Saturday, January 28, 2023
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Android

รีวิว Samsung Galaxy Note 8 การกลับมาของสมุดโน้ตอัจฉริยะที่หลายคนรอคอย

mintflashfly by mintflashfly
September 13, 2017
in Android, Feature, NEWS, Review & Preview, Samsung, Smartphone
13
SHARES
64
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

galaxynote8_cover

ใกล้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยกันเต็มทีแล้ว กับสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นใหม่ Samsung Galaxy Note 8 ซึ่งกำหนดการก็คือวันที่ 20 เดือนกันยายนนี้นั่นเอง แฟนๆ อดใจรออีกไม่นาน โดยก่อนหน้านี้ทางทีมงาน Flashfly ก็ได้มีพรีวิวตัวเครื่องให้ได้รับชมกันไปบางส่วนแล้ว (สัมผัสแรก Samsung Galaxy Note 8 จอใหญ่ 6.3 นิ้ว กล้องคู่ 12 ล้านพิกเซลพร้อมปากกา S Pen สุดอัจฉริยะ) คราวนี้ก็จะมาเจาะลึกในส่วนของฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เหลืออยู่กันต่อ ตามมาดูกันได้เลยว่ามีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง

เริ่มต้นด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องซักหน่อย ด้วยความโค้งมนของขอบและมุมต่างๆ ทำให้สามารถจับตัวเครื่อง Galaxy Note 8 ได้กระชับมือ แม้ตัวเครื่องจะมีขนาดใหญ่ก็ตาม และยังคงกันน้ำกันฝุ่นตามมตราฐาน IP68

หน้าจอเป็นแบบ Infinite Display‎ ไร้กรอบไร้ปุ่ม Home ขนาด 6.3 นิ้ว (Quad HD+ Super AMOLED) โดยสัดส่วนพื้นที่หน้าจอนี้คิดเป็นพื้นที่ถึง 83.3% ของขนาดตัวเครื่องเลยทีเดียว กว้างมากๆ

กล้องด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลแบบออโต้โฟกัส F/1.7 พร้อมเซ็นเซอร์สแกนใบหน้า และสแกนม่านตา

ด้านล่างจะเป็นปุ่ม Home แบบดิจิตอล แต่เวลากดจะมีแรงสั่นคล้ายกับกดปุ่มจริงๆ เหมือนใน Galaxy S8


พลิกมาดูด้านหลังนี่คือจุดเด่นของ Galaxy Note 8 ที่มาพร้อมกล้องคู่ Wide-angle และ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเป็นครั้งแรก ส่วนเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือได้มีการจัดวางในตำแหน่งที่ห่างจากตัวกล้องมากขึ้นไม่ติดกันเหมือนใน Galaxy S8 แล้ว โดยมีไฟแฟลชมาคั่นระหว่างกลาง

ด้านซ้ายตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มลดเสียงถัดลงมาจะเป็นปุ่มใช้งาน Bixby เลขาส่วนตัวที่จะคอยค้นหาข้อมูลต่างๆ ให้คุณ

ด้านขวาจะมีปุ่ม Power ใช้สำหรับเปิดเครื่องและล็อคหน้าจอ

มาดูด้านบนจะมีช่องใส่ SIM และ Micro SD รองรับสูงสุด 256GB ซึ่งรวมกับตัวเครื่องแล้วจะมีความจุสูงถึง 320GB

ส่วนด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ช่องสายชาร์จแบบ USB Type-C ลำโพงและที่เก็บปากกา S Pen

การใช้งาน S Pen ง่ายมากแค่กดลงไปเบาๆ ปากกาก็พร้อมใช้งานแล้ว

โฉมหน้าปากกา S Pen ที่ได้การพัฒนาปรับปรุงใหม่หมด ปลายปากกามีขนาดเล็กเพียง 0.7 มม. วัสดุเปลี่ยนเป็นยางแข็งแทนพลาสติกช่วยลดเสียงดังเวลาขีดเขียน แถมยังรองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ ใช้งานได้เหมือนปากกาจริงมากยิ่งขึ้น ตัวปุ่มกดที่อยู่บน S Pen มีปรับตำแหน่งขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้กดได้สะดวกกว่าเดิม

ตัวปากกา S Pen มีน้ำหนักเพียง 3 กรัมเท่านั้น แถมยังกันน้ำกันฝุ่นตามมาตราฐาน IP68 แบบเดียวกับตัวเครื่องด้วย มือเปียกน้ำก็สามารถจดโน้ตได้อย่างสบาย ส่วนท้ายของ S Pen เป็นปุ่มสปริงสามารถกดเล่นได้ ให้ความรู้สึกเหมือนปากกาจริง เชื่อว่าหลายคนเวลาคิดอะไรเพลินๆ ต้องเคยกดเล่นกันอย่างแน่นอน เรียกว่าทาง Samsung เอาใจใส่ผู้ใช้งานจริงๆ

เมื่อดึงปากกาออกก็จะพบกับเมนู Air Command สำหรับใช้งานกับปากกา S Pen ซึ่งได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Live Message, Coloring, Glance และ Magnify เพิ่มเติมเข้ามา

ฟีเจอร์เด่นก็คือ Live Message ที่สามารถส่งข้อความหาเพื่อนด้วยการเขียนข้อความในรูปแบบอนิเมชั่น มีให้เลือกลายเส้นได้หลายแบบทั้งลายเส้นธรรมดาและแบบวิ๊งๆ ทำให้การส่งข้อความหากันไม่ดูน่าเบื่อแถมยังสามารถแนบภาพสวยๆ ไปกับข้อความพร้อมๆ กันเลยก็ได้

ตัว Screen Off Memo สำหรับใช้งานปากกา S Pen ตอนที่เครื่องล็อคหน้าจออยู่ก็ได้มีการอัพเกรดขึ้นเช่นกัน ตอนนี้สามารถรองรับการจดโน้ตได้ถึง 100 หน้าแล้ว และเพียงแค่นำ S Pen มาใกล้หน้าจอแล้วกดปุ่มบนด้ามก็สามารถใช้งานต่อได้ทันที ไม่ต้องเสียบปากกากลับเข้าไปแล้วดึงออกมาใหม่อีกเหมือนรุ่นก่อนหน้า ส่วนการลบคำผิดก็แค่กดปุ่มตรงด้ามแล้วลากลบได้ตามสะดวกเลย


หน้าจอ EDGE Screen ยังคงมีมาให้ใช้งานใน Galaxy Note 8 นี้ด้วยโดยการปัดนิ้วจากขอบจอมาด้านซ้ายมือ ซึ่งการทำงานโดยรวมๆ จะคล้ายกับ Galaxy S8 เป็นทางลัดสำหรับเข้าถึงแอพต่างๆ ได้เร็วขึ้น สามารถเลือกได้ว่าจะใช้งานหน้าจอไหนบ้างโดยกดที่ปุ่มตั้งค่าทางด้านล่าง

มาดูในส่วนของการเล่นเกมกันบ้าง ด้วยความกว้างของหน้าจอแบบ 18.5:9 ช่วยให้แสดงผลได้อย่างเต็มตา เต็มพื้นที่กว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ



ทดสอบด้วยการเล่นเกม ROV แบบปรับกราฟฟิกทุกอย่างเต็มที่ทั้งหมด บอกได้เลยว่าลื่นมากๆ แม้ขนาดช่วงดวลกันรุมใส่สกิลที่หลายคนชอบบ่นว่าแลคๆ Galaxy Note 8 ผ่านได้อย่างสบาย แต่ถ้าเล่นติดต่อกันนานๆ ตัวเครื่องก็ออกอาการร้อนนิดๆ อยู่เหมือนกัน


ลองทดสอบกับเกมแข่งรถอย่าง Need for Speed No Limits ก็ทำเฟรมเรตได้ดี แสดงผลกราฟฟิกออกมาได้คมมาก สามารถซิ่งเล่นได้แบบไหลลื่นกันเลยล่ะ


โดยรวมแล้ว Galaxy Note 8 สามารถเล่นเกมกราฟฟิกหนักๆ ได้อย่างสบาย จะเรียกว่าสเปคสมกับเป็นแฟลกชิปก็คงจะไม่ผิดนัก แถมหน้าจอยังเอื่อต่อการเล่นเกมอีกด้วย น่าจะถูกใจใครหลายๆ คน


Galaxy Note 8 หน้าจอความละเอียดอยู่ที่ 2960 x 1440 คมชัดขนาดนี้นอกเหนือจากการเล่นเกมแล้วก็ต้องดูหนังนี่ล่ะ ทดสอบด้วยแอพ AIS Play เปิด HBO Go ดูซีรีส์ยอดฮิต Game of Thrones ก็ทำออกมารองรับหน้าจอ 18.5:9 เรียบร้อยแล้ว สามารถอ่านซับไทยได้อย่างชัดเจน


โดยรวมถือว่าโอเคเลยภาพเต็มตาดี แสดงผลได้คมชัดแม้จะเป็นซีนที่มีฉากมืดมากๆ แต่สำหรับการดูผ่าน YouTube บางวีดีโอคลิปจะเป็นขนาด 16:9 ทำให้ภาพที่ได้ไม่เต็มจอ ถึงตัวเครื่องจะมีระบบปรับอัตราส่วนแบบเต็มจอให้ก็จะเป็นการครอปภาพบนล่างออกทำให้รายละเอียดบางส่วนของภาพขาดหายไปแทน

มาเข้าเรื่องกล้องคู่ดูโอ้ 12 ล้านพิกเซล Wide-angle และ Telephoto กันบ้าง โดยเลนส์ Wide-angle ค่า F/1.7 (เลนส์ด้านขวา) จะใช้สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง จริงๆ แล้วก็คือกล้องหลักของสมาร์ทโฟนทั่วไปนี่แหละ และเลนส์ Telephoto ค่า F/2.4 (เลนส์ด้านซ้าย) จะใช้สำหรับถ่ายภาพมุมแคบหรือก็คือเลนส์ซูมแบบ Optical นั่นเอง ซึ่งจะมีระยะซูมเมื่อเทียบกับกล้องหลักประมาณ 2 เท่าด้วยกัน โดยทั้ง 2 กล้องมีระบบ OIS ลดการสั่นไหวมาให้ในตัวทำให้เวลาถ่ายภาพทั้งแบบปกติและการซูมคมชัดยิ่งขึ้น


หน้าตา UI ของโหมดกล้องใน Galaxy Note 8 ยังคงคล้ายกับ Galaxy S8 สามารถเลือกใช้งานโหมดกล้องต่างๆ ที่มีอยู่ด้วยการลากนิ้วจากขอบจอด้านซ้ายมาทางขวา ส่วนที่มีเพิ่มเติมเข้ามาก็คือปุ่ม X2 สำหรับสลับไปใช้งานกล้อง Telephoto เพื่อซูมและโหมดใหม่ที่ชื่อว่า “โฟกัสตามเวลาจริง” หรือ “Live Focus” เอาไว้สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอนั่นเอง

วิธีใช้งานโหมด Live Focus ให้แตะที่เมนูให้เป็นสีเหลืองเพื่อเปิดใช้งาน จากนั้นก็ต้องขยับกล้องให้ได้ระยะจนหน้าจอขึ้นคำว่า “โฟกัสตามเวลาจริงพร้อมใช้งาน” หรือ “Live Focus Available” เสียก่อน เท่านี้ก็พร้อมถ่ายภาพแบบละลายพื้นหลังแล้วล่ะ

หลังจากถ่ายภาพเรียบร้อยยังสามารถนำภาพกลับมาปรับความเบลอของพื้นหลังได้ตามต้องการอีกด้วย

นอกจากการเบลอพื้นหลังแล้วโหมด Live Focus ยังมีฟีเจอร์ Dual Capture ที่จะทำการถ่ายภาพ 2 แบบทั้งภาพมุมแคบและภาพมุมกว้างในการกดชัตเตอร์ครั้งเดียวด้วย สังเกตได้จากไอคอนสี่เหลี่ยมซ้อนกันตามภาพจะเป็นการเปิดใช้งาน Dual Capture

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Live Focus และ Dual Capture




จะเห็นได้ว่าพื้นหลังละลายได้พอสมควรเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็มาจากกล้องคู่ซึ่งจะช่วยดึงจุดเด่นในภาพให้ดูเด่นชัดยิ่งขึ้น ชอบตรงที่หลอดดูดน้ำไม่ละลายไปกับพื้นหลังด้วย ทำให้รู้เลยว่าตัวกล้องนั้นมีความฉลาดพอสมควรเลย ส่วน Dual Capture ก็ช่วยให้ได้ภาพในมุมกว้างที่บางครั้งเราอาจจะมองข้ามไปหรือคิดไม่ถึง เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีทีเดียว

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด X2






เอาจริงๆ โหมดนี้ก็ถ่ายได้สนุกมากเพราะเราไม่จำเป็นต้องซูมเท้ากันอีกต่อไป อยากถ่ายภาพนักร้องบนเวทีก็สามารถกดที่ปุ่ม X2 เพื่อสลับไปใช้งานกล้อง Telephoto ได้โดยที่ Quality ของภาพแทบไม่ดรอปลงไปเลย

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Auto

การถ่ายภาพในโหมด Auto นั้นยังคงยอดเยี่ยมเช่นเคย ด้วยค่ารูรับแสงของเลนส์ Wide-angle อยู่ที่ F/1.7 ช่วยให้ถ่ายภาพในทีแสงน้อยได้ดีทีเดียว เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบายหยิบขึ้นมาก็แชะถ่ายภาพได้ทันที ทางลัดที่จะช่วยให้เข้าโหมดกล้องถ่ายรูปได้ง่ายขึ้นก็คือการกดที่ปุ่ม Power สองครั้ง รับรองว่าพก Galaxy Note 8 ติดตัวไว้จะไม่พลาดทุกช็อตเด็ดอย่างแน่นอน


สำหรับใครที่กังวลเรื่องหน้าจอโค้งของ Galaxy Note 8 ว่าจะติดฟิล์มกันรอยลำบาก (ถึงจะเป็น Gorilla Glass 5 ก็เถอะ แต่กันไว้ดีกว่าแก้) แนะนำเป็น Focus Super Glass 3D Full Frame Tempered Glass กระจกกันรอยที่ดีไซน์ออกมารองรับกับหน้าจอโค้งโดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่นป้องกันแรงกระแทกได้ดี ช่วยให้หน้าจอคงทนแข็งแรงทัชลื่นไม่มีสะดุด แถมยังช่วยคงความสวยงามให้ตัวเครื่องอีกด้วย

จากการทดสอบใช้งานมาได้ซักพักบอกเลยว่า Galaxy Note 8 สมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Samsung นี้ต้องกลับมาเป็นสมุดโน้ตอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมอีกครั้งอย่างแน่นอน เป็นการต่อยอดความสำเร็จจาก Galaxy S8 และ Galaxy S8+ ได้อย่างสวยงาม และที่สำคัญมาพร้อมกับกล้องคู่เป็นครั้งแรกอีกด้วย เรื่องระบบรักษาความปลอดภัยก็ยังคงดีเยี่ยมเช่นเคย มีทั้งระบบสแกนใบหน้า ระบบสแกนม่านตา และระบบสแกนนิ้วมือ ด้าน S Pen ก็ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิมมาก รับรองว่าจะสามารถตอบโจทย์คนที่เป็นแฟน Galaxy Note ซีรีส์อยู่แล้วได้เป็นอย่างดีและน่าจะดึงดูด User กลุ่มใหม่ที่ชอบการถ่ายภาพหรือการจดบันทึกเพิ่มเติมได้อีกด้วย สำหรับตอนนี้เปิดให้จับจองกันเป็นที่เรียบร้อย สนนราคาตัวเครื่องอยู่ที่ 33,900 บาท

บทความโดย – mintflashfly





Tags: n8adsNote 8PreviewReviewSamsungSamsung Galaxy Note 8พรีวิวรีวิว
Share13TweetShare

Related Posts

ภาพหลุดเคสแท้ของ Samsung สำหรับ Galaxy S23 Series ทุกรุ่น ทุกแบบ
NEWS

ภาพหลุดเคสแท้ของ Samsung สำหรับ Galaxy S23 Series ทุกรุ่น ทุกแบบ

January 27, 2023
iPhone เป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 แต่ยอดจัดส่งตลอดทั้งปี Samsung ยังเป็นผู้นำ
iPhone

iPhone เป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 แต่ยอดจัดส่งตลอดทั้งปี Samsung ยังเป็นผู้นำ

January 26, 2023
เปิดตัวแล้ว!! Samsung Galaxy Book2 Pro 360 ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นที่ 12 ของ Intel มีให้เลือก 2 ขนาด 13.3 และ 15.6 นิ้ว
NEWS

Samsung เตรียมเปิดตัวแล็ปท็อปรุ่นแรก ที่มาพร้อมจอแสดงผล OLED ระบบสัมผัส ในสัปดาห์หน้า

January 24, 2023
Load More

Stay Connected

  • 32.7k Followers
  • 13.6k Subscribers
  • 1000 Subscribers
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0
  • รีวิว HUAWEI nova Y70 จอใหญ่ 6.75 นิ้ว กล้องหลัง 48MP ความจุ 128GB แบตอึดสะใจ 6000mAh ชาร์จไว พร้อมใช้งาน LINE ได้ตามปกติแล้ว ราคาเพียง 5,999 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • หลุด!! ราคา iPhone 14 Series ทั้ง 4 รุ่น ปรับราคาขึ้นอีกราว 3,300 บาท เริ่มต้นราว 26,300 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max จะมาในราคาที่แพงกว่าเดิม คาดราคาเริ่มต้น 42,900 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • Truemove H จัดโปรซื้อ iPhone 13, iPhone 13 Pro หรือ iPhone 13 Pro Max ในราคาเต็ม รับฟรี iPhone 13 ความจุ 128GB

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
Flashfly Dot Net

www.flashfly.net

Follow Us

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

ชมการงัดแงะ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว ที่มาพร้อมชิป M2 Pro โดยทำตามคู่มือของ Apple

ชมการงัดแงะ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว ที่มาพร้อมชิป M2 Pro โดยทำตามคู่มือของ Apple

January 28, 2023
การแข่งขันกระดานโต้คลื่น World Surf League ประกาศให้นักกีฬาใส่ Apple Watch ระหว่างแข่งขัน

การแข่งขันกระดานโต้คลื่น World Surf League ประกาศให้นักกีฬาใส่ Apple Watch ระหว่างแข่งขัน

January 28, 2023
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net.

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net.