iPhone 17 Pro เริ่มวางจำหน่ายได้ไม่นาน และยังเหลือเวลาอีกราว 1 ปี ก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iPhone 18 Pro แต่ถ้าใครยังลังเลว่าจะซื้อ iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้ดีหรือไม่? เรามีเหตุผล 8 ข้อ ที่อาจมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้อดใจรอซื้อ iPhone รุ่นใหม่ในปีหน้า

1) ดีไซน์
iPhone 18 Pro และ iPhone 18 Pro Max อาจยังคงรักษาดีไซน์เดิมของ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max รวมถึงจอแสดงผลยังคงมีขนาด 6.3 นิ้ว และ 6.9 นิ้ว ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือว่าด้านหลัง Ceramic Shield ของ iPhone 18 Pro ที่ใช้เป็นพื้นที่ของ MagSafe จะมีพื้นผิวแบบโปร่งแสงเล็กน้อย
2) Dynamic Island ขนาดเล็กลง
Instant Digital แหล่งข่าวในจีนอ้างว่า iPhone 18 Pro และ iPhone 18 Pro Max จะมีการปรับปรุง Dynamic Island ให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังไม่ได้รับ Face ID แบบใต้หน้าจอ
Ross Young นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมจอแสดงผลโดยตรง เชื่อว่า iPhone 18 Pro มีความเป็นไปได้ที่จะติดตั้ง Face ID ไว้ใต้จอ และ Dynamic Island จะมีขนาดเล็กลง เช่นเดียวกับ Mark Gurman นักข่าวของ Bloomberg ก็เชื่อว่า Dynamic Island จะมีขนาดเล็กลง
ขณะที่ Wayne Ma จาก The Information คาดว่า Apple จะแทนที่ Dynamic Island หรือช่องเจาะรูปทรงแคปซูลด้วยรูวงกลมที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ
3) ชิป A20 Pro
iPhone 18 Pro ควรจะได้รับชิป A20 Pro ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 3 ของ TSMC และใช้เทคโนโลยีการบรรจุที่เรียกว่า Chip on Wafer on Substrate (CoWoS) ของ TSMC ซึ่งช่วยให้โปรเซสเซอร์ หน่วยความจำรวม และ Neural Engine ของชิปผสานรวมกันได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ Jeff Pu ยังคาดว่าชิป A20 Pro จะมีการอัปเกรดที่สำคัญ ที่ได้รับประโยชน์จากความสามารถของ Apple Intelligence
4) ชิปโมเด็ม C2
Apple เปิดตัวชิปโมเด็มรุ่นแรกที่ออกแบบเองพร้อมกับ iPhone 16e และคาดว่าจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในที่สุดจะสามารถเปิดตัวชิปโมเด็ม C2 พร้อมกับ iPhone 18 Pro ในปีหน้า
คาดว่าชิปโมเด็ม C2 จะประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น และรองรับ mmWave ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าจะมีความเร็ว 5G มากกว่าชิปโมเด็ม C1 และ C1X ในปัจจุบัน
5) เซ็นเซอร์กล้องรุ่นใหม่
เซ็นเซอร์รับภาพของ iPhone ทั้งหมดในปัจจุบัน จัดหาโดย Sony แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปีหน้า โดยมีรายงานว่า Samsung กำลังพัฒนาเซ็นเซอร์กล้องรุ่นใหม่แบบ 3 ชั้น ที่มีชื่อว่า PD-TR-Logic ซึ่งผสานวงจร 3 ชั้น เข้าด้วยกัน ช่วยเพิ่มการตอบสนองของกล้อง ลดสัญญาณรบกวน และเพิ่มช่วงไดนามิก และคาดว่า Apple จะนำเซ็นเซอร์กล้องรุ่นใหม่ของ Samsung มาใช้กับ iPhone 18 Pro
6) รูรับแสงแบบปรับได้
กล้องหลักของ iPhone 18 Pro และ iPhone 18 Pro Max ถูกลือว่าจะมีฟังก์ชันปรับรูรับแสงได้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปรับรูรับแสงโดยอัตโนมัติ เพื่อควบคุมปริมาณแสง ช่วยให้กล้องสามารถปรับขนาดรูรับแสงได้ตามสภาวะแสงที่แตกต่างกัน โดยการปรับช่องเปิดเลนส์ เพื่อให้แสงเข้าสู่เซ็นเซอร์มากขึ้นหรือน้อยลง และเมื่อนำมาใช้กับ iPhone รุ่นใหม่ จะทำให้ภาพถ่ายมีคุณภาพดีขึ้นในการตั้งค่าแสงน้อย และควบคุมระยะชัดลึกได้มากขึ้น
7) อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม 5G
iPhone 18 Pro ของ Apple อาจรองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม 5G อย่างเต็มรูปแบบ
iPhone ในปัจจุบันจะมีฟีเจอร์ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อหน่วยบริการฉุกเฉินได้ เมื่ออยู่ในพื้นที่ไร้สัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ แต่ทำได้เพียงการส่งข้อความเท่านั้น และยังไม่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
8) Camera Control
ปุ่ม Camera Control ของ iPhone 18 Pro จะได้รับการออกแบบใหม่ เน้นการควบคุมแบบไวต่อแรงกด แทนการปัดนิ้ว
แหล่งข่าวในจีนอ้างว่า iPhone 18 Series ยังคงมีปุ่ม Camera Control มาให้ใช้งานเหมือนเดิม แต่จะถูกลดความซับซ้อนของส่วนประกอบเพื่อลดต้นทุน ด้วยการถอดเซ็นเซอร์แบบคาปาซิทีฟออกจากดีไซน์เซ็นเซอร์คู่แบบเดิม และใช้เซ็นเซอร์รับแรงกดเพียงอย่างเดียว
iPhone 16 Series ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว เป็น iPhone รุ่นแรกที่มาพร้อมปุ่ม Camera Control ซึ่งใช้ทั้งเซ็นเซอร์แบบคาปาซิทีฟและเซ็นเซอร์รับแรงกดใต้พื้นผิวคริสตัลแซฟไฟร์ โดยชั้นคาปาซิทีฟจะตรวจจับท่าทางสัมผัส ในขณะที่เซ็นเซอร์รับแรงกด จะตรวจจับระดับแรงกดที่แตกต่างกัน สำหรับการแตะ การกด และการปัด
ทั้งนี้ โซลูชันของปุ่ม Camera Control ในปัจจุบันมีต้นทุนสูงมาก และทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหลังการขายที่สูงขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Apple ต้องเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบของปุ่มดังกล่าว
อีกประเด็นที่น่าจับตามองก็คือ มีรายงานว่า iPhone รุ่นใหม่ในปีหน้า จะมีให้เลือกเฉพาะรุ่นพรีเมียม ได้แก่ iPhone 18 Pro, iPhone 18 Pro Max และอาจรวมถึง iPhone จอพับได้รุ่นแรกของ Apple ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2026 ส่วน iPhone 18 รุ่นมาตรฐาน คาดว่าจะเปิดตัวพร้อม iPhone 18e ในช่วงครึ่งแรกต้นปี 2027
ที่มา – MacRumors






