สารจาก Tim Cook ถึงนักลงทุน Apple ถึงนักลงทุน Apple ทุกท่าน วันนี้เราจะมาประเมินผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2019 ของ Apple ซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 29 ธันวาคม เราคาดว่าจะได้รับ
- รายได้ประมาณ 84 พันล้านดอลลาร์
- กำไรขั้นต้นประมาณ 38 เปอร์เซ็
นต์ - ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานประมาณ
8.7 พันล้านดอลลาร์ - รายได้/(รายจ่าย)อื่นๆ ประมาณ
550 ล้านดอลลาร์ - อัตราภาษีประมาณ 16.5 เปอร์เซ็
นต์ก่อนคิดรายการภาษีพิเศษ
ตามค่าประมาณดังกล่าว รายได้ของเราจะต่ำกว่าผลประกอบการประจำไตรมาสที่ประเมินไว้ในตอนแรก ในขณะที่รายการอื่นๆ ส่วนใหญ่ยังคงสอดคล้องกับการประเมินผลประกอบการที่คาดการณ์ไว้
แม้ว่าจะเหลืออีกหลายสัปดาห์กว่าที่เราจะจัดทำและรายงานผลประกอบการอย่างเป็นทางการให้ทราบ แต่เราก็อยากให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นบางส่วนก่อน ผลประกอบการอย่างเป็นทางการอาจแตกต่างจากการประเมินเบื้องต้นเหล่านี้
ตามที่เราได้แจ้งการประเมินผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ให้ทราบเมื่อ 60 วันก่อน เราทราบว่าไตรมาส 1 จะได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจในระดับมหภาคและปัจจัยเฉพาะของ Apple ตามผลการประเมินที่ดีที่สุด เราคาดว่ารายได้แบบปีต่อปีจะเติบโตขึ้นเพียงเล็กน้อยสำหรับไตรมาสนี้ ซึ่งเราได้พูดถึงปัจจัย 4 อย่าง
อย่างแรก เราทราบว่าช่วงเวลาในการเปิดตัว iPhone จะส่งผลต่อการเปรียบเทียบแบบปีต่อปี ผลิตภัณฑ์รุ่นท็อปของเราอย่าง iPhone Xs และ iPhone Xs Max ที่ออกวางจำหน่ายในไตรมาส 4 ปี 2018 ได้เติมช่องทางขายและสร้างยอดขายก่อนกำหนดในไตรมาสนั้น ขณะที่ iPhone X ที่วางจำหน่ายในไตรมาส 1 ปี 2018 ได้เติมช่องทางขายและสร้างยอดขายก่อนกำหนดในไตรมาสของเดือนธันวาคม เราทราบว่าเรื่องนี้จะสร้างข้อเปรียบเทียบที่ห่างกันมากสำหรับไตรมาส 1 ปี 2019 ซึ่งก็สอดคล้องเป็นส่วนใหญ่กับการประเมินผลประกอบการของเรา
อย่างที่สอง เราทราบว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งตัวจะสร้างแรงต้านของอัตราแลกเปลี่ยน และคาดการณ์ว่าเรื่องนี้จะทำให้รายได้ลดลงประมาณ 200 เบซิสพอยท์เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งก็สอดคล้องเป็นส่วนใหญ่กับการคาดการณ์ของเราเช่นกัน
อย่างที่สาม เราทราบว่าเรามีผลิตภัณฑ์ออกใหม่จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสนี้ และคาดว่าปริมาณสินค้าที่จำกัดอาจทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์บางอย่างหยุดชะงักในช่วงไตรมาส 1 ซึ่งก็สอดคล้องเป็นส่วนใหญ่กับการคาดการณ์ของเราเช่นเคย ยอดขาย Apple Watch Series 4 และ iPad Pro หยุดชะงักเกือบหรือตลอดทั้งไตรมาส AirPods และ MacBook Air ก็เช่นกัน
อย่างที่สี่ เราคาดว่าจะเจอสภาวะอ่อนแรงทางเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่บางแห่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีผลกระทบมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ปัจจัยเหล่านี้และอื่นๆ ยังส่งผลให้มีการอัพเกรด iPhone น้อยลงกว่าที่เราคาดไว้
ปัจจัยสองอย่างหลังนี้ทำให้เราต้องปรับลดการประเมินผลประกอบการลง เราอยากจะกล่าวถึงปัจจัยสองอย่างนี้ให้ละเอียดขึ้นอีกสักนิด
ความท้าทายในตลาดเกิดใหม่
แม้ว่าเราจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าอาจมีความท้าทายบางอย่างในตลาดเกิดใหม่ แต่เราก็คาดไม่ถึงระดับความรุนแรงของสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ จากข้อมูลพบว่ารายได้ส่วนใหญ่ของเราทำได้ไม่ถึงผลประกอบการที่ประเมินไว้ และมีรายได้แบบปีต่อปีทั่วโลกลดลงกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่สำหรับผลิตภัณฑ์ iPhone, Mac และ iPad
เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 การเติบโตของ GDP ตามการรายงานของรัฐบาลในช่วงไตรมาสของเดือนกันยายนถือว่าต่ำสุดเป็นอันดับสองในรอบ 25 ปี เราเชื่อว่าสภาพเศรษฐกิจในประเทศจีนได้รับผลกระทบมากขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา เมื่อสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนมาลงที่ตลาดการเงิน จึงส่งผลกระทบมาถึงผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ทำให้ปริมาณการสั่งซื้อที่ร้านค้าปลีกและพาร์ทเนอร์ช่องทางขายของเราในจีนลดลงในระหว่างไตรมาส และจากข้อมูลยังพบว่าตลาดสมาร์ทโฟนในจีนแผ่นดินใหญ่มีการหดตัวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
แม้จะเผชิญความท้าทายเหล่านี้ เราก็เชื่อว่าธุรกิจของเราในประเทศจีนยังคงมีอนาคตที่สดใส ชุมชนนักพัฒนาแอพ iOS ในประเทศจีนถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มนักพัฒนาที่สร้างสรรค์และเก่งที่สุดในโลก ผลิตภัณฑ์ของเรายังคงได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยสร้างการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจในระดับสูง ผลสำเร็จของเราในจีนได้แก่สถิติใหม่ในด้านรายได้จากบริการ และฐานผู้ใช้อุปกรณ์ที่เติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้ว เราภูมิใจที่มีส่วนร่วมในตลาดประเทศจีน
iPhone
รายได้ของ iPhone ต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่ มีส่วนทำให้รายได้รวมของเราไม่ถึงผลประกอบการณ์ที่ตั้งไว้ และต่ำกว่ารายได้ของปีที่แล้วมาก แต่ผลิตภัณฑ์ในหมวดอื่นที่ไม่ใช่ iPhone (บริการ, Mac, iPad, อุปกรณ์สวมใส่/อุปกรณ์ในบ้าน/อุปกรณ์เสริม) รวมกันแล้วมีการเติบโตมากกว่าปีก่อนเกือบ 19 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ประเทศจีนและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ มีส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้จาก iPhone แบบปีต่อปีลดลงอย่างมาก ในตลาดที่พัฒนาแล้วแล้วบางแห่งก็พบว่ามีการอัพเกรด iPhone ไม่มากอย่างที่คิดไว้ ขณะที่สภาพเศรษฐกิจในระดับมหภาคในตลาดบางแห่งมีส่วนสำคัญต่อแนวโน้มนี้ เราเชื่อว่ามีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อยอดขายของ iPhone นั่นรวมถึงการปรับตัวของผู้บริโภคต่อการส่งเสริมการขายจากผู้ให้บริการเครือข่ายที่น้อยลง ราคาที่สูงขึ้นจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และลูกค้าบางส่วนที่ใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ iPhone สำหรับเปลี่ยนทดแทนที่มีราคาถูกลงมาก
ผลลัพธ์ด้านบวกในไตรมาสของเดือนธันวาคม
แม้ว่าจะน่าผิดหวังที่เราต้องปรับการประเมินใหม่ แต่การดำเนินการของเราในหลายด้านก็แสดงผลลัพธ์ที่ดีแม้จะต้องเจอกับความท้าทายดังที่ได้กล่าวมา
ฐานผู้ใช้อุปกรณ์ของเราทำลายสถิติใหม่ นั่นคือเติบโตมากกว่า 100 ล้านหน่วยในช่วง 12 เดือน มีการใช้อุปกรณ์ Apple มากขึ้นกว่าเดิม และนั่นแสดงถึงความภักดี ความพึงพอใจ และการมีส่วนร่วมของลูกค้า
และอย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ รายได้อื่นที่ไม่ใช่ iPhone เติบโตขึ้นเกือบ 19 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว รวมถึงรายได้ที่ทำลายสถิติตลอดกาลจากธุรกิจบริการ อุปกรณ์สวมใส่ และ Mac ธุรกิจที่ไม่ใช่ iPhone มีความเสี่ยงน้อยลงในตลาดเกิดใหม่ และรายได้ส่วนใหญ่จากบริการเกี่ยวข้องกับขนาดฐานผู้ใช้ ไม่ใช่ยอดขายในงวดปัจจุบัน
ธุรกิจบริการสร้างรายได้กว่า 10.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส ซึ่งถือว่าทำลายสถิติใหม่รายไตรมาสในทุกส่วนภูมิภาค และเรามีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายในการขยายธุรกิจให้เติบโตเป็นสองเท่าจากปี 2016 ถึง 2020
อุปกรณ์สวมใส่เติบโตขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว ขณะที่ Apple Watch และ AirPods ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากผู้ซื้อในช่วงเทศกาลวันหยุด การเปิดตัว MacBook Air และ Mac mini ทำให้รายได้ของ Mac เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว และการเปิดตัว iPad Pro ใหม่ทำให้รายได้จาก iPad เติบโตจากปีที่แล้วในระดับเลขสองหลัก
นอกจากนี้ เรายังคาดว่าจะสร้างสถิติใหม่ตลอดกาลด้านรายได้ในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี อิตาลี สเปน เนเธอร์แลนด์ และเกาหลี และแม้เราจะเผชิญความท้าทายในตลาดเกิดใหม่บางแห่ง ก็มีตลาดในบางประเทศที่สร้างสถิติใหม่ได้ เช่น เม็กซิโก โปแลนด์ มาเลเซีย และเวียดนาม
สุดท้าย เรายังคาดว่าจะทำลายสถิติตลอดกาลในด้านรายได้ต่อหุ้นของ Apple ด้วย
มองไปข้างหน้า
ความสามารถในการทำกำไรและกระแสเงินสดของเรายังดีอยู่ และคาดว่าจะปิดไตรมาสได้ด้วยเงินสดสุทธิประมาณ 130 พันล้านดอลลาร์ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว เราวางแผนที่จะทำให้ปริมาณเงินสดสุทธิมีความเป็นกลาง
เมื่อพ้นช่วงไตรมาสที่ท้าทายไปแล้ว เราก็กลับมามีความมั่นใจในรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของเราเหมือนเช่นเคย เราบริหาร Apple มาเป็นเวลานาน และ Apple ได้นำช่วงเวลาที่ยากลำบากมาปรับเปลี่ยนแนวทางอยู่เสมอ โดยใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่น การปรับตัว และความสร้างสรรค์ในวัฒนธรรมองค์กรของเราเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ที่สำคัญที่สุด เรามั่นใจและตื่นเต้นเกี่ยวกับสายผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่กำลังจะออกมาในอนาคต Apple สร้างสรรค์นวัตกรรมได้ยิ่งกว่าบริษัทใดในโลก และเราจะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้
เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจในระดับมหภาคได้ แต่เราก็ได้เร่งดำเนินงานโครงการใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงผลประกอบการของเรา ตัวอย่างก็เช่น การอำนวยความสะดวกสำหรับการนำโทรศัพท์มือถือมาเทรดในร้านของเรา การออกโปรโมชันส่งเสริมการขายเป็นครั้งคราว และการให้ความช่วยเหลือในการถ่ายโอนข้อมูลจากเครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่ ซึ่งไม่ใช่แค่ดีต่อสภาพแวดล้อมในการขายเท่านั้น แต่ยังดีต่อลูกค้าด้วย เพราะมือถือเครื่องเก่าสามารถนำมาใช้เป็นทุนสนับสนุนในการซื้อเครื่องใหม่ และดีต่อนักพัฒนาแอพ เพราะจะช่วยขยายฐานผู้ใช้ให้เติบโตยิ่งขึ้น
นี่เป็นหนึ่งในมาตรการต่างๆ ที่เราใช้รับมือกับสถานการณ์นี้ เราสามารถทำการปรับเปลี่ยนเหล่านี้ได้ เนื่องจาก Apple มีจุดแข็งในเรื่องความยืดหยุ่น ความสามารถ และความสร้างสรรค์ของทีม และใจรักในงานที่เราทำทุกวัน
ทุกคนต่างคาดหวังในตัว Apple สูงเพราะเรามีศักยภาพที่จะไปถึงจุดนั้น เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ได้เกินความคาดหวังเหล่านั้นในทุกๆ วัน
นี่เป็นแนวทางของ Apple และจะเป็นเช่นนี้เสมอ
สารฉบับนี้มีข้อความในลักษณะที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตตามขอบเขตของความหมายที่กำหนดไว้ใน Private Securities Litigation Reform Act ปี 1995 ข้อความในลักษณะที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตเหล่านี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงรายได้โดยประมาณของ Apple กำไรขั้นต้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน รายได้/(ค่าใช้จ่าย)อื่นๆ อัตราภาษี เงินสดสุทธิ จำนวนหุ้น และแผนสำหรับผลตอบแทนจากการลงทุน ข้อความเหล่านี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน และผลการดำเนินงานจริงอาจแตกต่างไป ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าวนี้ หมายรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: ผลกระทบจากสภาวะทางเศรษฐกิจทั่วโลกและระดับภูมิภาคที่มีต่อธุรกิจของ Apple รวมถึงผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและธุรกิจ; ความสามารถของ Apple ที่จะแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูงและเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว; ความสามารถของ Apple ในการจัดการการเปิดตัวและเปลี่ยนผ่านผลิตภัณฑ์และบริการบ่อยๆ รวมถึงการนำเข้าสู่ตลาด และการกระตุ้นความต้องการของลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างทันท่วงที; ผลกระทบที่เปลี่ยนไปตามชุดค่าผสมของผลิตภัณฑ์และบริการในภูมิภาค สกุลเงิน หรือช่องทางขายแบบต่างๆ ต้นทุนส่วนประกอบที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันด้านราคา หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีโครงสร้างราคาสูงขึ้น ซึ่งอาจมีผลต่อกำไรขั้นต้นของ Apple; การพึ่งพาประสิทธิภาพของผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือและร้านค้าปลีกอื่นๆ; ความเสี่ยงในสินค้าคงคลังและสินทรัพย์อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับความต้องการสั่งซื้อของ Apple หรือสัญญาว่าจะสั่งซื้อส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ล่วงหน้าก่อนคำสั่งซื้อของลูกค้า; ความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่องในเงื่อนไขที่ยอมรับได้สำหรับส่วนประกอบ บริการ และเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วนที่สำคัญต่อธุรกิจของ Apple รวมถึงส่วนประกอบและเทคโนโลยีที่มีให้ใช้ได้จากแหล่งที่มาเดียวหรือที่จำกัดเท่านั้น; การพึ่งพาการผลิตและบริการโลจิสติกส์ที่ Apple ได้รับจากบุคคลที่สาม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่นอกสหรัฐอเมริกา และอาจส่งผลต่อคุณภาพ ปริมาณ หรือต้นทุนของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ส่งมอบให้แก่ Apple; ผลกระทบของข้อบกพร่องในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการและการผลิตที่มีต่อผลประกอบการและชื่อเสียงของ Apple; การพึ่งพาทรัพย์สินทางปัญญาและคอนเทนต์ดิจิทัลของบุคคลที่สามของ Apple ซึ่งอาจไม่มีให้ Apple ตามเงื่อนไขที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์หรืออื่นๆ; การพึ่งพาการสนับสนุนจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์บุคคลที่สามของ Apple ในการพัฒนาและจัดการซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นและบริการสำหรับผลิตภัณฑ์ของ Apple; ผลกระทบของการแพ้คดี เช่น พบว่า Apple ละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น; ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและข้อบังคับที่ส่งผลต่อกิจกรรมของ Apple รวมถึงความสามารถของ่ Apple ในการเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการต่อลูกค้าในภูมิภาคต่างๆ; ความสามารถของ Apple ในการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมระหว่างประเทศ รวมถึงการปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่ส่งผลต่อการดำเนินงานระหว่างประเทศของ Apple; ความสามารถของ Apple ในการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าปลีกของ Apple; ความสามารถของ Apple ในการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของ Apple ในด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจและการเข้าซื้อธุรกิจใหม่; ผลกระทบที่มีต่อธุรกิจและชื่อเสียงของ Apple จากความล้มเหลวของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เครือข่ายขัดข้อง หรือการเสียสิทธิ์หรือไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใช้งานหรือเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ; ความสามารถของ Apple ในการปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล; บริการและความพร้อมให้บริการอย่างต่อเนื่องของผู้บริหารและพนักงานหลัก; กิจกรรมทางการเมือง ข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศ สงคราม การก่อการร้าย ภัยธรรมชาติ ปัญหาด้านสาธารณสุข และการหยุดชะงักอื่นๆ ของธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้การจัดหาหรือส่งมอบหรืออุปสงค์ของผลิตภัณฑ์ Apple หยุดชะงัก; ความเสี่ยงทางการเงิน รวมถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันผวนของสกุลเงิน ความเสี่ยงด้านเครดิต และความผันผวนในมูลค่าตลาดของพอร์ตการลงทุนของ Apple; และการเปลี่ยนแปลงในอัตราภาษีและความเสี่ยงต่อความรับผิดทางภาษีเพิ่มเติม หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงและปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ Apple สามารถดูได้ในรายงานที่ Apple ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ โดยจะอยู่ในหัวข้อ “Risk Factors” และ “Management’s Discussion and Analysis of Financial Condition and Results of Operations” ของรายงานรอบล่าสุดที่ Apple ยื่นใน Form 10-K และ Form 10-Q รวมถึงรายงานที่ยื่นหลังจากนั้น Apple ไม่มีหน้าที่ต้องปรับปรุงแก้ไขข้อความหรือข้อมูลใดๆ ที่เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตซึ่งให้ไว้ ณ วันที่ดังกล่าว
ข้อมูลที่ระบุไว้ในสารฉบับนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นและผลประกอบการจริงอาจแตกต่างไปจากนี้ Apple วางแผนที่จะรายงานสรุปผลประกอบการในการประชุมทางไกลประจำไตรมาสแรกของเราในวันอังคารที่ 29 มกราคม 2019 เวลา 14:00 น. PST / 17:00 น. EST
Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการแนะนำ Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ Apple TV โดยมีแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้งสี่ของ Apple ซึ่งได้แก่ iOS, macOS, watchOS และ tvOS คอยมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นไม่มีสะดุดบนอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่อง รวมไปถึงความล้ำหน้าด้านการบริการของ App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud ที่ช่วยเสริมศักยภาพการใช้ชีวิตให้กับผู้คนในทุกวัน และที่ขาดไม่ได้คือพนักงานของ Apple กว่า 100,000 คน ผู้อยู่เบื้องหลังการทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก และความมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
