ถึงแม้ Apple จะมีกำหนดการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่เป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้มีสถานการณ์ที่ต่างออกไป เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ที่ลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลให้ iPhone รุ่นใหม่ในปี 2020 อาจเปิดตัวช้ากว่าปกติ อาจจะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนธันวาคม 2020 หรือเลวร้ายที่สุดอาจจะเลื่อนไปอยู่ในต้นปี 2021
หลายปีที่ผ่านมา Apple มักจะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในเดือนกันยายนนี้ และวางจำหน่ายในสัปดาห์ถัดมา แต่จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทำให้มีข่าวลือว่า iPhone รุ่นถัดไปอาจมาช้ากว่าปกติ 1 เดือน ซึ่งล่าสุดนักวิเคราะห์ Daniel Ives และ Strecker Backe ได้ออกมาประเมินว่า มีโอกาสเพียง 10 – 15% เท่านั้น ที่ iPhone 12 จะสามารถวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ และไม่มีความชัดเจนว่า Apple จะสามารถจัดงานเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ได้หรือไม่
สาเหตุที่ทำให้ iPhone 12 ล่าช้ากว่าทุกปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้สายการผลิตต้องหยุดชะงัก และต้องใช้เวลา 1 – 2 เดือน กว่าจะกลับมาเดินหน้าการผลิตได้ 100% อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่าขั้นตอนการสร้างต้นแบบของ iPhone 12 นั่นสิ้นสุดลงแล้ว จึงคาดว่าอาจมีการอัพเดทกำหนดการเปิดตัวอีกครั้งในอนาคต
ทั้งนี้ iPhone 12 ถูกอ้างว่าจะมีด้วยกัน 4 รุ่น ประกอบด้วยรุ่นเริ่มต้น 2 รุ่น ขนาดหน้าจอ 5.4 นิ้ว กับ 6.1 นิ้ว ทั้งคู่จะใช้วัสดุอะลูมิเนียม มาพร้อมกล้องคู่หลัง และรุ่นพรีเมี่ยม จะมี 2 รุ่น คือ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว กับ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ ทั้งคู่จะใช้วัสดุสแตนเลสสตีล มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว และมี LiDAR Scanner เหมือนที่พบใน iPad Pro 2020
iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น จะมาพร้อมจอแสดงผล OLED ใช้ชิปประมวลผล A14 และรองรับเทคโนโลยี 5G
ที่มา – wccftech
https://www.flashfly.net/wp/294446