด์ผู้ผลิตยนตรกรรมชั้นนำระดับโลก โดย Ducati Diavel for Bentley เกิดจากความร่วมมือของทั้งสองผู้ผลิตยนตรกรรม Ducati และ Bentley ที่นำเอาจุดเด่นด้านสมรรถนะ งานฝีมือ และความพิเศษเฉพาะตัวมาผสมผสาน ผลลัพธ์ที่ได้คือสุดยอดเทคโนโลยี สไตล์ และประสิทธิภาพในการขับขี่ที่โดดเด่น สะท้อนความเป็นยนตรกรรมในฝันของผู้ที่หลงใหลในผลงานระดับมาสเตอร์พีซ Ducati Diavel for Bentley จะได้เผยโฉมต่อสาธารณชนในงาน ‘FuoriSalone’ ณ Art Basel ในไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นงานแสดงผลงานศิลปะยุโรปแบบร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งของโลก
จากพื้นฐานทางเทคนิคที่ซับซ้อนของ Diavel V4 รถจักรยานยนต์สมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายในการขับขี่ Ducati ได้ผสมผสานองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bentley Batur อัครยนตรกรรมรุ่นพิเศษเพื่อการรังสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์ด้านความสง่างามและการออกแบบเฉพาะตัว Ducati Diavel for Bentley จะถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยซีรีส์หมายเลขตัวถังจำนวนจำกัดเพียง 500 คัน พร้อมด้วยรุ่นพิเศษ ‘Ducati Diavel for Bentley Mulliner’ อีก 50 คัน สำหรับลูกค้ารถยนต์เบนท์ลีย์ที่จะมอบโอกาสในการปรับแต่งเฉพาะตัวให้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในแบบฉบับของ Bentley Batur
แรงบันดาลใจจากอัครยนตรกรรมรุ่น Batur
Bentley Batur ถือเป็นอัครยนตรกรรมที่ทรงสมรรถนะที่สุดเท่าที่เคยมีมาของเบนท์ลีย์ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์รุ่น W12 เทอร์โบคู่ 740 แรงม้า มากไปกว่านั้น Bentley Batur ยังผสมผสานมาตรฐานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์เข้ากับการรังสรรค์และการขึ้นรูปตัวถังที่มาพร้อมกับทรวดทรงอันงดงามที่ได้กำหนด DNA การออกแบบใหม่และแนวทางการออกแบบสำหรับเบนท์ลีย์ในอนาคต โดยการออกแบบ Bentley Batur สื่อถึงพลังอันยิ่งใหญ่และความสง่างามในแบบเฉพาะตัว ซึ่ง Bentley Batur ทั้ง 18 คันได้รับการรังสรรค์ขึ้นโดยช่างฝีมือจาก Bentley Mulliner ผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นแผนกออกแบบพิเศษของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส
Diavel for Bentley
ทีมนักออกแบบจาก Centro Stile Ducati ได้ร่วมมือกับนักออกแบบของเบนท์ลีย์ในการรังสรรค์ดีไซน์ใหม่สำหรับรถจักรยานยนต์รุ่นพิเศษนี้ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Bentley Batur ด้วยการใช้เส้นสายของมุมมองด้านข้าง และเฉดสีเขียว Scarab Green ที่หรูหรา ประณีต และเต็มไปด้วยเฉดเมทัลลิกที่มาจากชุดสี Mulliner ของเบนท์ลีย์ตลอดทั่วทั้งตัวถัง
เส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและดุดันของ Diavel V4 ยังได้รับการพัฒนาอย่างละเอียดผ่านองค์ประกอบทางเทคนิคจากคุณลักษณะเฉพาะหลายประการของ Bentley Batur ที่ได้ถูกนำไปใช้ในส่วนต่างๆ อาทิ ขอบล้อฟอร์จที่ออกแบบและรังสรรค์ขึ้นสำหรับรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ ซึ่งทำให้นึกถึงรูปทรงของ Bentley Batur และการใช้เฉดสีดาร์กไททาเนียมซาตินที่เผยให้เห็นถึงพื้นผิวกลไกบางส่วน
ช่องรับอากาศด้านข้างสะท้อนให้เห็นถึงกระจังหน้าแบบทูโทน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของ Bentley Batur ส่วนท้ายดีไซน์แบบสามเหลี่ยมสื่อถึงองค์ประกอบที่สอดคล้องกับตัวรถยนต์ต้นแบบ พร้อมด้วยบังโคลนหน้า แฟริ่ง และมุมมองด้านบนของตัวถังที่ทำให้นึกถึงการออกแบบบริเวณฝากระโปรงหน้า ในขณะที่ส่วนท้ายแบบที่นั่งเดียวสามารถเปลี่ยนเป็นเบาะนั่งผู้โดยสารได้เช่นเดียวกับเบาะโดยสารด้านหลังของ Batur ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ มากไปกว่านี้ ส่วนประกอบตัวถังหลายชิ้นผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูง อาทิ บังโคลน ฝาครอบไฟหน้า เครื่องยนต์ ฝาครอบท่อไอเสียและหม้อน้ำ แผงบังหม้อน้ำ แผงด้านข้าง และชิ้นส่วนท้าย
เบาะนั่งของผู้ขับขี่หุ้มด้วยหนัง Alcantara เฉดสีดำที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการตกแต่งภายในของ Bentley Batur และด้วยงานฝีมือที่แม่นยำได้เผยให้เห็นถึงผ้าเฉดสีแดงที่อยู่ภายใต้หนัง Alcantara แบบเดียวกับเบาะโดยสารของ Bentley Batur โดยมีโลโก้ Bentley ปักบริเวณเบาะด้านหลัง ท่อไอเสียคู่พร้อมฝาปิดได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับเส้นสายที่ประณีตของรถจักรยานยนต์
Diavel for Bentley Mulliner
นอกจาก Ducati Diavel for Bentley รุ่นลิมิเต็ด จำนวน 500 คัน Ducati ยังมอบซีรีส์พิเศษสำหรับ Bentley Mulliner จำนวน 50 คัน ในชื่อ ‘Ducati Diavel for Bentley Mulliner’ สำหรับรุ่นพิเศษนี้จะรับคำสั่งจองเฉพาะลูกค้าของ Bentley Mulliner ซึ่งผู้ครอบครองจะได้ออกแบบร่วมกับนักออกแบบของ Centro Stile Ducati เพื่อการรังสรรค์รถจักรยานยนต์รุ่นเอ็กซ์คลูซีฟด้วยเฉดสีที่หลากหลายสำหรับอานนั่ง คาลิเปอร์เบรกหน้า ชิ้นส่วนและขอบล้อคาร์บอนไฟเบอร์ นอกจากนี้ ผู้ครอบครองยังสามารถเลือกสรรเฉดสีเดียวกันกับตัวรถยนต์เบนท์ลีย์สำหรับชิ้นส่วนตัวถังหรือสีใดสีหนึ่งจากชุดเฉดสีพิเศษคัดสรรโดยทีมนักออกแบบจาก Mulliner เพื่อการรังสรรค์ซีรีส์สุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้
ผู้ครอบครอง Ducati Diavel for Bentley จะได้รับใบรับรอง เบาะนั่งผู้โดยสาร และผ้าคลุมรถมอเตอร์ไซค์ โดยชื่อรุ่นและหมายเลขการผลิตจะแสดงบนแผ่นป้ายในฝาครอบคาร์บอนไฟเบอร์ด้านขวาของรถจักรยานยนต์ พร้อมด้วยแผงหน้าปัดติดตั้งอุปกรณ์นำทางเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และแผงไฟท้ายแบบเมทริกซ์ LED ที่มาพร้อมกับแอนิเมชันพิเศษเมื่อเปิดกุญแจเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับ Ducati Diavel for Bentley
ความร่วมมือระหว่าง 2 ผู้ผลิตยนตรกรรมยังนำไปสู่การรังสรรค์ Capsule Collection สำหรับผู้ครอบครอง Ducati Diavel for Bentley ซึ่งจะช่วยเติมเต็มลุคด้วยหมวกกันน็อคเจ็ตและเสื้อแจ็คเก็ต รุ่น ลิมิเต็ด เอดิชัน สำหรับทั้งบุรุษและสตรีที่โดดเด่นด้วยโทนสีที่สะท้อนถึงความเป็นรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูง
Ducati Diavel for Bentley มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น V4 Granturismo ขนาดความจุกระบอกสูบ 1,158 ซีซี ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบและเป็นตัวเลือกทางเทคนิคที่ได้รับการพัฒนาขั้นสูงที่มอบพละกำลังสูงสุด 168 แรงม้ากับแรงบิดมหาศาล พร้อมกับตัวรถที่มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัดเป็นพิเศษ
ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Ducati และ Bentley โดยทั้ง 2 แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของ “Progressive Brand Group” ในกลุ่ม Volkswagen ซึ่งรวมถึงแบรนด์ Audi และ Lamborghini
