นับถอยหลังอีกไม่กี่ชั่วโมง Apple ก็จะเริ่มถ่ายทอดสดกิจกรรม One More Thing ให้รับชมพร้อมกันทั่วโลก ในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน ตามเวลาในประเทศไทย นับเป็นกิจกรรมเสมือนจริงครั้งที่ 3 ของ Apple ถัดจากกิจกรรม Time Flies (15 กันยายน) และ Hi, Speed (13 ตุลาคม)
กิจกรรม Time Flies มีการเปิดตัว Apple Watch Series 6, Apple Watch SE, iPad Air รุ่นที่ 4, iPad รุ่นที่ 8, รวมถึงบริการ Apple Fitness+ และ Apple One
กิจกรรม Hi, Speed มีการเปิดตัว iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max, อุปกรณ์เสริม MagSafe และ HomePod mini
กิจกรรม One More Thing จะเปิดตัวอะไรบ้าง? เราได้สรุปมาให้แล้ว
Mac รุ่นแรกที่มาพร้อม Apple Silicon
Apple เคยประกาศไว้ในงาน WWDC 2020 เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ว่าจะเปิดตัว Mac รุ่นแรกที่มาพร้อม Apple Silicon ในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้น กิจกรรม One More Thing ในครั้งนี้ไฮไลท์จึงอยู่ที่ Mac รุ่นแรกที่มาพร้อม Apple Silicon
Apple Silicon คือ โปรเซสเซอร์ที่ Apple ออกแบบเอง โดยใช้พื้นฐาน ARM โดยยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของ Mac ทุกกลุ่ม จะถูกเปลี่ยนถ่ายไปใช้ Apple Silicon ภายในเวลา 2 ปี
คาดว่า Mac รุ่นแรกที่มาพร้อม Apple Silicon จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อป อย่าง MacBook Pro ขนาด 13 นิ้ว, MacBook Air และ MacBook Pro ขนาด 16 นิ้ว นอกจากนี้ ยังมี iMac แต่จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2021
MacBook ที่มาพร้อม Apple Silicon จะใช้ชิปประมวลผลที่มีพื้นฐานเดียวกับ A14 ที่พบใน iPad Air 4 และ iPhone 12 ถูกเรียกว่าอย่างไม่เป็นทางการว่า A14X ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่า เมื่อเทียบกับชิปของ Intel อาจให้อายุการใช้งานยาวนานถึง 20 ชั่วโมง บนดีไซน์ที่เล็กและเบาลง
macOS Big Sur พร้อมอัพเดท
Apple เปิดตัว macOS Big Sur ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดสำหรับ Mac ที่งาน WWDC 2020 ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และผู้เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบของ Apple ได้ดาวน์โหลดเวอร์ชั่น Beta ไปใช้งานแล้ว จึงคาดว่า Apple จะเปิดเผยหรืออาจจะปล่อย macOS Big Sur ให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัพเดทในกิจกรรม One More Thing
Apple ระบุว่า macOS Big Sur มาพร้อมการอัพเดทครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ และประกอบด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ Apple silicon ได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ นักพัฒนาสามารถแปลงแอพที่มีอยู่เดิมให้ทำงานบน Apple silicon ได้อย่างง่ายดาย พร้อมได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทรงพลังและประสิทธิภาพได้ทันที และถือเป็นครั้งแรกที่นักพัฒนาสามารถทำให้แอพ iOS และ iPadOS ทำงานบน Mac ได้ โดยไม่ต้องปรับแก้ส่วนใดๆ
AirTags
AirTags เคยถูกอ้างว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ iPhone 11 ในปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้น และเคยถูกลือว่าอาจจะเปิดตัวในปลายปีนี้ ซึ่งบางทีอาจจะเปิดตัวในกิจกรรม One More Thing
AirTags ถูกลือว่าเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่มีลักษณะเป็นวงกลมแบน รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และ Ultra-wideband (UWB) เพื่อให้แอพ Find My สามารถค้นหาและติดตามตำแหน่งของ AirTags ทำงานร่วมกับแอพ Find My ใน iPhone, iPad, Mac เพื่อใช้ค้นหาสิ่งของที่ติดกับ AirTags และเมื่อเข้าใกล้ตำแหน่ง ก็จะแสดงแผนที่แบบ AR เพื่อให้ไปถึงตำแหน่งได้แม่นยำขึ้น รวมถึงสามารถสั่งให้ AirTags ส่งสัญญาญเสียงได้ เมื่อเข้าไปใกล้ ช่วยให้ผู้ใช้งานมองหาสิ่งของที่ทำหายได้ง่ายขึ้น
AirPods Studio
AirPods Studio หูฟังแบบครอบหูระดับพรีเมียมของ Apple ที่ถูกลือมาอย่างยาวนานไม่ต่างจาก AirTags และยังถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลึกลับของ Apple โดยมีรายงานว่าจะมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ เวอร์ชั่นพรีเมียม จะมีราคา 600 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 18,690 บาท และเวอร์ชั่นสปอร์ต จะสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นในราคา 350 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 10,890 บาท
AirPods Studio เวอร์ชั่นพรีเมียม จะผลิตด้วยวัสดุคุณภาพจากโลหะและหนัง ที่ครอบหูแบบแม่เหล็ก ส่วนเวอร์ชั่นสปอร์ตจะใช้วัสดุที่มีต้นทุนถูกกว่า
AirPods Studio ไม่มีช่องเสียบหูฟัง แต่มีพอร์ต USB-C และสามารถสวมใส่ได้ทั้ง 2 ข้าง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะสวมถูกข้างซ้าย-ขวาหรือไม่ เพราะหูฟังจะปรับเสียงซ้าย-ขวาให้ถูกต้องโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม AirTags และ AirPods Studio ยังอยู่บนความไม่แน่นอน เพราะมีข่าวลือว่าอาจจะเลื่อนการเปิดตัวไปอยู่ในช่วงต้นปี 2021 แต่บางที Apple อาจจะพร้อมวางจำหน่ายภายในปลายปีนี้ก็เป็นได้
ทั้งนี้ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดกิจกรรม One More Thing ได้ง่ายๆ ผ่าน YouTube ตามคลิปวิดีโอด้านล่าง เริ่มเวลา 01.00 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ตามเวลาในประเทศไทย
ที่มา – iPhoneHacks
https://www.flashfly.net/wp/321617