ในปีนี้ Vivo ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงามระดับพรีเมี่ยมแต่มีราคาคุ้มค่าให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น กับสมาร์ทโฟน Y series รุ่นใหม่ Vivo Y50 ที่ทีมงาน @flashfly ได้นำเสนอรีวิวไปก่อนหน้านี้ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีมาก
และวันนี้ Vivo ยังมีสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีดีไซน์สวยงามสเปกดีในราคาที่คุ้มค่ากว่า Vivo Y50 อีก นั่นก็คือรุ่นน้องอย่าง Vivo Y30 นั่นเองซึ่งตอนนี้ก็ได้เดินทางมาถึงมือทีมงานเรียบร้อยแล้ว มาดูกันว่าจะคุ้มค่าขนาดไหน บอกได้เลยว่าน่าสนใจมากๆ
แกะกล่อง
ก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านรีวิวอย่างเต็มรูปแบบ ขอเริ่มต้นที่การแกะกล่องให้ชมกันก่อนเช่นเคยโดย Vivo Y30 ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาวรูปแบบเดียวกับรุ่น Y50 บนฝากล่องพิมพ์ชื่อรุ่น Y30 ขนาดใหญ่ มุมบนซ้ายระบุขนาดความจำ RAM 4GB + ROM 128GB
ด้านหลังบอกจุดเด่นของ Vivo Y30 ไว้ 3 รายการ ได้แก่ จอแสดงผล 6.47 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ถนอมดวงตา, ระบบกล้องหลังอัจฉริยะ 4 ตัว AI Quad Camera และความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh
เมื่อเปิดฝากล่องออกไป จะพบกับกล่องสีขาวที่มีลักษณะแบน ภายในเป็นที่เก็บเอกสารต่างๆ อย่าง คู่มือแนะนำการใช้งานฉบับเร่งด่วน, ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน, เคสใส และ เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
ชั้นถัดมาเห็นสมาร์ทโฟน Vivo Y30 อยู่ในแผ่นพลาสติกที่ห่อหุ้มไว้กันรอย และที่จอแสดงผลก็มีการติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อยแล้ว
ชั้นล่างสุดจะพบกับอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ Power Adapter ขนาด 10W และสายเคเบิล ที่เป็นมาตรฐาน USB-C
สเปกที่น่าสนใจของ Vivo Y30
- จอแสดงผล HD+ Ultra O Screen ขนาด 6.47 นิ้ว
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 10 บนพื้นฐาน Android 10
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35 MT6765
- ความจำ RAM 4GB + ROM 128GB
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- กลัองหลัง 13 + 8 + 2 + 2 ล้านพิกเซล
- รองรับเครือข่าย 4G LTE สนับสนุน 2 ซิมการ์ด
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi (2.4GHz /5GHz), Bluetooth 5.0, GPS, USB Type-C
- ระบบเซ็นเซอร์ Accelerometer, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Virtual Gyroscope, E-compass
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- ขนาดบอดี้ 162.04 x 76.46 x 9.11 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 197 กรัม
ดีไซน์ใหม่แบบเรือธง
Vivo Y30 มีดีไซน์เหมือนสมาร์ทโฟนระดับเรือธง โดยเฉพาะจอแสดงผลแบบ Ultra O Screen ที่มีการติดตั้งกล้องเซลฟี่ไว้ใต้รูวงกลม ที่บริเวณมุมบนขวาของหน้าจอ แทนการทำรอยบากแบบหยดน้ำ
Vivo Y30 ใช้จอแสดงผล LCD ความละเอียด 1560 x 720 พิกเซล ขนาด 6.47 นิ้ว ให้อัตราส่วนภาพ 19.5:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 90.77% และยังมาพร้อมกับโหมดถนอมสายตา สามารถปรับอุณหภูมิสีของจอแสดงผลเพื่อลดแสงสีฟ้า ช่วยให้ถนอมดวงตาเมื่อจ้องมองเป็นเวลานาน
ดีไซน์ในภาพรวมของ Y30 ดูคล้ายกับรุ่น Y50 รวมถึงตำแหน่งของลำโพงสนทนา ที่ถูกติดตั้งไว้ชิดขอบด้านบน เหนือจอแสดงผล
การออกแบบด้านหลังให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมด้วยดีไซน์ Dazzling 3D Colors ขอบตัวเครื่องโค้งมนแบบ 3D จึงจับถือได้อย่างถนัดและสบายมือ โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Dazzle Blue สีน้ำเงินเงางาม ดูดีมีเสน่ห์ และที่ทีมงานได้มารีวิวเป็นสี Moonstone White เหมือนหยกสีขาวที่มีประกายมุกระยิบระยับ ให้สีสันสวยงาม และมีสไตล์
กล้องหลังทั้ง 4 พร้อมแฟลช ติดตั้งไว้ในกรอบกันชนรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และตรงกึ่งกลางเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
Vivo Y30 วางปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางฝั่งเดียวกัน
ส่วนอีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ด และไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ อยู่ด้านนี้ ซึ่งถูกใจคนที่ชอบวางสมาร์ทโฟนในแนวนอนสำหรับดูวิดีโอหรือทีวีออนไลน์
ด้านบนถูกปล่อยให้เรียบ ไม่มีรู ปุ่มกด หรือพอร์ตใดๆ
ด้านล่างจะพบกับช่องลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, รูไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
กล้องเซลฟี่บนหน้าจอ
Vivo Y30 มีความโดดเด่นที่กล้องเซลฟี่แบบซ่อนไว้ใต้จอแสดงผล ซึ่งถูกเรียกว่า Ultra O Screen เนื่องจากมีการเจาะรูเป็นวงกลม เพื่อติดตั้งกล้องหน้าลงไป แทนดีไซน์ก่อนหน้านี้ที่จะวางกล้องหน้าไว้ในรอยบากแบบหยดน้ำ ซึ่งการเจาะรูบนจอแสดงผลกำลังเป็นดีไซน์ที่ได้รับความนิยมในยุคสมัยนี้
กล้องเซลฟี่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.05 รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait ถึงแม้จะมีกล้องเลนส์เดียวก็ตาม พร้อมด้วยเอฟเฟกต์ Bokeh ละลายฉากหลังได้อย่างสวยงาม ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่มีความโดดเด่น และสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 1080P
กล้องหลัง 4 ตัว เก็บครบทุกองศา
ระบบกล้องหลัง 4 ตัว ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของ Vivo Y30 เพราะนอกจากจะมีเลนส์กล้องปกติแล้ว ยังมาพร้อมกล้อง Super Wide-Angle สำหรับถ่ายภาพในมุมมองกว้างพิเศษ กล้อง Macro สำหรับถ่ายภาพใกล้วัตถุ ช่วยเปิดโลกใบจิ๋วที่สายตามนุษย์อาจมองข้ามไป และยังมีกล้อง Bokeh ช่วยถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย ด้วยกล้องทั้ง 4 ที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน ช่วยให้เจ้าของ Vivo Y30 กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพอย่างง่ายดาย
กล้องหลัก (Main Camera) ขนาด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ให้คุณภาพคมชัดระดับ HD ไม่แพ้รุ่นพี่ Y50
กล้องมุมกว้างพิเศษ 120 องศา (Super Wide-Angle Camera) ขนาด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ช่วยให้ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ได้กว้างยิ่งขึ้น รวมถึงถ่ายภาพกลุ่มคนจำนวนมาก
กล้องมาโคร (Super Macro Camera) ขนาด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 สำหรับถ่ายภาพใกล้วัตถุในระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร ช่วยเก็บรายละเอียดของวัตถุขนาดเล็กได้อย่างคมชัด
กล้องชัดลึก (Bokeh Camera) ขนาด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 ช่วยถ่ายภาพบุคคลให้โดดเด่น พร้อมเอฟเฟกต์ละลายฉากหลังอย่างแนบเนียน
ระบบกล้องหลังรองรับระบบออโต้โฟกัสแบบ PDAF สามารถสั่งถ่ายภาพด้วยฟีเจอร์ Palm Capture และ Voice Control มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Live Photos, HDR, Panorama, Bokeh, Portrait, Video Face Beauty, Watermark และ Filters
สำหรับโหมดการถ่ายวิดีโอนั้น Vivo Y30 ถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080P และรองรับการใช้งานถ่ายวิดีโอด้วยเลนส์มุมกว้าง Super wide angle อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ประสิทธิภาพเหมาะสมกับราคา
Vivo Y30 เลือกใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35 MT6765 ประกอบด้วยซีพียู Arm Cortex-A53 แบบ 64-bit Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.3GHz พร้อมด้วยจีพียู IMG PowerVR GE8320, 680MHz ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแอพโซเชี่ยล ท่องเว็บไซต์ ดูหนังออนไลน์ และเล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้ Vivo Y30 น่าสนใจมากขึ้นก็คือความจุในตัว หรือ ROM ขนาดใหญ่ 128GB รองรับการติดตั้งเกมขนาดใหญ่ และติดตั้งแอพพลิเคชั่นได้มากมายโดยไม่ต้องคอยลบแอพเดิมเพื่อลงแอพใหม่ อีกทั้งยังมีพื้นที่มากพอสำหรับจัดเก็บไฟล์มัลติมีเดียอย่างรูปภาพ และวิดีโอ จนไม่ต้องอาศัยการ์ด MicroSD นอกจากนี้ยังมาพร้อมความจำ RAM ขนาด 4GB เพียงพอสำหรับการสลับแอพที่เปิดค้างไว้ได้หลายแอพในเวลาเดียวกัน
ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่
Vivo Y30 มาพร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด Funtouch OS 10 ซึ่งทำงานบนพื้นฐาน Android 10 ได้รับการออกแบบ User Interface ใหม่ที่ให้ทั้งความสวยงามสบายตา และยังรองรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของ Vivo ที่เน้นดีไซน์แบบ Full Screen พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ตามรายการด้านล่าง
Dynamic Effects สามารถเลือกเอฟเฟกต์สำหรับการตั้งค่าหน้าจอโฮม รวมไปถึงการปลดล็อกหน้าจอเพื่อเข้าสู่หน้าจอโฮม เอฟเฟกต์จดจำใบหน้า การชาร์จแบตเตอรี่ เสียบสาย USB และการเปิด-ปิดหน้าจอ
EasyShare ตัวช่วยในการถ่ายโอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเครื่องเก่ามายังเครื่องใหม่ ทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
i Manager ผู้ช่วยที่คอยดูแลระบบต่างๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะในสมาร์ทโฟน หรือสแกนหาปัญหาในเวลากลางคืน ทำให้สมาร์ทโฟนดูเหมือนเครื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา
Jovi Smart Scene ผู้ช่วยอัจฉริยะของ Vivo คอยแจ้งเตือนและให้คำแนะนำด้านสุขภาพ เช่น การเตือนให้ดื่มน้ำ โดยอ้างอิงข้อมูลจากอายุและน้ำหนักของผู้ใช้งาน อีกทั้งยังเป็นคู่มือในการวางแผนออกกำลังกาย โดยจะพิจารณาจากส่วนสูง และน้ำหนักของผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถบันทึกการเดิน และการวิ่งของผู้ใช้งาน เพื่อติดตามความคืบหน้าพร้อมเปรียบเทียบกิจกรรมในแต่ละวันที่ผ่านมา
Jovi Event ช่วยแจ้งเตือนรายการการแข่งขันกีฬา ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันฟุตบอล หรือ บาสเก็ตบอล และสามารถเช็คผลการแข่งขันของทีมโปรดได้ทุกเวลา ทำให้ไม่พลาดทุกแมทช์การแข่งขัน
Screen Time ให้ Jovi เป็นผู้ช่วยจัดการเรื่องเวลา ไม่ว่าจะบันทึกเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟน หรือดูค่าเฉลี่ยในการใช้งาน เพื่อตรวจสอบระยะเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย ในขณะเดียวกัน ยังสามารถตั้งค่าหน้าจอเพื่อจำกัดเวลาการใช้งานได้อีกด้วย ช่วยให้เจ้าของ Vivo Y30 ควบคุมการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มากเกินไป และมีเวลาพักสายตาเพื่อใช้เวลากับคนรอบข้างได้มากขึ้น
Multi-Turbo 3.0 ผู้ช่วยในการเล่นเกม
นอกจากฮาร์ดแวร์ที่เป็นชิปประมวลผล Vivo Y30 ยังมาพร้อมซอฟต์แวร์อัจฉริยะ ที่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบ Multi-Turbo 3.0 ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี VPG (Vivo Process Guardian) ประกอบด้วย Center Turbo ช่วยให้การเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นทำได้อย่างรวดเร็ว และ AI Turbo ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด สามารถวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาของระบบที่เกิดจากแอพพลิเคชั่นได้ล่วงหน้า
Vivo Y30 ยังมาพร้อม Ultra Game Mode เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด 8.0 รองรับฟีเจอร์บันทึกหน้าจอขณะเล่นเกม โดยจะบันทึกไว้ในอัลบั้มเกมโดยเฉพะ เพื่อความสะดวกในการค้นหาหรือแชร์ต่อ และอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ นั่นก็คือ การล็อคความสว่างของหน้าจอ ปิดโหมดปรับความสว่างอัตโนมัติ เพื่อให้ไม่รบกวนการเล่นเกม โดยการล็อคความสว่างหน้าจอนี้จะไม่ถูกบันทึกไว้ เมื่อเปิดเกมขึ้นมาใหม่ จะกลับไปเป็นโหมดปรับแสงหน้าจออัตโนมัติเหมือนเดิม
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Vivo Y30 อยู่ที่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh รองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องหาที่ชาร์จในระหว่างวัน สามารถใช้สนทนาบนระบบ 2G ได้นานถึง 66 ชั่วโมง หรือสนทนาบนระบบ 3G ได้นาน 40 ชั่วโมง และสนทนาบนระบบ 4G ได้นานสูงสุด 34 ชั่วโมง แต่ถ้าเปิดเครื่องสแตนด์บาย จะอยู่ได้นานเกือบ 30 วัน
Vivo Y30 ยังให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 46.3 ชั่วโมง สำหรับการฟังเพลง หรือดูวิดีโอได้นานถึง 12.97 ชั่วโมง และเล่นเกมได้ตลอดทั้งวัน 11.35 ชั่วโมง ไม่ต้องเสียเงินซื้อ Power Bank อีกต่อไป
นอกจากนี้ Vivo Y30 ยังทำหน้าที่เป็น Power Bank ได้ด้วย โดยรองรับฟีเจอร์ Reverse Charging 5V/1A สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์เครื่องอื่น ผ่านสาย OTG
สรุป
สมาร์ทโฟน Y series ของ Vivo ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มุ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่าสำหรับผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น แต่ Vivo Y30 ไม่ได้ให้แค่ความคุ้มค่าเท่านั้น เพราะยังได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามพรีเมี่ยม ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิงด้านภาพผ่านจอแสดงผล Ultra O Screen ขนาดใหญ่เกือบ 6.5 นิ้ว ชิปประมวลผลที่้รองรับการเล่นเกมได้ดีในระดับหนึ่ง ระบบกล้องหลัง 4 ตัว รองรับการถ่ายภาพที่หลากหลาย ตั้งแต่ภาพวัตถุขนาดเล็ก ไปจนถึงภาพถ่ายในมุมมองกว้างพิเศษ และยังมีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ให้พลังงานยาวนานข้ามวัน
Vivo Y30 พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ ในราคาเพียง 6,999 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Dazzle Blue สีน้ำเงินเงางาม ดูดีมีเสน่ห์ และ Moonstone White เหมือนหยกสีขาวที่มีประกายมุกระยิบระยับ ให้สีสันสวยงาม และมีสไตล์ มาพร้อมความจำ RAM 4GB จับคู่กับ ROM 128GB