Ben Lovejoy จากเว็บไซต์ 9to5mac เผยแพร่บทความ iPhone ในอนาคตจะเปลี่ยนจากพอร์ต Lightning มาใช้ USB-C โดยเชื่อว่าในอีก 1 หรือ 2 ปีข้างหน้า Apple จะทิ้งพอร์ต Lightning แล้วนำพอร์ต USB-C มาติดตั้งแทนทั้ง iPhone และ iPad ซึ่งตอนนี้มาตรฐาน USB-C ก็เริ่มนำมาใช้แล้วกับ MacBook Pro รุ่นใหม่ล่าสุด
สำหรับเหตุผลที่ทำให้ Ben Lovejoy เชื่ออย่างนั้น มาจากคุณสมบัติพิเศษของมาตรฐาน USB-C ที่ทำหน้าที่ได้หลายอย่าง ทั้งชาร์จแบตเตอรี่ ส่งสัญญาณภาพ รับ-ส่งข้อมูล ส่งสัญญาณเสียง ที่สำคัญมีความเร็วสูงในการรับ-ส่งข้อมูล เรียกได้ว่าพอร์ตเดียวทำได้ทุกอย่าง และมันจะทำให้อุปกรณ์ของ Apple ทำงานร่วมกันได้ดีมากกว่าที่เคย อีกทั้งยังเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ผู้ผลิตอุปกรณ์หลายค่ายเริ่มหันมาใช้งานกัน
Apple กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และไม่กลัวต่อเสียงวิจารณ์
พอร์ต Lightning เริ่มนำมาใช้แทนพอร์ตแบบ 30-pin กับ iPhone 5 หลังจากใช้งานมาอย่างยาวนานตั้งแต่ iPod ในปี 2003 และในช่วงการเปลี่ยนแปลง Apple ก็ถูกมองว่านี่คือการบีบบังคับทางอ้อมให้ลูกค้าเสียเงินเพิ่ม เพื่อซื้ออุปกรณ์เสริมใหม่ ที่เข้ากันได้กับพอร์ต Lightning ทั้งที่ความจริงแล้ว Lightning ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของอุปกรณ์ใช้งานได้ง่าย สะดวกขึ้น และมีขนาดเล็กลงมาก เมื่อเทียบกับพอร์ตแบบ 30-pin
ในระยะหลัง Apple ได้เปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เลิกใช้ Floppy Disk Drive สลับจาก Firewire มาเป็น Thunderbolt เริ่มนำพอร์ต USB-C มาใช้กับ MacBook รุ่น 12 นิ้ว กล้าที่จะตัดช่องเสียบแจ๊คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ออกไปจาก iPhone 7 ดังนั้น Apple จึงไม่กลัวเรื่องเสียงวิจารณ์ในระยะสั้น หากเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะนำไปสู่เทคโนโลยีที่ดีกว่า
ที่มา – 9to5mac
http://www.flashfly.net/wp/?p=168197