Thursday, May 8, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

ซื้อรุ่นไหนดี!! เปรียบเทียบประสิทธิภาพ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว, MacBook Air และ iPad Pro 2020

Content Team by Content Team
May 17, 2020
in iPhone, NEWS
0
SHARES
83
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา Apple มีการรีเฟรชผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว, MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ซึ่งทั้งหมดมีฟังก์ชั่นการใช้งาน และประสิทธิภาพที่คล้ายคลึงกัน จึงถึงนำมาเปรียบเทียบพร้อมกันทั้งหมด 3 รุ่น หลังจากที่ MacRumors เคยนำ MacBook Air กับ iPad Pro มาเปรียบเทียบให้ชมกันในเดือนที่ผ่านมา

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเปรียบเทียบในครั้งนี้

  • iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ใช้ชิป A12Z Bionic ความจำ RAM 6GB ความจุ ROM 128GB พร้อม Magic Keyboard ราคา 46,590 บาท
  • MacBook Pro‌ รุ่น 13 นิ้ว ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i5 รุ่นที่ 8 แบบ Quad-core ความเร็ว 1.4GHz, Intel Iris Plus Graphics 645, หน่วยความจำ LPDDR3 ความเร็ว 2133MHz ขนาด 8GB และ ตัวจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท
  • MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i3 รุ่นที่ 10 แบบ Dual-core ความเร็ว 1.1GHz, Intel Iris Plus Graphics, หน่วยความจำ LPDDR4X ความเร็ว 3733MHz ขนาด 8GB, ตัวจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 256GB ราคา 32,900 บาท

ทั้งนี้ ราคา iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ปกติมีราคาเริ่มต้น 34,900 บาท แต่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard ที่มีราคา 11,690 บาท เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานแบบ MacBook

สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว มีราคาเริ่มต้น 27,900 บาท และ Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว มีราคา 9,990 บาท แต่ไม่ได้ถูกนำมาเปรียบเทียบในครั้งนี้

การออกแบบ

ชัดเจนว่า MacBook Air‌ กับ ‌MacBook Pro มีความคล้ายคลึงกันมากที่สุด เนื่องจากเป็นแล็ปท็อปเหมือนกัน มาพร้อมบอดี้อลูมิเนียมแบบ Unibody, พอร์ต Thunderbolt 3 (2 ช่อง), จอภาพ Retina ขนาด 13.3 นิ้ว, แผงคีย์บอร์ดใหม่ Magic Keyboard, แทร็คแพด Force Touch, ชิปความปลอดภัย T2 และรองรับ Touch ID

จอภาพของ MacBook Pro ให้ความสว่างกว่า และมี Touch Bar ขณะที่ MacBook Air‌ มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานกว่า 1 ชั่วโมง และสนับสนุนการส่งภาพออกจอภายนอกที่ระดับ 6K

MacBook Air‌ กับ ‌MacBook Pro มีขนาดบอดี้ที่ใกล้เคียงกัน ทั้งคู่มีความกว้าง ความกว้าง 30.41 เซนติเมตร ความลึก 21.24 เซนติเมตร โดย MacBook Air‌ จะมีความเพรียวบางกว่าเล็กน้อย และมีน้ำหนัก 1.29 กิโลกรัม ขณะที่ MacBook Pro มีน้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม

iPad Pro มีดีไซน์ที่ต่างออกไปอย่างชัดเจน เพราะเป็นอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ต มาพร้อมจอสัมผัส แต่รองรับการใช้งานในรูปแบบแล็ปท็อป ด้วยการซื้อ Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro มาติดตั้งเพิ่ม โดยมาพร้อมปุ่มกดที่ใช้กลไกแบบกรรไกร และมีแทร็คแพดในตัว แต่มีขนาดเล็กกว่า MacBook และไม่ได้ใช้ Force Touch

iPad Pro‌ ใช้วิธียืนยันตัวตนด้วย Face ID แทนที่ Touch ID และเมื่อใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard จะทำให้มีน้ำหนักรวม 1.36 กิโลกรัม ซึ่งมีน้ำหนักใกล้เคียงกับ MacBook Pro แต่รองรับการใช้งานที่หลากหลายกว่า สามารถถอด Magic Keyboard ออกได้อย่างง่ายดาย เพราะเชื่อมต่อกันด้วยแม่เหล็ก และเมื่อถอด Magic Keyboard ออกไป ก็จะทำให้น้ำหนัก iPad Pro‌ เหลือเพียง 641 กรัม

วัดประสิทธิภาพด้วยซอฟต์แวร์

MacRumors ใช้แอพพลิเคชั่น Geekbench 5 ในการทดสอบประสิทธิภาพของ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว, MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว และผลที่ได้ก็น่าแปลกใจพอสมควร เนื่องจากชิป A series ของ Apple สามารถเอาชนะโปรเซสเซอร์ Intel

iPad Pro ได้รับ 1116 คะแนน สำหรับ Single-Core และ 4686 คะแนน สำหรับ Multi-Core สูงกว่า MacBook Pro ที่ได้รับ 859 คะแนน สำหรับ Single-Core และ 3621 คะแนน สำหรับ Multi-Core สำหรับ MacBook Air ชนะ MacBook Pro ในด้าน Single-Core แต่ในด้าน Multi-Core มีคะแนนน้อยที่สุด

ทั้งนี้ MacBook Pro รุ่นพื้นฐาน ยังใช้โปรเซสเซอร์ รุ่นที่ 8 ของ Intel ขณะที่ MacBook Air รุ่นพื้นฐาน และมีราคาถูกกว่า ได้รับโปรเซสเซอร์ รุ่นที่ 10 ทำให้ MacBook Air มีความคุ้มค่ามากกว่า

ส่วน iPad Pro มาพร้อมชิป A12Z ซึ่งได้รับการปรับปรุงเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับชิป A12X ที่อยู่ใน iPad Pro เวอร์ชั่น 2018 โดยมีการเปิดแกนประมวลผล GPU ที่ซ่อนอยู่

การใช้งานในชีวิตจริง

iPad Pro มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อวัดประสิทธิภาพด้วยแอพ Geekbench 5 แต่การใช้งานจริง จะเร็วสมกับคะแนนที่ได้รับมาหรือไม่ MacRumors ได้นำมาทดสอบด้วยกสนถ่ายโอนไฟล์วิดีโอ ขนาด 1.3GB พบว่า MacBook Air‌ กับ ‌MacBook Pro‌ ใช้เวลาเพียง 5 วินาที แต่ iPad Pro ใช้เวลาไปถึง 50 วินาที แสดงให้เห็นว่าระบบจัดการไฟล์ของ ‌iPad Pro ยังเทียบไม่ได้กับ MacBook

สำหรับทดสอบส่งออกไฟล์วิดีโอ 4K ที่มีความยาว 5 นาที ด้วยแอพ Final Cut Pro พบว่า ‌MacBook Pro‌ ใช้เวลา 4 นาที 10 วินาที ขณะที่ MacBook Air ใช้เวลามากกว่า อยู่ที่ 5 นาที 30 วินาที

ทางด้าน iPad Pro ไม่มีแอพ Final Cut Pro จึงแทนที่ด้วย Luma Fusion และใช้เวลาเพียง 3 นาที ในการส่งออกไฟล์วิดีโอขนาดเดียวกัน

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์ที่ควรพิจารณา

ในแง่ประสิทธิภาพ ชัดเจนว่า iPad Pro ทำได้ดีกว่า ‌MacBook Pro‌ และ MacBook Air ในรุ่นพื้นฐาน แต่ iPad Pro ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง ตามที่กล่าวไปข้างต้น iPad Pro ไม่มีแอพ Final Cut Pro สำหรับงานตัดต่อระดับมืออาชีพ และไม่มี Logic Pro รวมถึง Xcode ที่มีความจำเป็นสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ส่วนการใช้งานในระบบ Multitasking ก็ถูกจำกัดการทำงานพร้อมกัน 2 หน้าต่าง ในเวลาเดียวกัน

แต่ในเรื่องกล้อง iPad Pro มีคุณภาพมากกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคุณภาพของวิดีโอ เนื่องจาก MacBooks ยังติดอยู่กับกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 720p นั่นทำให้ iPad Pro มีคุณภาพกล้องที่ดีกว่า เมื่อใช้งานวิดีโอแชทอย่าง Zoom, Skype, FaceTime และแอพประชุมทางไกลอื่นๆ

‌iPad Pro ยังได้เปรียบในการใช้งานที่ต้องอาศัยการวาดเขียน เนื่องจากรองรับ Apple Pencil และสามารถปรับอุปกรณ์เป็นการใช้งานในแนวนอนหรือแนวตั้งได้ นอกจากงานวาดเขียน ‌iPad Pro ยังมีแอพตัดต่อเสียงและวิดีโอที่สามารถใช้งานแทน Final Cut Pro และ Logic X

‌iPad Pro ยังรองรับแอพด้านแก้ไขภาพ อย่าง Photoshop และ Lightroom ส่วนการใช้งานด้านท่องเว็บไซต์ พิมพ์งาน ก็ยังมี Magic Keyboard มารองรับ ทำให้ ‌iPad Pro เป็นอุปกรณ์ 2-in-1 ให้ประสบการณ์การใช้งานแบบแล็ปท็อป แต่ก็สามารถถอด Magic Keyboard เพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดาย

สรุป

‌iPad Pro มีข้อจำกัดเดียวในเรื่องของซอฟต์แวร์สำหรับบางอาชีพ ที่ต้องใช้ในการทำงาน แต่ถ้าบางสายงานที่สามารถใช้แอพบน ‌iPad ทำงานได้ ก็จะทำให้ ‌iPad Pro เป็นอุปกรณ์ที่มีประสิทธฺภาพมากที่สุด เมื่อเทียบกับรุ่นพื้นฐานของ ‌MacBook Pro‌ และ MacBook Air

แต่ถ้ามองหาความคุ้มค่า MacBook Air กลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยมีราคาเริ่มต้น 32,900 บาท รองรับการทำงานได้ทุกด้าน ทั้งงานเอกสาร ตัดต่อวิดีโอ แก้ไขภาพ ท่องเว็บไซต์ แต่ยังไม่ใช่อุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ ที่ต้องการส่งออกไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่

MacBook Pro เป็นแล็ปท็อปที่ตอบสนองการทำงานได้ดีกว่า ด้วย CPU และ GPU ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ควรซื้อรุ่นที่มีราคา 59,900 บาทขึ้นไป เพราะจะได้โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Intel ขณะที่รุ่นพื้นฐานยังใช้โปรเซสเซอร์ รุ่นที่ 8 ซึ่งไม่รองรับจอภาพความละเอียด 6K อย่างเช่น Pro Display XDR

เปรียบเทียบ MacBook Air vs MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว

เปรียบเทียบ MacBook Air vs iPad Pro 2020

ที่มา – MacRumors
https://www.flashfly.net/wp/299727




Tags: MacBook AirMacBook Air 2020MacBook Pro 13
ShareTweetShare

Related Posts

ทำความรู้จัก 6 สิ่งใหม่ใน MacBook Air รุ่นชิป M4
iPhone

ทำความรู้จัก 6 สิ่งใหม่ใน MacBook Air รุ่นชิป M4

March 8, 2025
Apple เปิดตัว MacBook Air ใหม่มาในสีสกายบลู พร้อมชิป M4 ที่เร็วสุดแรง สร้างมาเพื่อ Apple Intelligence ราคาเริ่มเพียง 34,900 บาท
iPhone

Apple เปิดตัว MacBook Air ใหม่มาในสีสกายบลู พร้อมชิป M4 ที่เร็วสุดแรง สร้างมาเพื่อ Apple Intelligence ราคาเริ่มเพียง 34,900 บาท

March 5, 2025
MacBook Air รุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวในสัปดาห์นี้ จะได้รับการอัปเกรดอะไรบ้าง เราสรุปมาให้แล้ว
iPhone

MacBook Air รุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวในสัปดาห์นี้ จะได้รับการอัปเกรดอะไรบ้าง เราสรุปมาให้แล้ว

March 4, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

เปิดประสบการณ์ใหม่กับ TrueVisions NOW เสริมทัพด้วย iQIYI, WeTV, MAX, VIU และ NETFLIX สะดวกสบายในแอปเดียว เริ่มเพียง 119 บาทต่อเดือน

เปิดประสบการณ์ใหม่กับ TrueVisions NOW เสริมทัพด้วย iQIYI, WeTV, MAX, VIU และ NETFLIX สะดวกสบายในแอปเดียว เริ่มเพียง 119 บาทต่อเดือน

May 8, 2025
AIS ตัดวงจรมิจฉาชีพตั้งแต่ต้นทาง ปักหมุดประเทศไทยสู่ “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” ยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ

AIS ตัดวงจรมิจฉาชีพตั้งแต่ต้นทาง ปักหมุดประเทศไทยสู่ “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” ยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศ

May 8, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');