เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ พร้อมกับ iPadOS 13.4 ซึ่งเพิ่มการสนับสนุน Trackpad บน iPad สามารถทำงานร่วมกับ Magic Keyboard ที่เปิดตัวพร้อมกัน หรือใช้เคสคีย์บอร์ดของบุึคคลที่สาม ที่มาพร้อม Trackpad ในตัว
การสนับสนุน Trackpad ทำให้ iPad ถูกยกระดับให้ใกล้เคียงแล็ปท็อปเข้าไปอีกขั้น แต่การใช้งานจริงไม่ได้เหมือนกับเคอร์เซอร์ของเมาส์บน Mac หรือ PC ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
อย่างแรกที่จำเป็นต้องรู้ไว้ก็คือ Pointer ของ iPadOS จะปรากฏขึ้นมาเพื่อต้องการใช้งานเท่านั้น หรือเมื่อมีการสัมผัสกับ Trackpad
Pointer ของ iPadOS จะเป็นจุดวงกลมเล็กๆ เนื่องจากออกแบบมาให้ใช้นิ้วสัมผัส แต่ก็สามารถเปลี่ยนรูปร่างและขนาดไปตามสิ่งที่กำลังชี้
Trackpad ช่วยให้การเลือกเซลล์ในสเปรดชีทได้แม่นยำขึ้น และเป็นวิธีการที่ดีในการจัดการข้อความ การเลือก คัดลอก วาง และลาก
Trackpad ยังสนับสนุน Navigation Gestures หรือการนำทางด้วยคำสั่งท่าทาง อย่างเช่น…
- เลื่อนเคอร์เซอร์ไปไว้ด้านล่างของหน้าจอ เพื่อเปิด Dock
- คลิกที่ไอคอนสถานะตรงมุมบนขวา เพื่อเรียกศูนย์ควบคุมขึ้นมา
- เลื่อนเคอร์เซอร์ไปทางด้านขวาของหน้าจอ เพื่อนำแอพ Slide Over ออกมา
- กวาดสามนิ้วขึ้นเพื่อไปยังหน้าจอโฮม
- กวาดสามนิ้วขึ้นแล้วค้างไว้ เพื่อเปิดระบบ Multitasking
- สลับแอพที่เปิดค้างไว้ ด้วยการกวาดสามนิ้วไปทางซ้ายหรือขวา และใช้ได้กับแอพ Slide Over
ต่อไปนี้ เป็นคำอธิบายจาก Apple เกี่ยวกับ Trackpad บน iPadOS 13.4 โดย Craig Federighi ผู้บริหาร Apple
iPadOS 13.4 มาพร้อมการรองรับ Trackpad สำหรับ iPad เป็นครั้งแรก เพื่อประสบการณ์การพิมพ์ที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความแม่นยำให้กับงานอย่างการเขียนและการเลือกข้อความ การทำงานกับสเปรดชีท และเวิร์กโฟลว์ระดับโปรด้วย โดยเคอร์เซอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับประสบการณ์การใช้งาน iPad ที่เน้นการสัมผัสเป็นหลักนั้น จะปรากฏในรูปแบบของวงกลมที่เน้นองค์ประกอบในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ ช่องข้อความ รวมถึงแอพในหน้าจอโฮมและ Dock เพื่อบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าผู้ใช้สามารถคลิกอะไรได้บ้าง นอกจากนี้การใช้คำสั่งนิ้วบน Trackpad ได้อย่างลื่นไหลยังทำให้สามารถสลับไปมาระหว่างแอพ เปิดแถบสลับแอพ และเรียกใช้งาน Dock, ศูนย์ควบคุม รวมถึงแอพใน Slide Over ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
การรองรับ Trackpad ใน iPadOS ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับแอพที่ใช้เป็นประจำทุกวันได้อย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่การเลื่อนดูเว็บเพจใน Safari และคลังรูปภาพในแอพรูปภาพอย่างลื่นไหล จนถึงการแก้ไขข้อความอย่างแม่นยำในแอพโน้ต รวมถึงการดูและจัดระเบียบอีเมลในแอพเมลอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าการใช้งาน Trackpad กับ iPad นั้นจะมีแต่ความเพลิดเพลิน ในขณะที่แอพของบริษัทอื่นโดยส่วนใหญ่จะยังใช้งานได้เหมือนเดิมทุกประการ ส่วนนักพัฒนาก็สามารถทำอะไรๆ ได้มากยิ่งขึ้นด้วย API ใหม่ที่จะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้มอบประสบการณ์การใช้งานในแอพของตนในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ชุดแอพ iWork เพื่อการทำงานจาก Apple ทั้ง Pages, Numbers และ Keynote ล้วนได้รับการอัพเดทเพื่อใช้ประโยชน์เต็มที่จาก Trackpad และมาพร้อมวิธีใหม่ในการทำงานกับเอกสารบน iPad อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อให้สามารถเขียนและแก้ไขข้อความใน Pages ได้รวดเร็วทันใจ รวมถึงทำงานกับวัตถุหลายชิ้นใน Keynote ในเร็วยิ่งกว่าที่เคย ส่วนความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นมานั้นก็ช่วยให้การทำงานกับสเปรดชีทที่ใหญ่สุดๆ กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที
นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติใหม่อื่นๆ อย่างเท็มเพลตสวยงามใหม่ๆ ที่มีให้เลือกมากมายใน Pages และ Keynote ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นการรังสรรค์เอกสารสวยๆ ได้ทันที และถือเป็นครั้งแรกใน iWork ที่ผู้ใช้จะสามารถเพิ่ม Drop Cap หรือการขึ้นต้นย่อหน้าด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่เพื่อทำให้ย่อหน้านั้นๆ โดดเด่นขึ้นมาได้อีกด้วย ส่วนการทำงานร่วมกันก็จะง่ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ด้วยการรองรับการแชร์โฟลเดอร์ iCloud และความสามารถในการแก้ไขเอกสารที่แชร์ขณะออฟไลน์
ที่มา – Six Colors
https://www.flashfly.net/wp/291390