Wednesday, July 9, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

รีวิว Samsung Galaxy A8 และ Galaxy A8+ (2018) หน้าจอไร้กรอบไร้ปุ่มโฮม กล้องหน้าคู่ สเปกแฟลกชิปในราคาหมื่นกลางๆ

Jackrich T. by Jackrich T.
March 19, 2018
in Feature, NEWS, Recommended, Review & Preview, Samsung
321
SHARES
110
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Samsung ประเทศไทยประเดิมต้นปีด้วยสมาร์ทโฟนคู่ดูโอ Galaxy A8 และ Galaxy A8+ (2018) ถึงจะถูกจัดอยู่ในครอบครัว Galaxy A series แต่สำหรับ A8 และ A8+ (2018) ก็ถูกยกระดับขึ้นไปจนเกือบจะเทียบเท่าเรือธงอย่าง Galaxy S series โดยถือเป็น Galaxy A series รุ่นแรกที่ได้ใช้จอแสดงผล Infinity Display มาพร้อมกล้องคู่เซลฟี่ ละลายฉากหลังได้ และกันน้ำ-ฝุ่นในระดับ IP68 (อยู่รอดในน้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานไม่เกิน 30 นาที) และนอกจากนี้ Galaxy A8 และ A8+ (2018) ก็ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย

Samsung Galaxy A8 และ A8+ (2018) ได้รับการออกแบบมาเหมือนกัน แตกต่างกันที่ขนาดบอดี้ และขนาดจอแสดงผล แน่นอนว่า Galaxy A8+ (2018) จะมีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนว่าชอบสมาร์ทโฟนที่พกพาสะดวก หรือชอบสมาร์ทโฟนที่จอใหญ่มองเห็นภาพได้เต็มตากว่า
อย่างที่บอกไปว่านี่คือ Galaxy A series รุ่นแรกที่ได้ใช้จอแสดงผล Infinity Display ดังนั้น มุมมองด้านหน้าจึงมีส่วนคล้ายกับ Galaxy S8 หรือ S8+ ด้วยอัตราส่วนภาพ 18.5:9 ทำให้หน้าจอดูยืดยาวขึ้น อย่างไรก็ตาม พื้นที่ขอบจอด้านบนกับด้านล่างของ Galaxy S8 series จะมีความบางกว่า
Galaxy A8 (2018) มีขนาดหน้าจอ 5.6 นิ้ว ส่วน Galaxy A8+ (2018) มีขนาดหน้าจอ 6 นิ้ว แต่ทั้งคู่ใช้สเปกจอเหมือนกัน คือ Super AMOLED ความละเอียด 1080 x 2220 พิกเซล พร้อมด้วยฟีเจอร์ Always on Display และสามารถเข้าไปตั้งค่าจอแสดงผล เพื่อปรับสมดุลสีหน้าจอ หรือเปิดฟีเจอร์กรองแสงสีฟ้า
เหนือจอแสดงผลมีการซ่อนหลอดไฟ LED เอาไว้ด้วย สำหรับแจ้งเตือนหรือบ่งบอกสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ อีกทั้งยังติดตั้งกล้องเซลฟี่แบบเลนส์คู่ 16 + 8 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่คนเดียวหรือเป็นกลุ่ม และมีฟีเจอร์ละลายฉากหลังด้วย


ด้านล่างจะมี 3 ปุ่มหลักที่อยู่ในหน้าจอเลยทั้งปุ่มล่าสุด ,ปุ่ม Home และ ปุ่มย้อนกลับ ที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android คุ้นเคยกันดี
แผงหลังดูดีด้วยวัสดุกระจก และไม่สามารถแกะออกได้ โดยภายในมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3,000mAh สำหรับ Galaxy A8 (2018) และ 3,500mAh สำหรับ Galaxy A8+ (2018) ส่วนกล้องตัวหลักมีความละเอียดเท่ากัน 16 ล้านพิกเซล ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และวางแฟลชไว้ที่ข้างเลนส์กล้อง
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวน และมีถาดใส่ซิมการ์ด พร้อมการ์ด microSD ขยายได้สูงสุด 256GB
ด้านข้างมีปุ่มปรับเสียง และมีถาดใส่ซิมการ์ดมาให้อีก 1 ช่อง นั่นหมายถึง Galaxy A8 และ A8+ (2018) รองรับ 2 ซิมการ์ด และยังใส่การ์ด microSD ได้อีกด้วย

อีกข้างหนึ่งจะพบกับตำแหน่งของลำโพงซ่อนอยู่ใต้ช่องตะแกรง และปุ่มเพาเวอร์ (ไม่มีปุ่มเรียก Bixby เหมือนเรือธง)
ไมโครโฟนตัวหลักอยู่ที่ด้านล่าง ใกล้กันมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ภายในกล่องมาพร้อม Adapter ที่สนับสนุนการชาร์จเร็ว
จุดเด่นแรกที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือ กล้องคู่เซลฟี่ของ Galaxy A8 และ A8+ (2018) มีความละเอียด 16 + 8 ล้านพิกเซล แต่ละเลนส์มีความแตกต่างกันตรงที่มุมกว้าง ถ้าเน้นถ่ายเซลฟี่คนเดียว ควรใช้เลนส์ 16 ล้านพิกเซล เพราะจะให้ภาพที่คมชัดกว่า แต่ถ้าถ่ายเซลฟี่แบบเป็นกลุ่ม หรืออยากเก็บวิวด้านหลังด้วย ให้เลือกใช้เลนส์ 8 ล้านพิกเซล เพราะใช้เลนส์ที่มีมุมกว้างกว่า
ส่วนวิธีการเลือกใช้ระบบกล้องคู่ ในโหมดกล้องหน้าจะมีไอคอนรูปคน กับไอคอนรูปคนและมีภูเขาแหลมๆ ให้แตะใช้งาน
ระบบกล้องคู่เซลฟี่ของ Galaxy A8 และ A8+ (2018) ยังสามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือละลายฉากหลังได้ด้วย โดยใช้ฟีเจอร์ Live Focus แล้วสามารถละลายงฉากหลังได้ตามต้องการ อยากให้เบลอมาก-น้อยขนาดไหน ก็ให้เลื่อนแถบ Background blur
กล้องดิจิตอลด้านหลังของ Galaxy A8 และ A8+ (2018) มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.7 (ขนาดเท่ากับ Galaxy S8 series) จึงถ่ายภาพได้อย่างคมชัดไม่แพ้เรือธง ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน อีกทั้งยังมีลูกเล่นสนุกๆ อย่างการแทรกรูปสติ๊กเกอร์น่ารักๆ เอามาตกแต่งใบหน้าหรือภาพถ่าย พร้อมด้วยโหมดถ่ายภาพอาหาร สำหรับคนชอบแชะก่อนชิม และแน่นอนว่ามีโหมดบิวตี้มาเอาใช้สาวๆ ด้วย
Samsung Galaxy A8 และ A8+ (2018) ใช้ระบบยืนยันตัวตนที่ทันสมัย สามารถปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว เพียงจ้องมองที่หน้าจอ หรือใช้วิธีสแกนลายนิ้วมือก็ทำได้เช่นกัน โดยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะติดตั้งอยู่ใต้กล้องด้านหลัง
อีกฟีเจอร์หนึ่งที่ Samsung Galaxy A8 และ A8+ (2018) ยืมมาจากเรือธงก็คือผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ถึงแม้จะไม่มีปุ่มเรียกใช้งานโดยตรงมาให้เหมือน Galaxy S8 series แต่ก็สามารถเข้าถึงได้จากหน้าจอโฮม เพียงปัดปลายนิ้วมาทางขวา
Samsung Galaxy A8 และ A8+ (2018) ตอบสนองการทำงานและเล่นเกมด้วยชิป Exynos 7885 ของ Samsung เอง โดยใช้แกนประมวลผล 2.2GHz (2 แกน) + 1.6GHz (6 แกน) ส่วนความจำของทั้งสองรุ่น มีความแตกต่างกันดังนี้ Galaxy A8 (2018) มากับ RAM 4GB ความจุ 32GB ส่วน Galaxy A8+ (2018) ได้รับ RAM 6GB ความจุ 64GB และทั้งสองรุ่นยังรองรับการ์ดความจำ microSD สูงสุด 256GB
นอกจากนี้ Samsung Galaxy A8 และ A8+ (2018) ยังมีจุดเด่นอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อไร้สายความเร็วสูง Next G จากค่าย AIS ซึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนบ้านเราตอนนี้มีเพียงแฟลกชิบไม่รุ่นเท่านั้นที่รองรับ โดย Galaxy A8 ทั้ง 2 รุ่นก็มาพร้อมใช้งานทันทีสำหรับใครที่มีแพคเกจ Next G อยู่แล้ว
อีกฟีเจอร์เด่นของ Galaxy A8 และ A8+ คือตัวเครื่องกันน้ำ-ฝุ่นในระดับ IP68 (อยู่รอดในน้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานไม่เกิน 30 นาที) ช่วยให้เราสามารถถ่ายรูปสวยๆได้แม้ท่ามกลางสายฝน หรือในสระน้ำ
พร้อมสนับสนุนบริการ Samsung Pay สามารถแชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี มีฟีเจอร์ Secure Folder สำหรับเก็บข้อมูลสำคัญ และติดตั้งเซ็นเซอร์ต่างๆ มาให้ครบครันทั้ง Gyro Sensor, Accelerometer, Barometer, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Proximity Sensor และ RGB Light Sensor
Samsung Galaxy A8 และ A8+ (2018) เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางก็จริง แต่ก็อยู่ในตำแหน่งที่เกือบจะถึงระดับเรือธง ทั้งการออกแบบ และสเปก จะแตกต่างจาก Galaxy S8 series ก็ด้วยเทคโนโลยีบางอย่าง เช่น กล้องดิจิตอลของ Galaxy A8 และ A8+ (2018) ไม่ได้ใช้ Dual Pixel, ปุ่มโฮมบนหน้าจอก็ไม่มี Pressure Sensor ประเภทความจุในตัวเป็นแบบ eMMC ซึ่งทำงานช้าว่า UFS 2.1 ที่ใช้ในเรือธง อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่า นี่คือ Galaxy A series ไม่ใช่ Galaxy S series จึงไม่สามารถใส่เทคโนโลยีมาให้แบบเดียวกับเรือธง เพื่อทำราคาให้ถูกลงนั่นเอง
ดังนั้น Galaxy A8 และ A8+ (2018) จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่างเหมือนเรือธง แต่ราคาถูกกว่า ซึ่ง Galaxy A8 และ A8+ (2018) ก็ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกล้อง การเล่นเกม ท่องโลกอินเตอร์เน็ต และโซเชี่ยล อีกทั้งจอแสดงผลก็มีขนาดใหญ่ จึงสามารถรับชมวีดีโอออนไลน์ได้อย่างสบายตา
Samsung Galaxy A8 และ A8+ (2018) วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท และ 18,990 บาท ตามลำดับ ความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้คือ ขนาดจอแสดงผล กับความจำ ในราคาที่ห่างกัน 3,000 บาท คุณต้องเลือกระหว่าง สมาร์ทโฟนที่พกพาสะดวก ขนาดหน้าจอกำลังพอดี กับอีกรุ่นที่ให้แรมมาถึง 6GB รอม 64GB แต่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อย
ปิดท้ายด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy A8 และ Galaxy A8+ ที่ไม่มีการปรับแต่งใดๆอีกเช่นเคยเพียงแค่ย่อขนาดภาพลงมาเท่านั้น ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

บทความโดย – www.flashfly.net




Tags: A8A8 2018Galaxy A8Galaxy A8 PlusPreviewReviewSamsungพรีวิวรีวิว
Share321TweetShare

Related Posts

นี่คือเหตุผลว่าทำไม Apple และ Samsung จึงไม่แข่งขันเรื่องขนาดแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟน
Android

นี่คือเหตุผลว่าทำไม Apple และ Samsung จึงไม่แข่งขันเรื่องขนาดแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟน

July 7, 2025
วิดีโอสอนติดฟิล์มกันรอย Galaxy Z Fold7 เผยให้เห็นขอบหน้าจอที่บางเฉียบ
NEWS

วิดีโอสอนติดฟิล์มกันรอย Galaxy Z Fold7 เผยให้เห็นขอบหน้าจอที่บางเฉียบ

July 7, 2025
ภาพหลุดเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold7 เผยดีไซน์บางประมาณ 3.9 – 4.5 มิลลิเมตรเท่านั้น
NEWS

ภาพหลุดเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold7 เผยดีไซน์บางประมาณ 3.9 – 4.5 มิลลิเมตรเท่านั้น

July 7, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Xiaomi Smart Band 10 สมาร์ทแบนด์ที่อัปเกรดเพื่อชีวิตที่อัจฉริยะมากขึ้น พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้วในราคาเริ่มต้นเพียง 1,449 บาท

Xiaomi Smart Band 10 สมาร์ทแบนด์ที่อัปเกรดเพื่อชีวิตที่อัจฉริยะมากขึ้น พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้วในราคาเริ่มต้นเพียง 1,449 บาท

July 8, 2025
iPhone 17e จะเปิดตัวในต้นปี 2026 อ้างอิงจาก The Elec แหล่งข่าวในเกาหลีใต้

iPhone 17e จะเปิดตัวในต้นปี 2026 อ้างอิงจาก The Elec แหล่งข่าวในเกาหลีใต้

July 8, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');