Wednesday, May 28, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

สรุปมาให้แล้ว!! ความแตกต่างระหว่าง iPhone 11 กับ iPhone XR ทั้งสเปก และราคา

Content Team by Content Team
September 11, 2019
in iPhone, NEWS
0
SHARES
481
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนชื่อใหม่ แต่ชัดเจนว่า iPhone 11 ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก iPhone XR ในปีที่แล้ว โดยเป็น iPhone รุ่นใหม่ในปี 2019 ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุด และยังให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับรุ่นพรีเมี่ยมอย่าง iPhone 11 Pro

อย่างไรก็ตาม Apple ยังคงทำตลาด iPhone XR ต่อไป โดยมีการปรับราคาลงมา ขณะที่ iPhone 11 ก็มีราคาเปิดตัวที่ถูกลงกว่าเดิม เมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวของ iPhone XR ในปีที่แล้ว แต่ทั้ง 2 รุ่นจะมีความเหมือนหรือแตกต่างกันขนาดไหน เราได้หาคำตอบมาให้แล้ว

จอแสดงผล

iPhone 11 และ iPhone XR มาพร้อมจอแสดงผล Liquid Retina HD (LCD) ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 326ppi และมาพร้อมระบบตอบสนองการสัมผัสแบบ Haptic Touch

สรุปแล้วจอแสดงผลของทั้งคู่ไม่ได้แตกต่างกัน ซึ่งนอกจากสเปกข้างต้น จอแสดงผลของทั้ง 2 รุ่น ยังมีอัตราส่วนคอนทราสต์ 1,400:1 รองรับการแสดงผลแบบ True Tone ให้ขอบเขตสีกว้าง (P3) และให้ความสว่างสูงสุด 625 นิต

การออกแบบ

iPhone 11 และ iPhone XR ใช้ดีไซน์แบบแซนวิช ตรงกลางเป็นเฟรมอะลูมิเนียมประกบทั้ง 2 ด้านด้วยแผงกระจก โดยมีขนาดบอดี้ 150.9 x 75.7 x 8.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 194 กรัม

ถึงแม้ทั้งคู่จะผลิตด้วยวัสดุเดียวกัน มีขนาดและน้ำหนักเท่ากัน แต่ iPhone 11 ได้รับการออกแบบมาให้ต้านทานน้ำได้ในระดับ IP68 (ความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ขณะที่ iPhone XR ต้านทานน้ำในระดับ IP67 (ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)

สีสันก็แตกต่างกันด้วย iPhone 11 มีให้เลือก 6 สี คือ สีม่วง, สีเขียว, สีเหลือง, สีดำ, สีขาว และ สีแดง PRODUCT(RED) ส่วน iPhone XR มีให้เลือก 6 สีเช่นกัน ได้แก่ สีส้มคอรัล, สีฟ้า, สีเหลือง, สีดำ, สีขาว และ สีแดง PRODUCT(RED) โดยสีสันของ iPhone 11 จะให้เฉดสีอ่อนกว่า iPhone XR

ชิปประมวลผล

iPhone 11 ได้รับชิปรุ่นใหม่ A13 Bionic พร้อม Neural Engine รุ่นที่ 3 ขณะที่ iPhone XR ใช้ชิปในปีที่แล้ว A12 Bionic พร้อม Neural Engine รุ่นที่ 2

ชิป A13 Bionic มีประสิทธิภาพด้าน CPU ดีกว่า 20% ด้าน GPU ดีกว่า 30% และประหยัดพลังงานสูงสุด 40% เมื่อเทียบกับชิป A12 Bionic อีกทั้งระบบ Machine Learning Accelerators ยังทำงานได้มากกว่า 1 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที

ความจุในตัว

iPhone 11 มีให้เลือก 3 รุ่น คือ 64GB, 128GB และ 256GB ซึ่งเหมือนกับ iPhone XR ในช่วงเปิดตัวครั้งแรก แต่ปัจจุบัน iPhone XR มีให้เลือก 2 รุ่น คือ 64GB กับ 128GB ไม่มีรุ่น 256GB ให้เลือกอีกต่อไปแล้ว (ในระบบออนไลน์ของ Apple Store)

กล้องหลัง

ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง iPhone 11 กับ iPhone XR อยู่ที่กล้องหลัง โดยทั้งคู่มีกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS แต่ iPhone 11 มีกล้องตัวที่ 2 เสริมเข้ามา เป็นกล้องมุมกว้างพิเศษ 12 ล้านพิกเซล รองรับออปติคอลซูม 2 เท่า

ด้านซอฟต์แวร์กล้องของ iPhone 11 ก็ได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างมาก มาพร้อมโหมดกลางคืน, เอฟเฟ็กต์ในโหมด Portrait Lighting มีให้เลือก 6 แบบ (แสงไฟธรรมชาติ, แสงไฟสตูดิโอ, แสงไฟคอนทัวร์, แสงไฟเวที, แสงไฟเวทีขาวดำ, แสงไฟขาวดำไฮคีย์) และยังปรับปรุง Smart HDR ให้ดีกว่ารุ่นก่อน

สำหรับการถ่ายวีดีโอ iPhone 11 ได้รับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Audio Zoom ช่วยขยายเสียงของสิ่งที่ต้องการเก็บเสียงเป็นพิเศษ เมื่อซูมกล้องเข้าไป และฟีเจอร์ QuickTake ช่วยให้ถ่ายวีดีโอได้ทันที เมื่ออยู่ในโหมดรูปภาพ เพียงกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้

กล้องหน้า

iPhone 11 มาพร้อมกล้อง TrueDepth 12 ล้านพิกเซล ขณะที่ iPhone XR ได้รับกล้อง TrueDepth 7 ล้านพิกเซล และด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่กว่า ทำให้ iPhone 11 สามารถถ่ายวีดีโอแบบมีระบบกันสั่นได้สูงสุด 4K (iPhone XR ทำได้สูงสุด 1080p)

นอกจากนี้ iPhone 11 ยังมี Smart HDR รุ่นใหม่กว่า จึงสามารถเก็บรายละเอียดและให้ช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น และมีฟีเจอร์ใหม่ Slofie สำหรับถ่ายเซลฟี่แบบสโลว์โมชั่น ที่ 120 เฟรมต่อวินาที

การเชื่อมต่อ

iPhone 11 รองรับ LTE ระดับ Gigabit ซึ่งมีความเร็วสูงสุด 1.2Gbps ซึ่งมีความเร็วมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับ LTE Advanced ที่พบใน iPhone XR ขณะที่การเชื่อมต่อ Wi‑Fi ก็สนับสนุนมาตรฐานใหม่ล่าสุด Wi‑Fi 6 หรือ 802.11ax

iPhone 11 ยังมีชิป U1 ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยี Ultra Wideband นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในสมาร์ทโฟน เพื่อการรับรู้ถึงระยะการอ้างอิงพื้นที่ โดยจะมีประโยชน์เมื่อ Apple Tags ได้รับการเปิดตัวในปลายปีนี้

ระบบยืนยันตัวตน

iPhone 11 ยังระบบกล้อง TrueDepth สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคด้วยฟีเจอร์ Face ID แบบเดียวกับ iPhone XR แต่ Apple ยืนยันว่า Face ID ของ iPhone 11 ทำงานเร็วขึ้น 30% และใช้ง่ายกว่าเดิม เพราะสามารถทำงานได้ดีขึ้นจากระยะต่างๆ และทำงานได้จากหลายมุมมากขึ้นด้วย

แบตเตอรี่

Apple ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขความจุแบตเตอรี่ แต่ระบุว่า iPhone 11 ใช้งานได้นานกว่า iPhone XR สูงสุด 1 ชั่วโมง

ราคา

iPhone 11

  • 64GB ราคา 24,900 บาท
  • 128GB ราคา 26,900 บาท
  • 256GB ราคา 30,900 บาท

iPhone XR

  • 64GB ราคา 21,900 บาท
  • 128GB ราคา 23,900 บาท



Tags: iPhone 11iPhone Xr
ShareTweetShare

Related Posts

iOS 18.3 และ iPadOS 18.3 เวอร์ชัน Beta พร้อมให้นักพัฒนาทดสอบแล้ว
iPhone

Apple ปล่อย iOS 18.3 เวอร์ชันใหม่ สำหรับ iPhone 11 Series โดยเฉพาะ

February 6, 2025
เหตุผล 5 ข้อ ที่ทำให้เจ้าของ iPhone 11 ควรอัปเกรดมาใช้ iPhone 16
iPhone

เหตุผล 5 ข้อ ที่ทำให้เจ้าของ iPhone 11 ควรอัปเกรดมาใช้ iPhone 16

September 24, 2024
iStudio by copperwired หั่นราคา iPhone 15, iPhone 14, iPhone 13, iPhone 11 ถูกลงกว่าเดิม ลดลงสูงสุด 3,000 บาท พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี
iPhone

iStudio by copperwired หั่นราคา iPhone 15, iPhone 14, iPhone 13, iPhone 11 ถูกลงกว่าเดิม ลดลงสูงสุด 3,000 บาท พร้อมรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี

January 6, 2024
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

HBO เผยโฉมนักแสดงซีรีส์ Harry Potter ที่จะรับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และ รอน วีสลีย์

HBO เผยโฉมนักแสดงซีรีส์ Harry Potter ที่จะรับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และ รอน วีสลีย์

May 28, 2025
OPPO Pad SE วางจำหน่ายแล้ววันนี้! สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบพร้อมการใช้งานสุดสมาร์ท ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท!

OPPO Pad SE วางจำหน่ายแล้ววันนี้! สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบพร้อมการใช้งานสุดสมาร์ท ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท!

May 28, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');