ทุกวันนี้ปฎิเสธกันไม่ได้เลยว่า เทคโนโลยีนั้นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าได้มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำรงชีวิตในเกือบทุกๆด้านก็ว่าได้ ซึ่งแน่นอนว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ทางด้านการศึกษาก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากและวันนี้ทางทีมงาน @flashfly ได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องๆนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศไทย
เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคที่ทันสมัยอย่าง iPad แท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจาก Apple มาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในด้านการเรียนการศึกษา ว่าจะมีมุมมองและมีเทคนิคใช้งานอย่างไร เพื่อให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด และแตกต่างจากการเรียนแบบเดิมๆอย่างไรบ้าง โดยน้องๆแต่ละคนนั้นมีมุมมองและสไตล์การใช้งานที่แตกต่างกันแถมยังนำเสนอได้น่าสนใจมากๆ มาติดตามอ่านกันได้เลย
มาเริ่มกันที่น้องพีรกานต์ ตั้งสัมฤทธิ์กุล นักศึกษาคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ผ่านการฝึกงานใน U Store หรือร้านค้าที่จำหน่ายสินค้า Apple ในมหาวิทยาลัยมาแล้วโดยเริ่มแรกน้องพีรกานต์นั้นบอกว่าเป็นคนที่ไม่เชื่อในการใช้อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคในการจดว่าจะดีกว่าจดบนกระดาษ แต่หลังจากที่ได้ใช้งาน iPad มากว่า 1 ปีก็ชื่นชอบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับ Apple Pencil ที่ใช้งานได้เห็นสะดวกสามารถกดอัดเสียงไปพร้อมๆกับการจดไปด้วยทำให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่เลือกใช้คือ Notability นั่นเอง ช่วยให้หมดปัญหากระดาษไม่พอใช้ แถมตัวเครื่องยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานอีกด้วย และฟีเจอร์การส่งไฟล์การเรียนที่เหล่านิสิตนักศึกษานิยมมากๆก็คือ Air Drop การส่งไฟล์ระหว่าง iPhone ถุและ iPad ที่สามารถส่งไฟล์ได้แบบไม่จำกัดขนาดไฟล์ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ PDF หรือไฟล์เสียงอาจารย์ ถ้าส่งผ่านแอพพลิเคชั่นแชตอื่นจะมีข้อจำกัดตรงนี้
นอกจากนี้ iPad ยังช่วยให้ไม่ไดต้องแบกเอกสารหนัก หรือหนังสือหนาๆหลายเล่มไปเรียนอีกต่อไป แถมยังสามารถซื้อหนังสือต่างประเทศมาอ่านได้ทันที สะดวกกว่าการที่ต้องไปเดินหาซื้อหนังสือที่บางเล่มมีจำนวนจำกัดและหาซื้อยาก และในปัจจุบันอาจารย์หลายท่านไม่มีเอกสารแจกอีกแล้ว ให้นักศึกษาไปปริ้นหรือทำสำเนากันเอาเอง ซึ่ง iPad ก็ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการถ่ายเอกสารขาวดำหรือสี ที่ตกเดือนหลายพันบาท
นอกจากแอพพลิเคชั่น Notability แล้วน้องพีรกานต์ ยังชื่นชอบกับการใช้แอพ Key Note ในการวาดรูปภาพกราฟิก แล้วบันทึกภาพหน้าจอ iPad มาเป็นคลิปวิดีโอแล้วนำมาตัดต่อทำเป็นพรีเซ็นเทชั่นได้อย่างน่าทึ่งมากๆราวกับใช้โปรแกรมตัดต่อบนคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว และอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นมีชื่อว่า Blackboard ที่อาจาร์จทั้งหมดในคณะเลือกใช้ในการเช็กชื่อ รวมถึงใช้ทำการบ้านส่งอาจารย์ แถมยังสามารถทบทวนเนื้อหาย้อนหลังสมัยเรียนปีแรกได้ทั้งเนื้อหาหรือวิดีโอได้ทั้งหมดอีกด้วย
สุดท้ายโดยน้องพีรกานต์บอกว่าเพื่อนๆในห้องเรียนเริ่มหันมาใช้ iPad กันมากขึ้นโดยเฉพาะหลังจากที่ Apple ได้วางจำหน่ายรุ่นหน้าหน้าจอ 9.7 นิ้วปี 2018 ที่ผ่านมามีราคาถูกและรองรับ Apple Pencil อีกด้วย ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
ถัดมาเรามาดูมุมมองของน้องชณัญญา สุขสวัสดิ์ หรือน้องมิ้นต์ นักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 4 ว่าที่คุณหมอที่จะมาแชร์ประสบการณ์การใช้งาน iPad มากว่า 2 ปีในการเรียนแล้วว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง ซึ่งน้องชณัญญายืนยันว่าในนาทีนี้การที่ไม่มี iPad ไว้ใช้งานขณะเรียนนั้นจะไม่ประสิทธิภาพอย่างมาก อย่างการจดประวัติคนไข้จากที่แบบเดิมๆที่มักจะจดบนกระดาษจะพบปัญหา ตัวเอกสารกระจัดกระจาย หรือพับเก็บไว้จนหาไม่เจอ การจดหรือเก็บข้อมูลไว้บน iPad จะเป็นรวมไว้ที่เดียวซึ่งเป็นระเบียบมากกว่า นอกจากนี้ iPad ยังช่วยในการแก้ปัญหาเรื่องการการดู เอกสารสไลด์ที่เป็นกระดาษนอกจะไม่มีสีแล้ว ยังไม่สามารถขยายหรือซูมเข้าไปดูรายละเอียดได้ การเปิดไฟล์ดูบน iPad นอกจากจะเป็นสีแล้ว ยังสามารถย่อขยายได้ตามใจ และยังอัดเสียงได้อีกด้วย
โดยน้องชณัญญาได้เลือกใช้แอพพลิเคชั่นที่ใช้บ่อยๆอยู่เป็นประจำก็คือแอพ GoodNote และ Notability ในการจดรวมถึงแชร์ไฟล์ให้เพื่อนๆผ่านทาง Air Drop ที่สามารถส่งไฟล์ขนาดใมหญ่ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน สำหรับแอพลิเคชั่นที่ในห้องเรียนก็จะมีทั้งแอพพลิเคชั่นจากทางคณะอาทิ TU Moodle ที่จะแสดงตารางเรียน มีการอัพเดทอะไรก็ดูได้ในนี้ และ MEDTU แอพพลิเคชั่นใช้ในส่งข้อมูลคนไข้ และติดต่อหาอาจารย์
นอกจากนี้ยังได้แนะนำแอพพลิเคชั่น ESS Anatomy 5 ในศึกษาอนาโตมี่ที่แสดงข้อมูลได้ดีกว่าข้อมูลรูปภาพบนหนังสือทั่วไป สามารถช่วยให้เห็นรายละเอียดได้ครบทุกมุม แอพ eGFR คำนวนค่าไต, UptoDate แอพอ่านบทความของหมอ ,MDCalc แอพคำนวนค่าต่างๆของคนไข้ เพื่อนำไปสู่การรักษา และแอพ EMS1669 ที่แจ้งโลเคชั่นของผู้ป่วย
แต่ที่น่าสนใจและหลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน นั่นก็คือน้องชณัญญาบอกว่าในการตรวจรักษากระดาษอาจมีเชื่อโรคติดออกมาด้วย ขณะที่ iPad สามารถฆ่าเชื่อได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องจดลงกระดาษก็ใช้วิธีถ่ายภาพสแกนเก็บไว้ในรูปแบบดิจิตอลได้ สุดท้ายน้องชณัญญาเรื่องแบตเตอรี่ของ iPad นั้นสามารถใช้งานต่อเนืองได้ยาวนาน
ได้พูดคุยกับน้องศึกษาผู้หญิงไป 2 คนแล้วมาดูมุมมองของนักศึกษาชายกันบ้างโดยทีมงาน @flashfly ได้พุดคุยกับน้องสิรดนัย ชาวเมืองบน หรือน้องโจเซฟ นักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ ปี 6 ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ใช้ iPad เป็นเหมือนเพื่อนสนิทต้องพกติดตัวไปทุกที่ชื่นชอบที่ตัวเครื่องใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
น้องสิรดนัยกล่าวว่าใช้แอพพลิเคชั่น Notability ในการจดบันทึกข้อมูลต่างๆ ใช้ฟีเจอร์แบ่ง 2 หน้าจอบน iPad ในการอ่านและจดโน็ตไปด้วย ใช้แอพ UptoDate อ่านบทความของหมอชื่อดังในต่างประเทศ พร้อมไกด์ไลน์แนวทางในการรักษา แอพ Complete Anatomy บน iPad ที่เป็นแอพดูกล้ามเนื้อสามารถตัดหรือผ่าเข้าดูข้างในได้อีกด้วย การเก็บข้อมูลต่างๆก็ไว้บน iCloud ผ่านแอพไฟล์ในเครื่องสามารถย้ายไฟล์ได้อย่างอิสระ ใช้แอพสแกนเนอร์ในการเก็บเอกสาร ได้ไฟล์ที่คมชัด
นอกจากแอพพลิเคชั่นต่างๆที่นักศึกษาแพทย์จำเป็นต้องศึกษาแล้วน้องสิรดนัยยังชื่อชอบในการใช้ iTunes U ในศึกษาข้อมูลอะไรใหม่เพิ่มอยู่เสมอ อาทิการเขียนโปรแกรม การตัดต่อไฟล์วิดิโอด้วยโปรแกรม Final Cut pro บนเครื่อง Mac รวมไปได้ศึกษาใช้แอพ Luma ในการตัดต่อวิดีโอบน iPad ด้วยตัวเองได้อย่างคล่องแคล่วแล้วหรือแม้แต่การจัดการหน้ากระดาษทำภาพกราฟิกต่างๆน้องสิรดนัย ก็ทำบน iPad ทั้งหมดด้วยแอพ Adobe comp ได้แบบไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว
มาถึงคนสุดท้ายเป็นหนุ่มอารมณ์ดีชื่อว่าน้องศุภสันติ์ ดีมาก หรือน้องปอ นักศึกษาปี 2 คณะวิทยาศาตร์ สาขาคณิตศาตร์และสถิติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ชื่นชอบใน iPad Pro ขนาด 12.9 นิ้วเป็นพิเศษ เพราะต้องใช้พื้นที่ในการวาดกราฟ รวมถึงการเปิดใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอสามารถพิมพ์และจดหรือวาดรูปลงไปได้พร้อมๆกัน ซึ่งการใช้ iPad นั้นก็ช่วยให้ไม่ต้องใช้กระดาษกราฟอีกต่อไป ใช้แอพพลิเคชั่น Quick Graph ช่วยในการคำนวณ หรือถ้าอาจารย์มีไฟล์สไลด์อย่าง Power Point มาให้ก็จะไปดาวน์โหลดมาใส่ในแอพ Good Note เพื่อเปิดดู
รวมถึงใช้ iPad ในการอัดเสียงอาจารย์ การส่งไฟล์ขนาดใหญ่ให้เพื่อนก็ใช้ผ่าน Air Drop ซึ่งทำได้สะดวกมากและด้วยการที่เรียน สาขาคณิตศาตร์และสถิติ ทำให้น้องศุภสันติ์ชื่นชอบในการเล่นหุ้น ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ของ iPad Pro ก็ทำให้สามารถเปิดดูหุ้นได้พร้อมๆกับการทำงานไปด้วยได้อย่างสบายๆ
และนี่คือ 4 ตัวอย่างที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของเหล่าน้องๆนิสิตนักศึกษา คนรุ่นใหม่ที่ได้เลือกนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในด้านการศึกษาช่วยให้การเรียนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องพกตำราหนังสือเล่มหนาๆติดตัวให้ผลุงผลังอีกให้เมื่อยอีกต่อไป ซึ่งในบางจังหวะยังสามารถใช้ iPad ทำการบ้าน หรือรายงานส่งอาจารย์ รวมไปถึงการหาข้อมูลค้นคว้าวิจัยต่างๆได้ทันทีเสร็จในเครื่องเดียวโดยไม่ต้องเพิ่งพาคอมพิวเตอร์แบบเดิมอีกต่อไป
บทความโดย – www.flashfly.net