นับเป็นครั้งแรกสำหรับการมหกรรมโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตระดับประเทศที่จะจัดขึ้นที่ไบเทค บางนา บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม มาดูกันว่าจะมีโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตรุ่นไหนที่จะมาจำหน่ายในงาน ถ้าหากไม่จำหน่ายก็อาจจะมีให้จอง หรือให้ได้ลองเล่นกัน มีรุ่นไหนบ้างนั้น เรามาดูกัน
Samsung Galaxy S III
ถือ เป็นรุ่นท็อปสุดในตระกูลสมาร์ทโฟน Galaxy ถึงแม้ว่าจะวางจำหน่ายไปแล้วเมื่อต้นเดือน แต่ภายในงานรับรองได้เลยว่าต้องมีโปรโมชั่นเด็ดอย่างแน่นอน ส่วนความสามารถ สเป็คเครื่องคงไม่ต้องพูดมาก จุดเด่นของรุ่นนี้ก็อยู่ที่หน่วยประมวลผลแบบ Quad-core ความเร็ว 1.4 GHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice cream sandwich ใหม่ล่าสุด จอภาพ HD Super AMOLED ขนาด 4.8 นิ้วที่ละเอียดกว่าเดิม มีระบบ Smart stay ที่จะตรวจจับดวงตา หากมองที่หน้าจอ เครื่องก็จะไม่ปิดหน้าจอ แต่เมื่อละสายตาไป จอภาพก็จะดับอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอื่นที่ออกแบบมาให้เราใช้งานได้ง่ายขึ้น มีมาจำหน่ายทั้งสีขาว Marble white และ สีน้ำเงิน Pebble blue ตามรูปข้างบน รายละเอียดลองพลิกไปอ่านที่หน้ารีวิวได้เลย
Samsung Galaxy Note 10.1
หลาย คนใช้ Galaxy Note บนหน้าจอ 5 นิ้วแล้วไม่สะใจ จะขีดๆ เขียนๆ หรือจะวาดรูปก็ไม่ถนัด ทาง Samsung คงเล็งเห็นข้อจำกัดในเรื่องนี้จึงพัฒนา Galaxy Note บนหน้าจอ 10.1 นิ้ว โดยใช้ร่วมกับปากกา S Pen ที่ถือว่ายังไม่มีใครทัดเทียมในเรื่องนี้ โดยอัพเกรดให้มีความเร็วสูงขึ้นเป็น 1.4 GHz แต่ยังคงเป็น Dual-core ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice cream sandwich หน่วยความจำภายใน 16, 32 หรือ 64 GB แต่คาดว่าคงจะมาไทยเป็นรุ่น 16 GB เช่นเคย รุ่นนี้คาดว่าจะมาโชว์ตัวจริงภายในงาน แต่หากโชคดีอาจจะมีให้จอง หรือวางจำหน่ายเลยก็เป็นได้ งานนี้ต้องรอลุ้น
Samsung Galaxy Beam
จากที่เปิดตัวในงาน Mobile World Congress 2012 ไปแล้วก็เตรียมที่จะวางจำหน่ายในบ้านเรา จุดเด่นของรุ่นนี้คงเป็นเรื่องของโปรเจ็คเตอร์ที่สามารถฉายภาพไปยังกำแพง หรือฉากสีขาวเพื่อนำเสนองาน ตัวเครื่องใช้หน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz แบบ Dual-core ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.6 มีกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล มีหน่วยความจำภายใน 8 GB เพิ่ม microSD 32 GB ใครที่ทำงานเป็นเซลล์ หรือนำเสนองานบ่อยๆ มีติดตัวไว้ใช้งาน รับรองว่าสะดวกแน่นอน ส่วนจะมาทันขายในงานหรือไม่นั้น ต้องรอชม อย่างน้อยๆ ก็น่าจะมีตัวโชว์มาให้ได้สัมผัสกัน
Samsung Galaxy Tab 2
หลังจากมี Galaxy Tab ออกมาหลายต่อหลายรุ่นก็ถึงเวลาอัพเกรด Tab รุ่นแรกสุด โดยเปิดตัวเป็นชื่อ Galaxy Tab 2 อาจจะสับสนกับ Galaxy Tab 7 Plus นิดหน่อย เอาเป็นว่าสเป็คต่างกันไม่เท่าไหร่ โดยที่ Galaxy Tab 2 มีหน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมทานไอศครีมแซนวิชทันทีด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 หน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz แบบ Dual-core กล้อง 3 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้า แถมยังโทรแนบหูได้ด้วย ส่วนราคาเปิดตัวรอลุ้นในงานได้เลย
Samsung Galaxy mini 2
มาถึงรุ่นเล็กกันบ้าง Samsung Galaxy mini 2 ก็อัพเกรดจาก mini รุ่นแรก ด้วยความเร็ว 800 MHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 มีหน่วยความจำภายใน 2.7 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB สั่งงานบนจอขนาด 3.27 นิ้ว เชื่อมต่อไร้สายครบครันทั้ง 3G, Wi-Fi ส่วนกล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมฝาหลังสีสันสดใสเอาใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ เหมาะกับผู้ใช้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่ก็ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ไม่ต่างจากรุ่นท็อปก็ต้องรุ่นนี้เลย
Nokia Lumia 900
หันมาเอาดีทาง Windows Phone ก็เปิดตัวรุ่นท็อป Nokia Lumia 900 แต่ดีไซน์ และวัสดุเป็นเหมือนกับ Nokia N9 ซึ่งเปิดตัวไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 4.3 นิ้ว จอแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียดสูง ทนรอยขีดข่วน ตัวเครื่องทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนทขึ้นรูปชิ้นเดียว จึงไม่มีรอยต่อให้ระคายมือ มีกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ใช้เลนส์ Carl Ziess ถ่ายวิดีโอระดับ HD 720p หน่วยประมวลผลมีความเร็ว 1.4 GHz พร้อมตัวชิพประมวลผลภาพ 3D หน่วยความจำในตัว 16 GB คาดว่าจะมีจำหน่ายในงานเลย เพราะเปิดให้จองไปตั้งแต่ก่อน มิ.ย. แล้ว
Nokia Lumia 800
Nokia Lumia 800 เป็นรุ่นรองลงมาจาก 900 ดีไซน์ และวัสดุแทบจะเหมือนกันทั้งหมด แต่มีขนาดเล็กกว่า จอแสดงผลก็มีขนาดเล็กว่าเช่นกันคือ 3.7 นิ้วแบบ AMOLED ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7.5 หน่วยประมวลผลความเร็ว 1.4 GHz หน่วยความจำภายใน 16 GB เพิ่ม microSD ไม่ได้ ส่วนกล้องดิจิตอลก็มีมาให้ที่ 8 ล้านพิกเซล เลนส์ Carl Zeiss ถ่ายวิดีโอแบบ HD 720p โดยรวมแล้วสเป็คจะเหมือนกับ Nokia Lumia 900 แต่ลดขนาดลงมาเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
Nokia 808 PureView
เป็นที่ฮือฮาพอสมควรเมื่อ Nokia เปิดตัวโทรศัพท์มือถือพร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 41 ล้านพิกเซล สามารถซูมภาพได้ถึง 3 เท่าโดยที่ไม่ทำให้ความคมชัดลดลงเหมือนกับการซูมภาพแบบดิจิตอลของกล้อง โทรศัพท์มือถือทั่วไป เพราะมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง 41 ล้านพิกเซลนั่นเอง ส่วนค่าตั้งต้นในการถ่ายภาพจะถูกเซ็ตไว้ที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล หรือ 8 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลชแบบ Xenon และถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD 1080p สำหรับระบบปฏิบัติการของ Nokia 808 PureView ยังคงเป็น Symbian Belle แต่ถ้าหากรักการถ่ายภาพจริง เรื่อง OS คงไม่ใช่ปัญหา
HTC One X
หลังจากเปิดตัว พร้อมกับวางขายในประเทศไทยเพื่อตอบสนองความต้องการผู้ใช้ระดับ Advance ที่ต้องการของแรงใส่ตัว หลายท่านน่าจะทราบแล้วว่าจุดเด่นของรุ่นนี้คืออะไร ถ้าให้ย้ำอีกครั้งก็คงเป็นเรื่องของความแรงระดับ Quad-core ความเร็ว 1.5 GHz ซึ่งถือว่าแรงกว่า Samsung Galaxy S III 0.1 GHz ตัวเครื่องใช้วัสดุโพลีคาร์บอร์เน็ตชิ้นเดียว ไร้รอยต่อ หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว กล้อง 8 ล้านพิกเซล หน่วยความจำภายใน 32 GB แต่ไม่สามารถเพิ่มได้ ในงานนี้คงจะมีโปรโมชั่นอัดกับทาง Samsung แน่นอน โปรดคอยติดตามชม…
HTC One V
มีวางจำหน่ายไปแล้วในบ้านเราสักพักพร้อมกับ One X แต่รุ่นนี้จะเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความพอเพียง ไม่ต้องลื่นหัวแตก แค่พอใช้งานทั่วไปได้ก็พอ จึงมาพร้อม CPU ความเร็ว 1 GHz กับราคาไม่ถึงหมื่น ดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ระบบเสียง Beats Audio กล้อง 5 ล้านพิกเซล หน่วยความจำภายใน 4 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB เชื่อมต่อไร้สายครบ และรุ่นนี้ยังใช้แอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุด 4.0 Ice cream sandwich ด้วย
HTC One S
นี่ก็อีกหนึ่งตระกูล One ที่มาพร้อมแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.0 กับความแรงระดับ 1.5 GHz Dual-core เปิดให้จองพร้อมหูฟัง Beats Solo ยอดฮิต ซึ่งตัวเครื่องก็ใช้ระบบเสียง Beats Audio อยู่แล้ว HTC One S ใช้จอภาพแบบ Super AMOLED ขนาด 4.3 นิ้ว หน่วยความจำภายใน 16 GB แต่ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้ หากจะซื้อต้องคิดดีๆ ว่าพอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นก็อัพเกรดไป One X เลย ส่วนกล้องดิจิตอลก็มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ในแบบ Full HD
LG Optimus 4X
หลังจากเปิดตัว LG Optimus 2X เป็นเจ้าแรกไปแล้ว แต่มาถึง LG Optimus 4X กลับช้ากว่าเพื่อน เอาเถอะ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มา สำหรับรุ่นนี้ก็ใช้หน่วยประมวลผล 4 แกนตามชื่อรุ่น โดยมีความเร็ว 1.5 GHz เทียบเท่า HTC One X และเหนือกว่า Samsung Galaxy S III โดยใช้ชิพเซ็ต Nvidia Tegra3 หน้าจอ True HD IPS ขนาด 4.7 นิ้ว กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p ตามระเบียบ คาดว่าน่าจะมาฟาดฟันช่วยชิงส่วนแบ่งในงานแน่นอน
LG Optimus 3D Max
นี่คือตัวอัพเกรดจาก LG Optimus 3D ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว หน้าจอยังคงใช้จอภาพแบบ 3D เช่นเคย ขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว แต่ปรับขนาดให้บางลงไปอีกเหลือ 9.98 มม. พร้อมด้วยอินเตอร์เฟสแบบ 3D ในด้านการถ่ายภาพก็ยังมีกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลสำหรับการถ่ายภาพในแบบปกติ และในแบบ 3D หน่วยประมวลผลแบบ Dual core ความเร็วถึง 1.2 GHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 ตามสมัยนิยมของรุ่นใหม่ๆ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่าน 3G, Wi-Fi ระบบนำทาง GPS ใครที่อยากลองของใหม่ด้วยสุดยอดสมาร์ทโฟน 3D บอกได้เลยว่าห้ามพลาด
LG Optimus L7
รุ่นท็อปของตระกูล L สมาร์ทโฟนในระดับพรีเมี่ยม หรูหราด้วยกรอบเมทัลลิค ดีไซน์บางเฉียบ 8.8 มม. โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 ล่าสุด หน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz หน้าจอ IPS แบบสัมผัสขนาด 4.3 นิ้ว หน่วยความจำภายใน 4 GB เพิ่มได้ด้วย microSD กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED นี่ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์สวยงาม และราคาก็ไม่แพงจนเกินไป
LG Optimus L5
ถัดลงมาจาก Optimus L7 ลงมาคือ Optimus L5 บางเพียง 9.7 มม. สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่อยู่ในระดับกลาง กับซีพียูความเร็ว 800 MHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 4 นิ้ว กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล เชื่อมต่อ Wi-Fi และ 3G ครบครัน และถัดลงไปอีกคือ Optimus L3 ซึ่งวางจำหน่ายไปแล้วก่อนหน้านี้
Motorola Defy mini
รุ่นเล็กสุดในตระกูล Defy ที่สามารถกันน้ำ และกันฝุ่นได้เช่นเดียวกับรุ่นพี่ พร้อมลุยทุกสถานะการณ์ หมดกังวลเมื่อต้องลุยฝน พร้อมหน้าจอทนต่อรอยขีดข่วนขนาด 3.2 นิ้ว แต่ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.3.6 ประมวลผลด้วยซีพียูความเร็ว 600 MHz ส่วนการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่าน 3G และ Wi-Fi ครบครัน กล้องดิจิตอลความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส และไฟแฟลช LED พร้อมความสามารถในการบันทึกวิดีโอเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีกถึง 32 GB
Motorola Motoluxe
ขยับขึ้นมาอีกหน่อยกับรุ่นนี้ จอแสดงผลใหญ่ขึ้นที่ 4 นิ้ว หน่วยประมวลผลเร็วขึ้นมาอีกหน่อยที่ความเร็ว 800 MHz พร้อมด้วยชิพประมวลผลภาพ 3D แยกต่างหาก ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.7 กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส ไฟแฟลชแอลอีดี เชื่อมต่อ Wi-Fi และ 3G ครบ หน่วยความจำภายใน 1 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB ในด้านความบันเทิงก็มีทั้งเครื่องเล่นเพลง และวิทยุ FM คาดว่าเปิดตัวไม่น่าจะถึงหมื่น
Motorola RAZR MAXX
ด้วย ความบางของ Motorola RAZR ทำให้แบตเตอรี่ต้องเล็กลง บางลงตามไปด้วย ทาง Motorola จึงแก้เกมด้วยการปล่อย RAZR MAXX ที่ให้แบตเตอรี่มาถึง 3,300 mAh แต่ตัวเครื่องก็หนาตามไปด้วย สำหรับสเป็คก็ยังคงเหมือนเดิมคือใช้ซีพียู 1.2 GHz แบบ Dual-core หน่วยความจำภายใน 16 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB จอภาพแบบ Super AMOLED ขนาด 4.3 นิ้ว กล้อง 8 ล้านพิกเซล หากใช้ RAZR รุ่นแรกแล้วแบตไม่พอ ต้องเปลี่ยนมาใช้รุ่นนี้แล้วล่ะ
Sony Xperia S
เป็น อีกรุ่นที่วางจำหน่ายไปนานพอสมควรแล้ว แต่ก็มีของน้อยจนเป็นที่ต้องการในตลาดค่อนข้างสูง แต่ในงานคาดว่าจะมีมาอีกล็อตซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับสาวกค่าย Sony จุดเด่นของรุ่นนี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่องดีไซน์ที่ดูสวยแบบเรียบๆ ไม่ต้องมีอะไรมาก มีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 4.3 นิ้ว หน่วยประมวลผลแบบ Dual-core ความเร็ว 1.5 GHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 พร้อมอัพเกรดเป็น 4.0 ในอนาคต กล้องดิจิตอล 12 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอแบบ Full HD 1080p หน่วยความจำภายใน 32 GB ไม่สามารถเพิ่มได้อีก ใครที่กำลังตามหาอยู่ มางานนี้รับรองว่าได้กลับบ้านแน่นอน
Sony Xperia P
ถ้าหากคิดว่า Xperia S มีขนาดใหญ่ไป ลองดู Xperia P ที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย ด้วยหน้าจอขนาด 4 นิ้ว วัสดุเป็นอลูมิเนียมขึ้นรูปชิ้นเดียว หน่วยประมวลผลแบบ Dual-core 1 GHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 พร้อมอัพเกรดเป็นแอนดรอยด์ 4.0 ในอนาคต ส่วนกล้องดิจิตอลมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายคลิปวิดีโอความละเอียดสูง หน่วยความจำภายใน 16 GB ไม่สามารถเพิ่มได้อีก
Sony Xperia U
มา ถึงรุ่นเล็กสุด กับสีสันสดใสเอาใจวัยรุ่น กับขนาดหน้าจอเพียง 3.5 นิ้ว แต่ดีไซน์ยังคงคล้ายกับรุ่นใหญ่ ทำงานด้วยหน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz แบบ Dual-core เหมือนกับ Xperia P แกะกล่องออกมาเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 2.3 รองรับการอัพเกรดเป็น 4.0 ในอนาคตเช่นกัน ส่วนกล้องดิจิตอลก็ถูกลดลงมาเหลือ 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียด HD หน่วยความจำมีมาให้เพียง 4 GB และไม่สามารถเพิ่มได้อีก หากไม่เก็บคลิปวิดีโอไว้ดูในเครื่องก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
Sony Xperia Sola
มา ถึงรุ่นล่าสุด กับ Xperia Sola กับความสามารถพิเศษที่สามารถรับรู้ความเคลื่อนไหวของนิ้วบนหน้าจอ ถึงแม้ว่าจะยังไม่กดก็ตาม เสมือนเป็นการใช้นิ้วลอยบนหน้าจอเพื่อเป็นการเลือก และหากต้องการสั่งงานก็แตะลงไป จึงช่วยลดการแตะสั่งงานผิดตำแหน่งได้ สำหรับสเป็คเครื่องก็ใช้หน่วยประมวลผลความเร็ว 1 GHz แบบ Dual-core กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น 2.3 รองรับการอัพเกรดเป็น 4.0 หน่วยความจำภายใน 8 GB และสามารถเพิ่มได้ด้วย microSD อีกด้วย
BlackBerry Curve 9220
แม้จะดูแผ่วๆ สำหรับค่ายนี้ แต่ก็มีโทรศัพท์มือถือออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดก็คือ BlackBerry Curve 9220 เปิดตัวในราคาประหยัดเพื่อให้เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ การสั่งงานของรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นแบบคลาสสิคคือใช้ออฟติคอลแทร็คแพด แตะแล้วลากนิ้วไปยังตำแหน่งที่ต้องการ หน้าจอขนาด 2.44 นิ้ว มีแผงปุ่มกดแบบคีย์บอร์ดเพื่อให้พิมพ์ข้อความ หรือแชทได้ง่ายๆ สำหรับรุ่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7.1 มีกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซลไว้ถ่ายภาพ อัพเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์แบบขำๆ ส่วนการเชื่อมต่อจะรองรับเพียง GPRS/EDGE ยังไม่รองรับ 3G หากต้องการใช้งาน 3G คงต้องขยับขึ้นไปเล่นรุ่นถัดไป
BlackBerry Curve 9320
นี่ ก็เป็น BlackBerry อีกหนึ่งรุ่นในราคาประหยัดต่อจาก Curve 9220 กับขนาดที่ใกล้เคียงกัน หน้าจอ 2.44 นิ้ว สั่งงานด้วยออฟติคอลแทร็คแพด และแผงปุ่มกดคีย์บอร์ดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7.1 รองรับการเชื่อมต่อผ่าน GPRS/EDGE 3G และ Wi-Fi ส่วนการใช้งานอื่นๆ ก็มีกล้อง 3.15 ล้านพิกเซล บริการ BlackBerry เต็มรูปแบบ คาดว่าจะมาทันจำหน่ายภายในงาน
OPPO Find My Guitar
หลังจากเปิดตัว OPPO Find 3 บุกตลาดตัวแรงระดับ Dual-core ไปแล้วก็ถึงเวลาบุกตลาดระดับกลาง ซึ่งก็ยังคงอยู่ในตระกูล Find คือรุ่น OPPO Find My Guitar รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 2 ซิมการ์ด ความแรง 1 GHz แบบ Single-core กับดีไซน์น่ารัก ขนาดกะทัดรัด หน้าจอสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.6 กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 3G ฟังก์ชั่นในด้านความบันเทิงครบครัน ทั้งเครื่องเล่นเพลง MP3 และวิทยุ FM มีวางจำหน่ายในงานแน่นอน
i-mobile i698i
ต้อง ยอมรับว่า i-mobile เอาจริงกับตลาดสมาร์ทโฟนมาก จะเห็นว่ามีแอนดรอยด์ออกมาวางจำหน่ายแล้วหลายต่อหลายรุ่น มาถึง i-mobile i698i กับสมาร์ทโฟนใช้งาน 2 ซิมการ์ด ขับเคลื่อนด้วยความเร็ว 650 MHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.6 สั่งงานบนหน้าจอขนาด 4.1 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล อาจจะดูไม่แรง แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ในงบประมาณสบายกระเป๋า
ทุกรุ่นที่มาแนะนำในคอลัมน์นี้เป็นรุ่นใหม่ที่เราคาดการณ์ว่าจะเปิดตัว หรือวางจำหน่ายในงาน Thailand International Mobile Show 2012 ครั้งนี้ ซึ่งบางรุ่นก็อาจจะเปิดจองรอรับเครื่องก่อนใคร สำหรับใครที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่อยู่แล้วแนะนำให้คลิกเข้าไปดูโปรโมชั่น เด็ดที่เวบไซต์ www.mobileshowth.com โดยงานจะจัดวันที่ 28 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2555 ที่ไบเทค บางนา เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS และ Sky Walk ตรงสู่สถานที่จัดงาน แล้วพบกันในงานครับ
Discussion about this post