Apple อยู่ในระหว่างพัฒนาระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่สำหรับอุปกรณ์ iOS ซึ่งความจริงก็มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่ในเวอร์ชั่นปัจจุบัน หรือ iOS 12 มีข่าวว่า Apple ได้ระงับการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่าง เพื่อมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น และฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านั้น ควรจะได้รับการแนะนำเมื่อ iOS 13 เดินทางมาถึง แต่จะมีอะไรบ้าง? เราได้รวบรวมมาให้แล้ว
Dark Mode
หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด Dark Mode ถูกนำมาใช้แล้วกับ macOS Mojave และคาดว่าจะถูกนำมาใช้กับ iOS 13 ด้วย โดยเป็นโหมดการใช้งานที่จะเปลี่ยนการแสดงผลของ User Interface ให้เป็นธีมสีเข้ม เหมาะสำหรับใช้งานในเวลากลางคืน และเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้จอแสดงผล OLED เพราะจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปในตัว
สมาร์ทโฟนจาก Samsung ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ iPhone เริ่มได้รับ One UI ที่มาพร้อมธีมสีเข้มแล้ว ขณะที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ก็พบว่า Dark Mode จะมาถึง iOS 13 อย่างแน่นอน
คอนเซ็ปต์ Dark Mode กับ iPhone 11
หน้าจอโฮมใหม่
หน้าจอโฮมของ iOS เวอร์ชั่นปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อยนับตั้งแต่ปี 2007 แต่ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็เพราะว่าของเดิมนั้นให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีอยู่แล้ว ตามความเชื่อของ Apple ทำให้ผู้ใช้งานคุ้นเคยกับหน้าตาเดิมๆ มานานถึง 12 ปี
อย่างไรก็ตาม สำหรับ iOS 13 มีข่าวลือว่า Apple จะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด มีบางคนคาดว่าอาจจะมี App Drawer แบบ Android แต่ก็เป็นเรื่องยากที่ Apple จะทำอะไรแบบนั้น และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Apple มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงบน iPad เป็นหลัก
แถบแสดงการควบคุมระดับเสียงใหม่
เมื่อมีการปรับระดับเสียงบนอุปกรณ์ iOS เวอร์ชั่นปัจจุบัน ผู้ใช้งานบางคนอาจไม่ชอบใจ UI ของแถบแสดงการควบคุมระดับเสียง ที่มีขนาดใหญ่และจะปรากฎขึ้นมากลางจอแสดงผล แต่ใน iOS 13 อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดย Apple จะออกแบบแถบแสดงการควบคุมระดับเสียงใหม่ ให้เป็นมิตรกับสายตาผู้ใช้งานมากขึ้น และนักพัฒนาซอฟต์แวร์เชื่อว่า แถบแสดงการควบคุมระดับเสียงใหม่ จะถูกย้ายไปไว้ที่ด้านข้าง ใกล้กับปุ่มปรับระดับเสียง
การปรับปรุงของ iPad ใน iOS 13
Apple มีแนวโน้มที่จะปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน iPad ให้ดียิ่งขึ้น และแสดงออกมาอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับการใช้งาน iPad ให้เทียบเท่าคอมพิวเตอร์พกพา ทั้งฟีเจอร์ใช้งานแบบหลายหน้าต่างภายในแอพเดียวกัน และปรับปรุงระบบการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน รวมถึงการออกแบบหน้าจอโฮมใหม่ ก็คาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากที่สุดกับ iPad
นอกจากนี้ยังรวมถึงประสบกาณ์การใช้งานร่วมกับ Apple Pencil หลังจาก Apple เปิดตัว iPad Air กับ iPad mini รุ่นใหม่ ก็ทำให้ iPad ทุกรุ่นบนชั้นวางสินค้าของ Apple ล้วนรองรับการใช้งานกับ Apple Pencil หมดทุกรุ่น
การทำงานข้ามแพลตฟอร์มระหว่าง macOS และ iOS 13
คุณสมบัตินี้ถูกพูดถึงมานานแล้วก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iOS 12 ในปีที่แล้ว และกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้งก่อนที่ Apple จะเปิดตัว iOS 13 โดยการอนุญาตให้นักพัฒนาสร้างแอพพลิเคชั่นที่สามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ระหว่าง macOS และ iOS 13 ซึ่งจะช่วยให้งานของนักพัฒนาง่ายขึ้น และผู้ใช้งาน macOS จะได้รับการอัพเดทซอฟต์แวร์ไวขึ้น ในทางกลับกัน ผู้ใช้งาน iOS 13 ก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น
ความพร้อมของ iOS 13
คาดว่าเราจะได้เห็น Apple แนะนำระบบปฏิบัติการ iOS 13 อย่างทางการที่งานประชุมนักพัฒนา Worldwide Developers Conference (WWDC) 2019 วันที่ 3 มิถุนายนนี้ ก่อนจะปล่อยเวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนาออกมาหลังจากจบงานดังกล่าว และจะปล่อยเวอร์ชั่น Beta สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปในเดือนถัดมา และคาดว่าผู้ใช้งานทั่วไป จะได้รับการอัพเดท iOS 13 ในเดือนกันยายน 2019 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นถัดไป
อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 13
หลังจาก Apple ปล่อย iOS 12 ออกมาในปีที่แล้ว อุปกรณ์ iOS ที่ทำงานบน iOS 11 สามารถอัพเกรดมาใช้ iOS 12 ได้หมดทุกรุ่น แต่สำหรับ iOS 13 เจ้าของอุปกรณ์รุ่นเก่าอาจไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฟีเจอร์ใหม่จาก iOS 12 มายัง iOS 13 มีมากกว่าการปลี่ยนถ่ายจาก iOS 11 มาเป็น iOS 12
เว็บไซต์ Phonearena คาดว่า iPhone ที่ออกมาในปี 2016 และรุ่นเก่ากว่านั้น จะไม่รองรับ iOS 13 นั่นหมายถึง iPhone ที่มีรายชื่อต่อไปนี้ จะไม่ได้รับการอัพเดทมาใช้ iOS 13 ซึ่งประกอบไปด้วย iPhone 5s, iPhone SE, iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ทางด้าน iPad mini 2, iPad mini 3, iPad mini 4, iPad Air (รุ่นแรก) และ iPad Air 2 ก็จะหยุดอยู่ที่ iOS 12
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ซึ่งต้องรอทาง Apple ประกาศออกมาที่งาน WWDC 2019 ว่าจะมีอุปกรณ์รุ่นใดบ้างที่จะไม่ได้ไปต่อหรือหยุดอยู่ที่ iOS เวอร์ชั่นเก่า
ที่มา – Phonearena
https://www.flashfly.net/wp/245423