แบตเตอรี่ Lithium-Sulfur อยู่ในความสนใจของนักวิทยาศาสตร์มานานหลายปี ถือเป็นแบตเตอรี่แห่งโลกอนาคตที่จะถูกนำมาใช้แทนแบตเตอรี่ Lithium-Ion ในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถเก็บพลังงานได้สูงกว่า มีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีต้นทุนถูกกว่า
อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ Lithium-Sulfur ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่ไม่เสถียร ทำให้ประจุไฟฟ้าถูกคลายออกมาอย่างรวดเร็ว หรือ แบตเตอรี่หมดไว ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องหาวิธีแก้ไขจุดอ่อนในข้อนี้ ก่อนนำแบตเตอรี่ Lithium-Sulfur มาใช้งานในชีวิตจริง
นักวิจัยจาก Monash University เป็นอีกกลุ่มที่กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ Lithium-Sulfur ซึ่งล่าสุดได้ค้นพบว่า ถ้าหากแบตเตอรี่ Lithium-Sulfur ถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้สมาร์ทโฟนอยู่ได้นาน 5 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และถ้านำไปใช้เป็นแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ก็จะช่วยให้รถไฟฟ้าวิ่งได้ไกลมากกว่า 621 ไมล์ หรือราว 1,000 กิโลเมตร โดยที่แบตเตอรี่ Lithium-Sulfur มีต้นทุนถูกมาก และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า
นักวิจัยจาก Monash University พบวิธีที่ช่วยให้แบตเตอรี่ Lithium-Sulfur มีประสิทธิภาพจนสามารถผลิตออกมาใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคได้ ด้วยการปรับปรุงการยึดเกาะของอนุภาคในแคโทดกำมะถัน เพื่อช่วยให้ประจุไฟฟ้ารับมือกับการโหลดพลังงานที่สูงขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความจุ ประสิทธิภาพ และ ความเสถียร ของแบตเตอรี่
ความท้าทายสำคัญ คือ การนำแบตเตอรี่มาผลิต มีงานวิจัยจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันแบตเตอรี่ Lithium-Sulfur ออกสู่ตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในห้องปฏิบัติการ แต่งานวิจัยของ Monash University ดูจะใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด โดยสถาบัน Fraunhofer ในเยอรมนีได้เริ่มผลิตแบตเตอรี่แล้ว และมีแผนนำไปทดสอบกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงโครงข่ายพลังงานแสงอาทิตย์ในออสเตรเลีย ภายในปี 2020
ที่มา – Engadget
https://www.flashfly.net/wp/280367