David Rahimi เจ้าของช่อง PhoneBuff ได้นำ iPhone 11 Pro Max มาทดสอบ Drop Test พร้อมเปรียบเทียบกับ Galaxy Note 10+ เพื่อให้เห็นว่าระหว่างพรีเมี่ยมสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของ Apple กับ Samsung รุ่นไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน โดยใช้เครื่องจักรกลมาช่วย Drop Test เพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด
การทดสอบครั้งแรก เป็นการปล่อยด้านหลังให้ตกลงมาสู่พื้นก่อน ที่ความสูงราว 1 เมตร โดยมีแผ่นคอนกรีตรองรับแรงกระแทก และผลที่ได้คือ แผงกระจกด้านหลังของ iPhone 11 Pro Max แตกร้าวมากกว่า Galaxy Note 10+ ถึงแม้ Apple จะบอกว่า “ใช้กระจกที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง”
การทดสอบครั้งที่สอง PhoneBuff ได้ปล่อยให้มุมเครื่องด้านล่างตกลงมาสู่พื้นก่อน ที่ความสูงระดับเดียวกับครั้งแรก ครั้งนี้เป็น Galaxy Note 10+ ที่มองเห็นริ้วรอยความเสียหายมากกว่า เนื่องจากใช้กรอบอลูมิเนียม ขณะที่ iPhone 11 Pro Max ใช้กรอบสแตนเลสสตีล ที่มีคุณสมบัติแข็งแรงกว่า
การทดสอบครั้งที่สาม เป็นการปล่อยด้านหน้าให้ตกลงมาสู่พื้นก่อน ที่ความสูงระดับเดียวกัน และเป็นอีกครั้งที่ iPhone 11 Pro Max มองเห็นรอยแตกร้าวมากกว่า Galaxy Note 10+
PhoneBuff ยังนำ Galaxy Note 10+ มาทดสอบ Drop Test อีก 10 ครั้ง แต่การทำงานโดยรวมยังใช้งานได้ ทั้งจอแสดงผล กล้องหลัง และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังอยู่ใต้จอแสดงผล ขณะที่ iPhone 11 Pro Max ก็ถูกนำมา Drop Test ซ้ำๆ เช่นกัน แต่เมื่อมาถึงครั้งที่ 7 เริ่มเห็นว่าด้านหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่จอแสดงผล Face ID กล้องหลัง ยังทำงานได้ พอเมื่อมาถึงครั้งที่ 9 กล้องหลังพบปัญหาจอดำแล้ว แต่ David Rahimi ได้บอกว่า มีความทนทานกว่า iPhone XS Max และเมื่อมาถึงครั้งที่ 10 แผงกระจกด้านหลังก็เริ่มหลุดร่อนออกมาบางส่วน แต่โดยรวมยังตอบสนองการทำงาน นั่นหมายถึงในทางเทคนิค iPhone 11 Pro Max อยู่รอดจากการ Drop Test อีก 10 ครั้ง
สรุปผลการทดสอบ Drop Test ของ PhoneBuff ได้ยกให้ Galaxy Note 10+ เป็นผู้ชนะจากคะแนนรวม 39 เต็ม 40 ส่วน iPhone 11 Pro Max ได้รับ 35 คะแนน