แบรนด์มือถือจากฟินแลนด์ “โนเกีย” กำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อรั้งตำแหน่งผู้ผลิตมือถือรายใหญ่สุดของโลก หลังรายงานผลประกอบการขาดทุน ทั้งในไตรมาสล่าสุดและตลอดทั้งปี เนื่องจากยอดขายโทรศัพท์มือถือลดลงอย่างมาก ทั้งนี้ โนเกีย รายงานผลประกอบการตลอดทั้งปี 2554 ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 1.2 พันล้านยูโร (ราว 1.5 พันล้านดอลลาร์) เทียบกับผลกำไรสุทธิ 1.8 พันล้านยูโรในปีก่อนหน้า
ขณะที่ผลงานในไตรมาส 4 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม ขาดทุนสุทธิ 1.07 พันล้านยูโร เทียบกับกำไร 745 ล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปี 2553 โดยยอดขายในไตรมาสล่าสุด (ตุลาคม-ธันวาคม) ลดลง 21% จากปีก่อน รวมมูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร ส่วนยอดขายตลอดทั้งปีลดลง 9% อยู่ที่ 3.8 หมื่นล้านยูโร ทั้งนี้ โนเกียขาย สมาร์ทโฟนได้ 19.6 ล้านเครื่อง และขายมือถือราคาย่อมเยา 93.9 ล้านเครื่องในไตรมาล่าสุด รวมมือถือที่ขายได้ 113.5 ล้านเครื่อง ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ขายได้ 123.7 ล้านเครื่อง ขณะที่ราคาขายมือถือโดยเฉลี่ยลดลงจาก 69 ยูโรต่อเครื่อง เหลือ 53 ยูโร
นอกจากนี้ บริษัทยังรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสล่าสุดขาดทุน 954 ล้านยูโร จาก 884 ล้านยูโรในช่วงก่อน อีกทั้งราคาหุ้นของโนเกียยัง ลดลง 53% หลังจากซีอีโอคนใหม่ “สตีเฟน เอลอป” ประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วว่าจะโละระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยนของตัวเอง และหันไปใช้วินโดว์สของไมโครซอฟท์แทน เพราะหวังจะพลิกฟื้นสถานการณ์จากคู่แข่งทั้งแอปเปิลและกูเกิล
ที่มา – bangkokbiznews






