Huawei ปฏิวัติระบบกล้องของสมาร์ทโฟนเรือธงอีกครั้ง ด้วย Huawei Mate 30 Pro ที่มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ในระบบ SuperSensing Cine Camera สามารถถ่ายภาพนิ่งและบันทึกวีดีโอในคุณภาพสูง ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ Mate 30 Pro ที่ Huawei กล้าสู้กับคู่แข่ง ถึงแม้จะต้องเปิดตัวโดยไม่มีบริการจาก Google ก็ตาม
ระบบกล้องหลัง 4 ตัว ของ Huawei Mate 30 Pro ประกอบด้วย กล้อง Cine Camera ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 + กล้อง SuperSensing Camera ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 ระบบกันสั่น OIS + กล้อง Telephoto Camera รูรับแสง f/2.4 ระบบกันสั่น OIS + กล้อง 3D Depth Sensing Camera
กล้อง Cine Camera ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.54 นิ้ว รองรับความไวแสงถึง ISO 512002 เพื่อบันทึกวิดีโอในช่วงไดนามิกกว้าง ที่ความละเอียด 4K 60 เฟรมต่อวินาที รวมไปถึง Ultra Slow-Motion 7680 เฟรมต่อวินาที และยังสนับสนุนการบันทึกวีดีโอ 4K ในโหมด Time-lapse Ultra-wide
กล้อง SuperSensing Camera มีขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.7 นิ้ว สามารถเปิดรับแสงได้มากขึ้น 40% รองรับความไวแสงถึง ISO 409600 ช่วยให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยมีความสว่างสดใสกว่า แม้ถ่ายด้วยมุมกว้างพิเศษ
กล้อง Telephoto Camera สนับสนุนการซูมดิจิตอล 30 เท่า ซูมแบบไฮบริด 5 เท่า และ ซูมออปติคอล 3 เท่า
กล้อง 3D Depth Sensing Camera สามารถวัดความลึกของวัตถุต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ด้วย ISP ที่ได้รับการปรับปรุงในส่วนของเอฟเฟกต์โบเก้ทั้งในด้านการเคลื่อนไหวและแบบเจาะลึก ทำให้สามารถนำไปสร้างความโดดเด่นให้กับการถ่ายวิดีโอบุคคลได้แบบเรียลไทม์
กล้องหลังของ Huawei Mate 30 Pro ยังมาพร้อมระบบลดภาพสั่นไหว Optical Image Stabilisation (OIS) และ AI Stabilisation (AIS) ช่วยลดปัญหาภาพเบลอให้กับภาพถ่าย และทำให้ภาพเคลื่อนไหวของวีดีโอราบรื่นขึ้น
Huawei Mate 30 Pro ยังมาพร้อมกล้องเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 วางคู่กับกล้อง 3D Depth Sensing Camera ช่วยให้ถ่ายภาพในโหมด Portrait ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงใช้ปลดล็อคสมาร์ทโฟนได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย เพราะสามารถสแกนใบหน้าได้แบบ 3 มิติ
Capture: Every. Single. Moment…with the #HuaweiMate30 Pro.
With cinematic timelapse and 12-hour recording.#RethinkPossibilities pic.twitter.com/9Qx7a2sgsc
— Huawei Mobile (@HuaweiMobile) September 19, 2019
Fire up your imagination with the #HuaweiMate30 Pro super slow-mo capabilities.
Just look how slow we can go…up to 7680 frames per second!#RethinkPossibilities pic.twitter.com/yq3TbiXr8K
— Huawei Mobile (@HuaweiMobile) September 19, 2019
ที่มา – HuaweiCentral
https://www.flashfly.net/wp/268489