Thursday, August 18, 2022
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

เปรียบเทียบ Apple Watch Series 6 vs Apple Watch SE vs Apple Watch Series 3

Content Team by Content Team
September 17, 2020
in iPhone, NEWS
0
SHARES
36
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Apple เปิดตัว Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา โดยยังคงทำตลาด Apple Watch Series 3 ต่อไป ทำให้ปัจจุบันมี Apple Watch วางจำหน่ายพร้อมกัน 3 รุ่น ที่ดูเหมือนจะมีดีไซน์แบบเดียวกัน แต่ถ้ามองไปให้ลึกจะพบว่าทั้ง 3 รุ่น ยังมีความแตกต่างกัน นอกเหนือจากป้ายราคา

การออกแบบและจอแสดงผล

Apple Watch Series 6, Apple Watch SE และ Apple Watch Series 3 มีดีไซน์โดยรวมที่คล้ายกัน อันที่จริง Apple ไม่ได้ปรับเปลี่ยนดีไซน์มากนักนับตั้งแต่ Apple Watch รุ่นแรก โดย Apple Watch Series 3 มีขนาดตัวเรือน 38.6 x 33.3mm x 11.4 มิลลิเมตร ขณะที่ Apple Watch Series 6 กับ Apple Watch SE ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่คาดว่าจะมีขนาดเดียวกับ Apple Watch Series 5 (40 x 34 x 10.74 มิลลิเมตร)

ถึงแม้ตัวเลขจะบอกว่า Apple Watch Series 6 กับ Apple Watch SE มีขนาดตัวเรือนใหญ่กว่า Apple Watch Series 3 แต่ถ้ามองด้วยตาเปล่าก็แทบจะมองไม่เห้นถึงความแตกต่าง และไม่ว่าจะสวมใส่รุ่นไหนไว้ที่ข้อมือ ก็ออกมาดูดีเหมือนกันทั้ง 3 รุ่น

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองลงไปให้ลึกจะพบว่า Apple Watch Series 3 ยังใช้จอแสดงผลที่มีมุมเหลี่ยมอย่างชัดเจน โดยขนาด 38 มม. มีพื้นที่หน้าจอ 563 ตารางมิลลิเมตร ส่วนขนาด 42 มม. มีพื้นที่หน้าจอ 740 ตารางมิลลิเมตร

Apple Watch Series 6 กับ Apple Watch SE ได้รับการปรับปรุงจอแสดงผลใหม่ที่มีขอบบางลงและมุมโค้งมน ทำให้มีพื้นที่จอแสดงผลใหญ่ขึ้น 30% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 3 โดยขนาด 40 มม. มีพื้นที่หน้าจอ 759 ตารางมิลลิเมตร ส่วนขนาด 44 มม. มีพื้นที่หน้าจอ 977 ตารางมิลลิเมตร

จอแสดงผลของ Apple Watch Series 6 กับ Apple Watch SE ใช้สเปกเดียวกัน แต่ Apple Watch Series 6 เป็นเพียงรุ่นเดียวที่รองรับฟีเจอร์ Always-on และยังมีความสว่างมากขึ้น 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 5

สีสันและวัสดุ

ตัวเรือนของ Apple Watch Series 6, Apple Watch SE และ Apple Watch Series 3 มีสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ให้เลือกเหมือนกัน แต่ Apple Watch SE ยังมีสีทองให้เลือกด้วย ขณะที่ Apple Watch Series 6 ยังเพิ่มสีน้ำเงิน และ สีแดง Product(Red)

ตัวเรือนของ Apple Watch SE และ Apple Watch Series 3 ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ส่วน Apple Watch Series 6 นอกจากจะมีตัวเรือนอะลูมิเนียม ยังมีวัสดุสแตนเลสสตีล และไทเทเนียม ให้เลือกด้วย

Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE ยังมีเวอร์ชั่น Nike ตัวเรือนอะลูมิเนียม สีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ และ Apple Watch Series 6 ยังมีเวอร์ชั่น Hermes ที่ใช้ตัวเรือนสแตนเลสสตีล

ด้านหลังของ Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE ยังใช้วัสดุเซรามิกและผลึกแซฟไฟร์ ขณะที่ Apple Watch Series 3 ในปัจจุบันมีวางจำหน่ายเฉพาะรุ่น GPS ซึ่งด้านหลังใช้วัสดุคอมโพสิต

ประสิทธิภาพ

ในอดีต Apple Watch ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ต้องวัดกันด้วยประสิทธิภาพ เหมือนกับ iPhone หรือ iPad แต่ปัจจุบัน Apple Watch มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น และความเร็วที่จะตอบสนองต่อการใช้งานก็เริ่มเป็นสิ่งจำเป็น โดย Apple Watch ทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมชิปประมวลผลที่แตกต่างกัน

  • Apple Watch Series 6 ใช้ชิป S6
  • Apple Watch SE ใช้ชิป S5
  • Apple Watch Series 3 ใช้ชิป S3

ชิป S6 มีความเร็วกว่า S5 ราว 20% ขณะที่ชิป S5 แรงกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบกับ S3 เนื่องจากชิป S5 กับ S6 มีสถาปัตยกรรมแบบ 64-bit Dual‑core ขณะที่ S3 เป็นแบบ 32-bit Dual‑core

ชิป S6 กับ S5 ยังมีชิป W3 สำหรับระบบไร้สาย ซึ่งรองรับ Bluetooth 5 นอกจากนี้ Apple Watch Series 6 ยังเป็นเพียงรุ่นเดียวที่มาพร้อมชิป U1 (Ultra Wideband) ซึ่ง Apple เริ่มนำมาใช้กับ iPhone 11 และ iPhone 11 Pro ในปีที่แล้ว (ชิป U1 ช่วยให้อุปกรณ์สามารถรับรู้เชิงพื้นที่ได้มากขึ้น หรือระบุตำแหน่งได้แม่นยำมากขึ้น)

การเชื่อมต่อ

ในปัจจุบัน Apple Watch Series 3 มีวางจำหน่ายเฉพาะรุ่น GPS นั่นหมายความว่า ถ้าผู้ใช้งานต้องการเป็นอิสระจาก iPhone หรือเชื่อมต่อกับเครือข่ายมือถือได้ ต้องเลือก Apple Watch SE หรือ Apple Watch Series 6 เพราะมีรุ่น GPS + Cellular ให้เลือกซื้อ โดยรุ่น GPS + Cellular ยังมีความสำคัญมากสำหรับฟีเจอร์ใหม่ Family Setup

ระบบเซ็นเซอร์

Apple Watch Series 6, Apple Watch SE และ Apple Watch Series 3 ได้รับเซ็นเซอร์และมีฟีเจอร์เหมือนกันหลายอย่าง ตามรายการด้านล่าง

  • GPS/GNSS
  • NFC
  • Altimeter
  • Gyroscope
  • Accelerometer
  • Optical heart sensor
  • Ambient light sensor
  • Microphone
  • GymKit
  • 50M water resistance
  • Emergency SOS

ถึงแม้ Apple Watch ทั้ง 3 รุ่น จะมีเซ็นเซอร์อย่างเดียวกัน แต่ Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE ยังมีฟีเจอร์ที่เหนือขึ้นไปอีกระดับ เริ่มตั้งแต่ Optical heart sensor หรือ เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล ที่พัฒนามาเป็นรุ่นที่ 2 ซึ่งมีความแม่นยำมากขึ้น ขณะที่ Altimeter ก็เป็นมาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด ไมโครโฟนก็ยังรองรับแอพ Noise ที่สำคัญ Accelerometer ยังช่วยในฟีเจอร์ตรวจจับการล้ม ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดไม่รองรับ Apple Watch Series 3 ถึงแม้จะมีเซ็นเซอร์ประเภทเดียวกันก็ตาม

Apple Watch SE เหนือกว่า Apple Watch Series 3 ตรงที่มีเข็มทิศในตัว และ รองรับการโทรฉุกเฉินทั่วโลก แต่สำหรับ Apple Watch Series 6 ยังได้รับเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า ECG และ เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด SpO2

นอกจากนี้ Apple Watch Series 6 และ Apple Watch SE ยังมีความจุ 32GB ขณะที่ Apple Watch Series 3 มีความจุ 8GB

ราคา

ราคาเริ่มต้นสำหรับรุ่น GPS

  • Apple Watch Series 3 ราคา 6,400 บาท
  • Apple Watch SE ราคา 9,400 บาท
  • Apple Watch Series 6 ราคา 13,400 บาท

ราคาเริ่มต้นสำหรับรุ่น GPS + Cellular

  • Apple Watch SE ราคา 10,900 บาท
  • Apple Watch Series 6 ราคา 16,900 บาท

สรุป

Apple Watch Series 3 เป็นอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายที่เป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุด แต่ถ้าเทียบกับการออกแบบใหม่ เทคโนโลยีใหม่ Apple Watch SE เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด อย่างน้อยฟีเจอร์ตรวจจับการล้มก็สามารถช่วยชีวิตเจ้าของ Apple Watch มาแล้วหลายราย ขณะที่ Apple Watch Series 6 ก็ไม่ได้มีราคาสูงจนเกินไปสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอุปกรณ์ติดตามสุขภาพที่ทำงานได้สมบูรณ์แบบมากกว่าแค่ติดตามการออกกำลังกาย โดยเฉพาะเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า และเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด ที่สามารถตรวจจับสัญญาณของปัญหาสุขภาพในเบื้องต้นได้

ที่มา – MacWorld
https://www.flashfly.net/wp/314820



Tags: Apple WatchApple Watch SEApple Watch Series 3Apple Watch Series 6
ShareTweetShare

Related Posts

Apple เตรียมผลิต Apple Watch และ MacBook ในเวียดนาม เป็นครั้งแรก
iPhone

Apple เตรียมผลิต Apple Watch และ MacBook ในเวียดนาม เป็นครั้งแรก

August 17, 2022
watchOS 9 Public Beta 4 พร้อมอัปเดทแล้ว สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบของ Apple
iPhone

watchOS 9 Public Beta 4 พร้อมอัปเดทแล้ว สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบของ Apple

August 17, 2022
Apple Watch Series 8 Pro โดยพื้นฐานแล้วก็คือ Apple Watch Series X
iPhone

Apple Watch Series 8 Pro โดยพื้นฐานแล้วก็คือ Apple Watch Series X

August 7, 2022
Load More

Stay Connected

  • 32.7k Followers
  • 13.4k Subscribers
  • 1000 Subscribers
  • รีวิว HUAWEI nova Y70 จอใหญ่ 6.75 นิ้ว กล้องหลัง 48MP ความจุ 128GB แบตอึดสะใจ 6000mAh ชาร์จไว พร้อมใช้งาน LINE ได้ตามปกติแล้ว ราคาเพียง 5,999 บาท

    รีวิว HUAWEI nova Y70 จอใหญ่ 6.75 นิ้ว กล้องหลัง 48MP ความจุ 128GB แบตอึดสะใจ 6000mAh ชาร์จไว พร้อมใช้งาน LINE ได้ตามปกติแล้ว ราคาเพียง 5,999 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • หลุด!! ราคา iPhone 14 Series ทั้ง 4 รุ่น ปรับราคาขึ้นอีกราว 3,300 บาท เริ่มต้นราว 26,300 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max จะมาในราคาที่แพงกว่าเดิม คาดราคาเริ่มต้น 42,900 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0
  • ยลโฉมเครื่องดัมมี่ iPhone 14,iPhone 14‌ Max,iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro‌ Max ใหม่ล่าสุด (ชมคลิป)

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
Flashfly Dot Net

www.flashfly.net

Follow Us

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

iPhone 14 Pro จะมีราคาแพงขึ้นอีกประมาณ 3,590 บาท อ้างอิงจากนักวิเคราะห์ Daniel Ives

iPhone 14 Pro จะมีราคาแพงขึ้นอีกประมาณ 3,590 บาท อ้างอิงจากนักวิเคราะห์ Daniel Ives

August 17, 2022
Samsung ลดเป้าหมายการจัดส่งสมาร์ทโฟนในปีนี้ จาก 300 เหลือ 260 ล้านเครื่อง ต่ำกว่าปีที่แล้ว

Samsung ลดเป้าหมายการจัดส่งสมาร์ทโฟนในปีนี้ จาก 300 เหลือ 260 ล้านเครื่อง ต่ำกว่าปีที่แล้ว

August 17, 2022
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net.

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net.