Apple ประกาศจัดงาน Awe Dropping ในวันที่ 10 กันยายนนี้ เวลา 0:00 น. ตามเวลาของประเทศไทย โดยคาดว่าจะเป็นงานเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งรวมถึง iPhone 17 Air ที่ถูกอ้างว่าจะมีการพลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ และเราได้รวบรวมข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับ iPhone 17 Air มาไว้ที่นี่แล้ว

ดีไซน์บางเฉียบ
iPhone 17 Air ถูกลือว่าจะมีความบางเพียง 5.5 มิลลิเมตร (ไม่รวมขอบกันชนกล้องหลัง) ทำให้เป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา บางกว่า iPhone 16 ถึง 2.3 มิลลิเมตร (ปัจจุบัน iPhone 6 ยังครองตำแหน่ง iPhone ที่บางที่สุด ด้วยความบาง 6.9 มิลลิเมตร)
คาดว่า iPhone 17 Air จะใช้กรอบตัวเครื่องที่มีส่วนผสมของไทเทเนียมกับอะลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 145 กรัม หนักกว่า iPhone 13 mini เล็กน้อย และผลิตออกมาให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว สีทองอ่อน โดยมีไฮไลท์ที่สีสีฟ้า ซึ่งมีข่าวลือว่าจะมีเฉดสีคล้ายกับสีฟ้าของ MacBook Air

จอแสดงผล
iPhone 17 Air จะใช้จอแสดงผล LTPO OLED แบบเดียวกับจอแสดงผลของ iPhone 16 Pro โดยมีขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว รองรับเทคโนโลยี ProMotion ที่ให้อัตราการรีเฟรช 120Hz แต่ยังมีข้อสงสัยว่าจะสนับสนุนการแสดงผลแบบ Always-on Display หรือไม่ เพราะมีข่าวลือว่าจอแสดงผลของ iPhone 17 Air อาจไม่สามารถปรับอัตราการรีเฟรชให้ต่ำถึง 1Hz
จอแสดงผลของ iPhone 17 Air ยังคงมี Dynamic Island แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงขนาดช่องเจาะให้เล็กลงหรือไม่
ประสิทธิภาพ
iPhone 17 Air จะมาพร้อมความจำ RAM 12GB เช่นเดียวกับ iPhone 17 Pro แต่ไม่ชัดเจนว่าจะได้รับชิป A19 หรือ A19 Pro และถ้าใช้ชิป A19 Pro ก็อาจเป็นเวอร์ชันที่มี GPU น้อยกว่าชิป A19 Pro ที่พบใน iPhone 17 Pro

แบตเตอรี่
เนื่องจากมีดีไซน์บางเฉียบ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone 17 Air โดยมีข่าวลือว่าจะมีความจุเพียง 2,800mAh ใกล้เคียงกับแบตเตอรี่ของ iPhone 12 ซึ่งอาจมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่แย่กว่า iPhone 17 Series รุ่นอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า iPhone 17 Air จะใช้ชิปโมเด็ม C1 ที่ประหยัดพลังงาน รวมถึงชิป A19 หรือ A19 Pro ก็ได้รับการปรับปรุงให้จัดการพลังงานได้ดีขึ้น
รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
iPhone 17 Air จะรองรับมาตรฐานการชาร์จแบบไร้สาย Qi 2.2 จึงสามารถชาร์จได้สูงสุด 25W เมื่อใช้กับอุปกรณ์ชาร์จ Qi 2.2 ที่รองรับ ซึ่งมีความเร็วเทียบเท่ากับความเร็วในการชาร์จของ MagSafe
กล้อง
น่าเสียดายที่ iPhone 17 Air มีกล้องหลังตัวเดียว โดยมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล จึงไม่รองรับการถ่ายภาพเชิงพื้นที่และวิดีโอเชิงพื้นที่ ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 24 ล้านพิกเซล

การเชื่อมต่อ
iPhone 17 Air ถูกอ้างว่าจะใช้ชิปโมเด็ม C1 ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งเคยนำมาใช้แล้วใน iPhone 16e มีจุดเด่นที่การประหยัดพลังงาน แต่ไม่รองรัง 5G mmWave ส่วนการเชื่อมต่อ Wi-Fi มีรายงานว่า จะใช้ชิป Wi-Fi ที่ออกแบบโดย Apple รองรับ Wi-Fi 7
ราคา
คาดว่า iPhone 17 Air จะมีราคาเริ่มต้น 899 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 29,190 บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกับ iPhone 16 Plus ในช่วงเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว แต่มีแนวโน้มว่าราคาอาจสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี
นอกจากนี้ iPhone 17 Air ยังคงมีปุ่ม Action, Camera Control รองรับการชาร์จ MagSafe และในบางประเทศอาจได้รับเวอร์ชันที่ไม่มีถาดใส่ซิมการ์ด

ที่มา – MacRumors






