Friday, August 12, 2022
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

กลับไปดู Apple Watch ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน

Content Team by Content Team
April 25, 2020
in iPhone, NEWS
0
SHARES
5
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Apple Watch ยืนอยู่ในตลาดสมาร์ทวอทช์มานาน 5 ปีแล้ว นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 24 เมษายน 2015 และในโอกาสครบรอบ 5 ปี เว็บไซต์ MacRumors ได้สรุปฟีเจอร์เด่นของ Apple Watch ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบัน ว่าในแต่ละปีมีพัฒนาการเป็นอย่างไรบ้าง

ความจริงแล้ว Apple แนะนำ Apple Watch รุ่นแรก ในเดือนกันยายน 2014 ก่อนจะเปิดตัวทางการในเดือนมีนาคม 2015 และวางจำหน่ายในเดือนเมษายนของปีเดียวกัน โดยมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 38 มม. และ 42 มม. มาพร้อมพื้นฐานของ Apple Watch รุ่นถัดไป จั้งแต่ปุ่มควบคุมแบบหมุน Digital Crown ไปจนถึงวงแหวนกิจกรรม และมีรุ่นพรีเมี่ยม Apple Watch Edition ตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต ที่มีราคาสูงถึง 17,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 551,740 บาท

Apple Watch Series 2 เปิดตัวในเดือนกันยายนปี 2016 มาพร้อมชิป S6 แบบ Dual Core เร็วกว่ารุ่นแรกถึง 50% จอแสดงผลก็สว่างกว่าเดิม 2 เท่า และยังมี GPS ในตัว กันน้ำลึก 50 เมตร สวมใส่ว่ายน้ำในสระได้ ขณะเดียวกัน Apple ก็ได้อัพเกรด Apple Watch รุ่นแรก ด้วยการติดตั้งชิป S6 และมีให้เลือกเฉพาะรุ่นตัวเรือนอะลูมิเนียม

Apple Watch Series 3 เปิดตัวในเดือนกันยายนปี 2017 มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นั่นคือการเพิ่มรุ่นที่รองรับ LTE ทำให้ Apple Watch รองรับฟีเจอร์การโทร ข้อความ สตรีมเพลงจาก Apple Music และเป็นอิสระจาก iPhone มากขึ้น Apple Watch Series 3 ยังได้รับชิปรุ่นใหม่ S3 เร็วกว่ารุ่นก่อน 70% พร้อมด้วยชิป W2 ทำให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi เร็วขึ้น 85% ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม 50% นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์วัดความสูงแบบความกดอากาศ สำหรับการติดตามกิจกรรมที่ต้องขึ้นที่สูง

Apple Watch Series 4 เปิดตัวในเดือนกันยายนปี 2018 ได้ยกระดับการติดตามสุขภาพด้วยแอพ ECG สำหรับวัดคลื่นหัวใจไฟฟ้า และ Fall Detection สำหรับติดตามการล้ม อีกทั้งยังได้รับการออกแบบใหม่หมด ด้วยขอบจอแสดงผลที่บางลง และปรับเป็นขนาด 40 มม. กับ 44 มม. โดยใช้ชิป S4 แบบ 64-bit ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

Apple Watch Series 5 เปิดตัวในเดือนกันยายนปี 2019 โดยออกมาแทนที่ Series 4 ด้วยดีไซน์เดิม เพิ่มเติมฟีเจอร์ Always-On Retina Display ช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นเวลาและข้อมูลสำคัญบนหน้าจอได้ตลอดเวลา พร้อมแอพเข็มทิศใหม่ และได้รับความจุในตัว 32GB มากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่น Series 4 นอกจากนี้ รุ่น LTE ยังสามารถโทรติดต่อบริการฉุกเฉินทั่วโลกมากกว่า 150 ประเทศ

คาดว่า Apple Watch Series 6 ที่จะมาถึงในปลายปีนี้ จะได้รับฟีเจอร์ติดตามสุขภาพการนอนหลับ วัดระดับออกซิเจนในเลือด ปรับปรุงประสิทธิภาพ, การเชื่อมต่อ Wi-Fi, คุณสมบัติกันน้ำ และมีความเป็นไปได้ที่จะรองรับ Touch ID

ที่มา – MacRumors
https://www.flashfly.net/wp/296807



Tags: Apple WatchApple Watch Series 1Apple Watch Series 2Apple Watch Series 3Apple Watch Series 4Apple Watch Series 5
ShareTweetShare

Related Posts

Apple Watch Series 8 Pro โดยพื้นฐานแล้วก็คือ Apple Watch Series X
iPhone

Apple Watch Series 8 Pro โดยพื้นฐานแล้วก็คือ Apple Watch Series X

August 7, 2022
สรุปข่าวลือทั้งหมดของ Apple Watch SE 2 ที่คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 14 ในเดือนกันยายนนี้
iPhone

สรุปข่าวลือทั้งหมดของ Apple Watch SE 2 ที่คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 14 ในเดือนกันยายนนี้

August 1, 2022
Apple ลดราคา iPhone, Apple Watch และ AirPods หลายรุ่นในจีน ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคมนี้
iPhone

Apple ลดราคา iPhone, Apple Watch และ AirPods หลายรุ่นในจีน ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคมนี้

July 26, 2022
Load More

Stay Connected

  • 32.7k Followers
  • 13.4k Subscribers
  • 1000 Subscribers
  • รีวิว HUAWEI nova Y70 จอใหญ่ 6.75 นิ้ว กล้องหลัง 48MP ความจุ 128GB แบตอึดสะใจ 6000mAh ชาร์จไว พร้อมใช้งาน LINE ได้ตามปกติแล้ว ราคาเพียง 5,999 บาท

    รีวิว HUAWEI nova Y70 จอใหญ่ 6.75 นิ้ว กล้องหลัง 48MP ความจุ 128GB แบตอึดสะใจ 6000mAh ชาร์จไว พร้อมใช้งาน LINE ได้ตามปกติแล้ว ราคาเพียง 5,999 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • หลุด!! ราคา iPhone 14 Series ทั้ง 4 รุ่น ปรับราคาขึ้นอีกราว 3,300 บาท เริ่มต้นราว 26,300 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max จะมาในราคาที่แพงกว่าเดิม คาดราคาเริ่มต้น 42,900 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0
  • ยลโฉมเครื่องดัมมี่ iPhone 14,iPhone 14‌ Max,iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro‌ Max ใหม่ล่าสุด (ชมคลิป)

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
Flashfly Dot Net

www.flashfly.net

Follow Us

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Xiaomi 12T และ 12T Pro ถูกเปิดเผยสเปก และราคา ก่อนเปิดตัวทางการในเดือนตุลาคมนี้

Xiaomi 12T และ 12T Pro ถูกเปิดเผยสเปก และราคา ก่อนเปิดตัวทางการในเดือนตุลาคมนี้

August 12, 2022
ไม่มีอีกแล้ว!! Toyota VIOS สิ้นสุดสายการผลิตอย่างทางการ แทนที่ด้วย All New Toyota Yaris ATIV

ไม่มีอีกแล้ว!! Toyota VIOS สิ้นสุดสายการผลิตอย่างทางการ แทนที่ด้วย All New Toyota Yaris ATIV

August 12, 2022
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net.

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net.