iFixit ได้ออกมาเปิดเผยความแตกต่างของคอนโซล Nintendo Switch ระหว่างเวอร์ชั่นแรกที่เปิดตัวสู่ตลาดในเดือนมีนาคม 2017 กับเวอร์ชั่นล่าสุดที่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2019 โดยที่ทั้ง 2 เวอร์ชั่น แทบจะมองไม่เห็นถึงความแตกต่าง
ความจริงแล้วเราสามารถแยกความแตกต่างระหว่าง Nintendo Switch เวอร์ชั่น 2017 กับ 2019 ได้โดยที่ไม่ต้องแกะกล่อง เพราะรูปภาพที่สกรีนบนกล่องมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน กล่องของ Nintendo Switch เวอร์ชั่น 2019 จะใช้พื้นหลังสีแดง และไม่มีมือยื่นมาหยิบ Switch ออกจาก Dock
Serial Number บนกล่องก็ช่วยให้เราแยกความแตกต่างได้ ซึ่งเวอร์ชั่นใหม่จะเริ่มต้นด้วยตัวอักษร XKW
อีกจุดที่แตกต่างกัน จะต้องแกะกล่องออกมาก่อน เพื่อมองไปที่ด้านหลังของคอนโซล ในเวอร์ชั่นใหม่จะระบุรหัสรุ่น HAC-001(-01) แต่เวอร์ชั่นเก่าจะไม่มี (-01) ต่อท้าย
การออกแบบภายนอกของ Nintendo Switch เวอร์ชั่น 2017 กับ 2019 ไม่มีความแตกต่างกัน แต่ iFixit พบว่าภายในนั้นมีการใช้ฮาร์ดแวร์บางชิ้นส่วนที่ไม่เหมือนกัน
Nintendo บอกว่า Switch เวอร์ชั่น 2019 ได้รับการปรับปรุงแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 4.5 – 9 ชั่วโมง ขณะที่ Switch เวอร์ชั่น 2017 ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ที่ 2.5 – 6.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่น
แผงวงจรหลักของ Nintendo Switch เวอร์ชั่น 2019 (ล่าง) กับ 2017 (บน)
iFixit เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ Nintendo Switch เวอร์ชั่นใหม่ให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น ไม่ได้มาจากการเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ เพราะใช้แบตเตอรี่ตัวเดียวกับเวอร์ชั่นเก่า แต่มีสาเหตุมาจากการปรับปรุงชิปประมวลผล ถึงแม้พื้นฐานยังเป็นชิป Nvidia Tegra X1 แต่เชื่อว่าได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 16 นาโนเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า 20 นาโนเมตร ที่พบในรุ่นเก่า อีกทั้งชิปความจำก็ยังเป็นรุ่นใหม่ LPDDR4X ที่ประหยัดพลังงานมากกว่าเวอร์ชั่นเก่าที่เป็นแบบ LPDDR4
สำหรับชิ้นส่วนอื่นๆ ดูเหมือนยังใช้ของเดิมเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชิป Bluetooth และ WiFi จนถึงพอร์ต USB-C รวมถึงคอนโทรลเลอร์ Joy-Con ทั้ง 2 ข้าง ที่มีปัญหา Joy-Con Drift
ที่มา – iFixit
https://www.flashfly.net/wp/263839