เกมสำหรับ Nintendo Switch ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีราคาแพงกว่าเกมของ PlayStation 4 หรือ Xbox One ในช่วงเปิดตัวครั้งแรก ซึ่งทางเว็บไซต์ Eurogamer ได้รายงานว่า ‘ตลับเกม’ อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้ราคาเกมของ Nintendo Switch แพงกว่าเกมของคู่แข่งที่ใช้แผ่น Blu-ray
ตลับเกมของ Nintendo Switch มีหลากหลายความจุ 1GB, 2GB, 4GB, 8GB, 16GB และ 32GB ยิ่งใช้ความจุมากราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งปริมาณการผลิตก็เป็นอีกปัจจัย หากผลิตตลับเกมออกมาในปริมาณน้อย ต้นทุนก็จะสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้พัฒนาเกมอินดี้ ที่ไม่สามารถผลิตตลับเกมในปริมาณมากได้ เนื่องจากความต้องการของลูกค้าไม่สูงเหมือนค่ายเกมรายใหญ่
สำหรับประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า เหตุใดเกมใน eShop จึงมีราคาสูงขึ้นตามเกมในรูปแบบตลับ ทั้งที่ต้นทุนน่าจะถูกกว่า Eurogamer ได้อธิบายว่า หากการดาวน์โหลดเกมในรูปแบบดิจิตอล มีราคาถูกกว่า จะทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมทางการค้าสำหรับร้านค้าปลีกที่ขายตลับเกม แน่นอนว่าถ้าดาวน์โหลดเกมได้ในราคาที่ถูกกว่า ก็คงไม่มีใครออกมาหาซื้อตลับเกม
Eurogamer ได้เปรียบเทียบราคาเกมของ Nintendo Switch กับคอนโซลค่ายอื่นไว้ดังนี้
- Rime ราคา 39.99 ปอนด์ สำหรับ Nintendo Switch ทั้งรูปแบบดิจิตอลและตลับเกม ขณะที่เวอร์ชั่น PC, PS4 และ Xbox One มีราคา 29.99 ปอนด์ ทั้งรูปแบบดิจิตอลและตลับเกม
- Puyo Puyo Tetris ราคา 34.99 ปอนด์ สำหรับ Nintendo Switch ทั้งรูปแบบดิจิตอลและตลับเกม ขณะที่เวอร์ชั่น PS4 มีราคา 24.99 ปอนด์
ด้วยต้นทุนการผลิตเกมที่ใช้สื่อบันทึกข้อมูลมีเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาเกมบางราย เลือกที่จะขายเกมในรูปแบบดิจิตอลเท่านั้น อย่างเช่นเกม Snake Pass ของ Sumo Digital จะขายเกมในรูปแบบดิจิตอลเพียงอย่างเดียว ในราคา 15.99 ปอนด์ เท่ากันทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง PS4, Xbox One, PC และ Nintendo Switch
นอกจากนี้ ตลับเกมของ Nintendo Switch ยังมีการเคลือบสารที่ทำให้ตลับเกมมีรสชาติไม่ถูกปาก ป้องกันเด็กเล็กหยิบเข้าปากด้วย แต่สารดังกล่าวไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด
ที่มา – Eurogamer
http://www.flashfly.net/wp/?p=177330