มาติดตามความเคลื่อนไหวกับอีกหนึ่งเรื่องทางด้านเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก กับเรื่องราวของ 5G ที่ครั้งนี้ต้องบอกว่าสร้างกระแสความน่าสนใจได้อีกครั้ง เมื่อทาง AIS ซึ่งยังคงครองความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านนวัตกรรมเครือข่ายและเทคโนโลยีในประเทศไทย ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการอุตสาหกรรมโทรคมนาคม เรียกได้ว่าเป็นรายแรกและรายเดียวที่ศึกษาวิจัยและทดสอบเทคโนโลยี 5G ได้ครบทั้ง 5 ภาคทั่วประเทศ ทั้งในพื้นที่ภาคกลาง, ภาคตะวันออก, ภาคใต้, ภาคอีสาน และภาคเหนือ รวมทั้งยังเป็นการตอบรับกับเจตนารมณ์ของ กสทช. ที่สนับสนุนให้มีการทดลอง ทดสอบ 5G ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาคอีกด้วย
โดยการศึกษาวิจัยและทดสอบเทคโนโลยี 5G นั้น ทาง AIS มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการเข้าถึงเทคโนโลยี 5G อย่างทั่วถึง เพื่อทำให้ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ประชาชน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องใน 5G Ecosystem ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศได้เห็นภาพของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5G ได้มาถึง และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับภูมิภาคต่างๆได้ในอนาคตนั่นเอง และในวันนี้เราลองมาติดตาม และเกาะติดสถานการณ์ของการทดสอบ 5G จากทาง AIS กันดูดีกว่าว่าล่าสุดนั้นมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
จะเห็นได้ว่า จาก Timeline ที่ผ่านมานั้น AIS ได้เริ่มวิจัยและทดสอบ 5G อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 โดยเริ่มจากในกรุงเทพก่อนเป็นที่แรก และได้เริ่มขยายพื้นที่ออกไปในแต่ละภาคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เริ่มขยายออกไปยังภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคอีสาน และล่าสุดนั้น AIS ได้เคลื่อนทัพขึ้นไปทางภาคเหนือเหนือ โดยจับมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำการสาธิตบังคับโดรน ข้ามภูมิภาคระหว่างเชียงใหม่และกรุงเทพ ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ผ่านเครือข่าย 5G บน Live Network เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้ขนทัพนวัตกรรมสุดล้ำแห่งยุคมาให้เหล่านักศึกษา นักพัฒนา และผู้ประกอบการในภาคเหนือ ได้ร่วมเรียนรู้และสัมผัสนวัตกรรม 5G บนสภาพแวดล้อมจริง ที่บริเวณ AIS PLAYGROUND @ CMU LEARNING SPACE แหล่งรวมครีเอเตอร์รุ่นใหม่ แห่งแรกในภาคเหนืออีกด้วย
และในการทดสอบ 5G ในครั้งนี้นั้น คุณวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจสัมพันธ์และองค์กรจากทาง AIS ได้ให้ข้อมูลว่า “เพราะ 5G คือ เทคโนโลยีที่จะเข้ามาพลิกโฉมสังคมไทย และยกระดับขีดความสามารถของทุกอุตสาหกรรมไปอีกขั้น เอไอเอสในฐานะ Digital Life Service Provider จึงได้เตรียมองค์ความรู้และวางรากฐานโครงสร้างเครือข่ายหลักเตรียมรองรับเทคโนโลยี 5G ตั้งแต่โครงสร้างการทำงานของเทคโนโลยี 5G, อุปกรณ์โครงข่าย, ขยายโครงข่ายเทคโนโลยี Massive MIMO, อุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณ, ดีไวซ์, 5G SIM Card สำหรับเชื่อมต่อเพื่อทดสอบ Use Case ต่างๆ บนเครือข่าย 5G เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการได้อย่างเหมาะสม”
โดยที่ผ่านมานั้น AIS ได้รวมถึงผนึกกำลังสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วทุกภูมิภาค และเหล่าพันธมิตรชั้นนำด้านเทคโนโลยี เพื่อร่วมศึกษา ทดลอง ทดสอบเทคโนโลยี 5G อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การสนับสนุนของ กสทช. เพื่อให้ผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจต่างๆ เห็นประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างเหมาะสมในวันที่ 5G มาถึง ซึ่งทาง AIS นั้นได้เริ่มวิจัยและทดสอบ 5G เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2561 เป็นต้นมาตามลำดับดังต่อไปนี้
- ภาคกลาง : เปิดพื้นที่ AIS D.C. ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม จัดแสดงนวัตกรรม 5G Use Case เป็นครั้งแรกของเมืองไทย, ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิด 5G AI/IoT Innovation Center เพื่อเป็นพื้นที่ให้นักพัฒนาได้เข้ามาทดลองใช้เทคโนโลยี 5G
- ภาคตะวันออก : ผนึกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เปิดสนามทดสอบ Testbed 5G-IoT ในพื้นที่ EEC เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
- ภาคใต้ : ร่วมมือกับสถาบันวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัล ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ทดลอง ทดสอบเทคโนโลยี 5G ด้วยแนวคิด “Smart City, Smart Living” สร้างโมเดลสมาร์ทซิตี้ครั้งแรกในไทย
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ติดตั้ง 5G Live Network ที่เมืองโคราช ณ AIS Contact Center Development & Training Arena เปิดพื้นที่ให้ชาวอีสานร่วมวิจัย 5G ยูสเคสแล้ว
ซึ่งความเคลื่อนไหวของทาง AIS ในการทดสอบ 5G ล่าสุดอย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วนั้น ก็คือการเคลื่อนทัพเข้าสู่ทางภาคเหนือกันบ้าง โดยได้ทำการประสานความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำการทดลองทดสอบศักยภาพเทคโนโลยี 5G ในสภาพแวดล้อมจริงเป็นครั้งแรกในภาคเหนือ โดยยึดโจทย์จากอัตลักษณ์ทางภูมิศาสตร์ โอกาส ความสนใจ และความท้าทายในภาคเหนือเป็นตัวกำหนด ทำให้ในการทดสอบ 5G หรือ 5G Use Case ในครั้งนี้นั้นเริ่มต้นด้วย 5G Connected Drones หรือการสาธิตบังคับโดรนข้ามภูมิภาค ระหว่างเชียงใหม่ และกรุงเทพ ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ผ่านเครือข่าย 5G แสดงแนวคิดการใช้งานโดรนในยุค 5G ที่ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ ซึ่งคนควบคุมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดียวกับโดรน แต่สามารถควบคุมโดรนระยะทางไกลได้ผ่านเครือข่ายมือถือ และสามารถ Streaming Video ที่มีความละเอียดสูงกลับมาหาผู้ใช้งานได้ทันที ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งด้านการขนส่งและโลจิสติกส์, การเกษตร, ความปลอดภัยสาธารณะ, การกู้ภัย รวมถึงการนำไปใช้ควบคุมโดรนภายในเมืองอัจฉริยะ เพื่อใช้ในการเข้าไปสำรวจพื้นที่ต่างๆ เป็นต้น
ในการเคลื่อนทัพของ AIS ไปยังภาคเหนือในครั้งนี้นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่การทดสอบ 5G Connected Drones หรือการสาธิตบังคับโดรนข้ามภูมิภาคเท่านั้น แต่ทาง AIS ยังได้เปิด AIS PLAYGROUND @ CMU LEARNING SPACE แหล่งรวมครีเอเตอร์รุ่นใหม่ ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อให้เป็นพื้นที่ให้เหล่านักศึกษา นักพัฒนา และผู้ประกอบการด้านดิจิทัลรุ่นใหม่ในภาคเหนือ ที่สนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีได้เข้ามาทดลองสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับ AIS ไม่ว่าจะเป็น 5G, NB-IoT, VR, API Zone ฯลฯ พร้อมทั้งมี Network Infrastructure โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทั้ง 5G, NEXT G, IoT, Fibre และ AIS Super WiFi ให้นักพัฒนาสามารถทดลอง ทดสอบบนเครือข่ายและสภาพแวดล้อมจริงได้เลย นอกจากนี้ ยังมีโซน Space for Work, Space for Consulting, Space for Creators และ Space for Innovators ไว้ให้บริการกับนักศึกษาและประชาชนที่สนใจ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่ง AIS จะเป็นผู้สนับสนุนด้านเทคโนโลยี อุปกรณ์เครื่องมือ และความเชี่ยวชาญของบุคลากร เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำมาซึ่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนนั่นเอง เรียกได้ว่าใครที่อยู่ในเชียงใหม่หรืออยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและมีความสนใจในเทคโนโลยี 5G แล้วละก็ ต้องรีบเข้าไปทดลองใช้งานที่ AIS PLAYGROUND @ CMU LEARNING SPACE กันแล้ว
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้ร่วมมือกับทาง AIS ในครั้งนี้ ได้กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสนับสนุนองค์ความรู้พื้นฐานด้านเทคโนโลยี และสนับสนุนให้นักศึกษาได้ทดลอง และคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรม การได้ร่วมมือกับเอไอเอส สร้างศูนย์ AIS PLAYGROUND @ CMU LEARNING SPACE เพื่อใช้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรม และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการประยุกต์ใช้งาน 5G กับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากเอไอเอสนั้น นับได้ว่าเป็นการเตรียม Ecosystem ของการพัฒนาเทคโนโลยีให้พร้อมรองรับเทคโนโลยี 5G ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในการมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลอย่างแท้จริง”
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวจากทาง AIS เกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G ที่เรียกได่้ว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะจากการทดสอบในครั้งนี้นั้น ทำให้ AIS ยังคงครองตำแหน่ง ขึ้นแท่นเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมเครือข่ายและเทคโนโลยีอันดับหนึ่งในประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นรายแรกที่สามารถทำการทดสอบ 5G ได้ครอบคลุมทุกภาคของประเทศไทยนั่นเอง คงต้องมาติดตามดูกันต่อไปว่า ในอนาคต AIS จะได้มีความเคลื่อนไหวอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G กันอีกบ้าง ซึ่งหากมีอะไรที่น่าสนใจทางทีมงาน @flashfly จะได้นำข่าวคราวความเคลื่อนไหวมาบอกเล่าให้ฟังกันอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน