เป็นอีกหนึ่งศึกสงครามทางการตลาดที่กำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับเรื่องของการให้บริการ 4G ในประเทศไทย โดยหลังจากที่ทั้ง 3 เครือข่ายผู้ให้บริการได้เริ่มเปิดตัวโปรโมชั่นแพ็กเกจ 4G ออกมาเพื่อให้ได้เลือกใช้งานกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่าเรื่องราวของแพ็กเกจโปรโมชั่น 4G ก็กลายเป็นอีกหนึ่งกระแสที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคและผู้ใช้งานอย่างอย่างกว้างขวาง
หลายคนมีคำถามเกี่ยวกับแพ็กเกจและโปรโมชั่นของทั้ง 3 ค่ายว่า มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง หรือบางคนอาจกำลังตัดสินใจที่จะเลือกใช้เครือข่ายที่มาพร้อมบริการ 4G และแพ็กเกจที่ตรงใจกันอยู่ ดังนั้นในวันนี้ลองมาดูข้อมูลที่น่าจะเป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจกันดู กับการเปรียบเทียบแพ็กเกจโปรโมชั่น 4G จากทั้ง 3 ค่ายว่าเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง
ในการเปรียบเทียบแพ็กเกจโปรโมชั่น 4G ของทั้ง 3 ค่ายในครั้งนี้ เพื่อให้ได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงขอเลือกนำเอาแพ็กเกจที่มีราคาในระดับกลางๆ นำมาเปรียบเทียบกัน เนื่องจากเป็นแพ็กเกจโปรโมชั่นที่ได้รับความสนใจและมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก โดยจะเป็นแพ็กเกจที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 400-500 บาทของแต่ละค่ายรวมนั่นเอง
เริ่มจาก AIS เครือข่ายผู้ให้บริการรายใหญ่ ที่มาพร้อมกับแพ็กเกจ 4G Max Speed สำหรับการใช้บริการแบบรายเดือน มีราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท ไปจนถึง 1,888 บาท ซึ่งจะได้รับเน็ต 4G|3G รวมตั้งแต่ 1.5GB ไปจนถึงสูงสุด 75GB สิทธิพิเศษที่จะได้ในแต่ละแพ็กเกจนั่นก็คือการใช้บริการ AIS Super WiFi และ AIS Cloud+ 100GB ฟรี และแพ็กเกจราคาตั้งแต่ 488 บาทเป็นต้นไปจะได้รับสิทธิ AIS Play หนังฟรี 4 เรื่องต่อสัปดาห์อีกด้วย
หากลองมาเปรียบเทียบดูแพ็กเกจยอดนิยมในราคาระดับกลางๆ จะเห็นได้ว่า AIS มีมาในราคาที่ 488 บาท ซึ่งจะได้รับเน็ต 4G|3G รวม 10GB โดยการใช้เน็ตของ AIS ในแพ็กเกจนี้จะไม่มี FUP และจะทำการตัดการใช้งานทันทีเมื่อเน็ตหมด ซึ่งจากปริมาณโควต้าของแพ็กเกจนี้จะเห็นได้ว่าค่อนข้างมีมาให้งานในปริมาณที่มากพอใช้อยู่ แต่อาจจะต้องระมัดระวังในปริมาณการใช้งานกันบ้าง เนื่องจากหากปริมาณการใช้งานหมดตามโควต้าที่ได้รับ ก็จะไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและอาจต้องใช้วิธีเป็นการซื้อ 4G แพ็กเกจเสริมเพิ่มเติมเพื่อใช้งานนั่นเอง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ais.co.th/
มาต่อที่ทาง dtac ที่มาให้บริการ 4G พร้อมกับแพ็กเกจ Super Non-Stop ซึ่งจะมีราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท ไปจนถึง 1,999 บาท สามารถใช้งานเน็ต 4G|3G ได้ตั้งแต่ 1.5GB ไปจนถึง 80GB โดยทุกแพ็กเกจจะได้รับสิทธิพิเศษได้แก่ dtac wifi ฟรีไม่จำกัดรับสิทธิ์นานเท่าแพ็กเกจหลัก , ฟรี dtac Life Care ประกันอุบัติเหตุวงเงินคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท , พื้นที่เก็บข้อมูล Capture App ฟรีตั้งแต่ 25GB ขึ้นไปจนถึง 100GB (ขึ้นอยู่ตามแพ็กเกจที่เลือกใช้) , และแพ็กเกจราคา 299 ไปจนถึง 1,299 จะได้รับสิทธิ์ดู Prime Time ดูหนังสูงสุด 20 เรื่องต่อเดือน ในขณะที่แพ็กเกจ 1,499 เป็นต้นไปจะได้รับสิทธิ์ดู Prime Time Movie Buffet ดูหนังบุฟเฟ่ต์ไม่จำกัด อีกด้วย
และเช่นเดียวกันกับทาง AIS เพื่อให้ได้เห็นภาพในการเปรียบเทียบที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงขอนำแพ็กเกจยอดนิยมในราคา 499 บาทมาเปรียบเทียบกันอีกครั้ง จะเห็นได้ว่าในแพ็กเกจนี้จะได้รับเน็ต 4G|3G ทั้งหมด 10GB โดยทาง dtac นั้นจะมีการใช้ FUP สามารถใช้งานเน็ตได้ต่อเนื่องโดยไม่มีการตัดสัญญาณเน็ตแม้จะหมดโควต้าของ 4G|3Gและหากใช้งานไม่ครบตามโควต้าจะสามารถนำไปทบเพื่อใช้งานในเดือนถัดไปได้อีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าปริมาณเน็ตของแพ็กเกจนี้มีมาให้งานค่อนข้างมากและเพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนจุดเด่นที่แตกต่างจากค่ายอื่นนั่นก็คือเรื่องของการที่สามารถทบปริมาณเน็ตที่เหลือในแต่ละเดือนไปใช้ได้ในเดือนถัดไป ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานที่ใช้งานโควต้าเน็ตไม่หมดในแต่ละเดือนยังสามารถใช้สิทธิโควต้าเน็ตที่เหลือได้ในเดือนต่อๆไปนั่นเอง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dtac.co.th/
และสุดท้ายกับทาง Truemove H ซึ่งมาพร้อมกับโปรโมชั่นของ 4G เช่นกันในแพ็กเกจ 4G Plus ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 499 บาท ไปจนถึง 1,899 บาท สามารถใช้งานเน็ต 4G|3G ได้ตั้งแต่ 6GB ไปจนถึง 22GB โดยจะได้รับสิทธิในการใช้ True WiFi ฟรีไม่จำกัด
ซึ่งหากนำแพ็กเกจในราคา 499 บาทมาเปรียบเทียบเช่นเดียวกันกับ 2 ค่ายก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่าทางแพ็กเกจของ Truemove H นั้นจะได้ปริมาณเน็ตที่ 6GB มีการใช้ FUP สามารถใช้งานเน็ตได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการตัดสัญญาณเน็ตแม้จะหมดโควต้าของ 4G|3G
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://truemoveh.truecorp.co.th/
โดยสรุปแล้วจะเห็นได้ว่า หากทำการเปรียบเทียบในแพ็กเกจที่ราคาประมาณ 400 -500 บาทแล้วจะเห็นได้ว่า AIS มีแพ็กเกจที่ราคา 488 บาท ได้รับเน็ต 10GB , dtac มีแพ็กเกจที่ราคา 499 บาท ได้รับเน็ต 10GB และ Truemove H มีแพ็กเกจที่ราคา 499 บาทได้รับเน็ต 6GB ดังนั้นหากเทียบปริมาณการใช้งานแล้วจะเห็นได้ว่าทาง AIS และ dtac จะมีปริมาณการใช้งานเน็ตที่ใกล้เคียงกันแม้ราคาอาจต่างกันบ้างเล็กน้อย ในขณะที่ทาง Truemove H จะมีปริมาณการใช้งานเน็ตที่น้อยกว่า แต่สิ่งที่แตกต่างนั่นก็คือการใช้งานเน็ตของ AIS จะเป็นลักกษณะที่จะตัดการใช้งานทันทีที่เน็ตหมด ส่วนทาง dtac จะสามารถใช้งานเน็ตได้อย่างต่อเนื่องและสามารถทบปริมาณเน็ตไปใช้งานเดือนถัดๆไปได้
อย่างไรก็ตามข้อมูลการเปรียบเทียบทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลการเปรียบเทียบในปัจจุบัน ( 10 มี.ค.59 ) ซึ่งเป็นเพียงอีกหนึ่งข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการให้บริการ 4G ของแต่ละค่ายเท่านั้น ส่วนในการเลือกใช้งานของแต่ละคนคงต้องใช้การพิจารณาที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานกันอีกครั้ง
บทความโดย – www.flashfly.net