มาแล้วสมาร์ทโฟนราคาสุดประหยัดจาก Vivo ที่แฟนๆรอคอย หลังจาก Vivo Y12 ได้รับการเปิดตัวในปีก่อน Vivo ก็ได้ปล่อยรุ่นน้องอย่าง Vivo Y12s ออกมาทำตลาดแล้ว โดยมีดีไซน์ด้านหน้าที่คล้ายกัน ด้วยจอแสดงผลแบบหยดน้ำ แต่ในรุ่นใหม่มีหน้าจอใหญ่กว่า และยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ขอบด้านข้าง ทำให้การปลดล็อคมีความสะดวกรวดเร็ว แต่นอกเหนือจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ทีมงาน @flashfly พร้อมรีวิวให้อ่านแล้ว
สเปกหลักของ Vivo Y12s
- จอแสดงผล Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35
- ความจำ RAM 3GB + ROM 32GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 (Funtouch OS 11)
- กล้องคู่หลัง 13MP AI Dual Camera
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- การเชื่อมต่อ 4G, Wi-Fi (2.4/5GHz), Bluetooth 5.0, Micro USB (USB 2.0)
- ระบบนำทาง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo
- เซ็นเซอร์ Fingerprint, Accelerometer, Ambient Light, Proximity, E-compass, Virtual Gyroscope
- แบตเตอรี่ 5000mAh การชาร์จ 10W
- ขนาดบอดี้ 164.41 × 76.32 × 8.41 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 191 กรัม
แกะกล่อง Vivo Y12s
Vivo Y12s ถูกเก็บไว้ในกล่องสีทูโทน (สีขาว/สีน้ำเงิน) ไม่มีการพิมพ์รูปภาพสมาร์ทโฟนไว้บนกล่อง มีแต่ชื่อรุ่น Y12s ขนาดใหญ่ชัดเจน และโลโก้ Vivo ที่ด้านล่าง มุมบนกล่องระบุความจำ RAM 3GB + ROM 32GB
ด้านหลังจะระบุฟีเจอร์เด่นของรุ่นนี้เอาไว้นั่นก็คือแบตเตอรี่ 5000 mAh มีสแกนนิ้วมือด้านข้าง และกล้องหลังคู่ AI Dual Camera
เมื่อยกฝากล่องออกไป จะพบกับซองเอกสาร ซึ่งทำสีทูโทนเช่นกัน
นอกจากคู่มือการใช้งาน ยังแนบเข็มจิ้มช่องใส่ซิมการ์ด และแถมเคสใสมาให้ด้วย
ใต้ซองเอกสารเป็นชั้นวางสมาร์ทโฟน ที่มีแผ่นกระดาษรองรับไว้ โดยติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว
ชั้นล่างสุดเป็นช่องเก็บสายเคเบิล Micro USB และอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ USB Power Adapter (5V-2A)
ดีไซน์สวยงาม
Vivo Y12s มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Glacier Blue ได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาน้ำแข็งแอนตาร์กติกที่อยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ สีฟ้าอ่อนเปล่งประกายแวววาว เต็มไปด้วยความรู้สึกที่สดชื่น และความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ที่โรแมนติก
และ Phantom Black ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากความคลาสสิกของหินโมราสีดำ ผสามผสานกับสีน้ำเงินเข้มเข้าด้วยกัน ให้ผิวสัมผัสเหมือนอัญมณีที่สง่างาม
มุมมองด้านหน้ายังมีส่วนคล้ายกับ Vivo Y12 ที่ออกมาในปีที่แล้ว ด้วยจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว (รุ่นก่อนมี ขนาด 6.35 นิ้ว)
จอแสดงผลของ Vivo Y12s ยังมีรอยบากแบบหยดน้ำเหมือนกับรุ่นก่อน ซึ่งใช้เป็นพื้นที่ติดตั้งกล้องเซลฟี่ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 ลำโพงสนทนาซ่อนอยู่ในตะแกรงซึ่งวางอยู่สุดขอบบน เหนือกล้องเซลฟี่
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.41 มิลลิเมตร มีช่องวางการ์ดแบบ 3 ช่อง สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ช่อง และยังใส่การ์ด MicroSD ได้อีกช่อง
อีกข้างมีปุ่มปรับระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์ที่มีขนาดใหญ่ เพราะติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมไว้ด้วย
ด้านล่างจะพบช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, ช่องต่อ Micro USB และลำโพง
ส่วนด้านบนไม่มีรูหรือปุ่มกดใดๆ
จอแสดงผล Halo FullView Display
Vivo Y12s มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display ที่มีดีไซน์แบบเต็มหน้าจอ โดยใช้จอแบบ LCD IPS ให้มุมมองกว้างชัดเจน ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว จึงรับชมภาพจากวิดีโอและเล่นเกมได้อย่างเต็มตา และยังปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีกรองแสงสีฟ้า ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
สแกนนิ้วด้านข้าง
Vivo Y12s ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ขอบด้านข้างรวมกับปุ่มเพาเวอร์ นั่นหมายความว่า เวลากดปุ่มเพื่อปลุกหน้าจอ ก็จะเป็นการยืนยันตัวตนไปด้วยในตัว ทำให้ขั้นตอนการปลดล็อคไปจนถึงปลุกหน้าจอเป็นไปอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 0.23 วินาที
แตกต่างจาก Vivo Y12 ที่ออกมาในปีก่อน ซึ่งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ด้านหลัง ทำให้ต้องการปลดล็อคต้องทำ 2 ขั้นตอน คือ กดปุ่มเพาเวอร์ แล้วจึงวางนิ้วที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ทำให้การปลดล็อคล่าช้ากว่ารุ่นใหม่
Face Wake
นอกจากการสแกนลายนิ้วมือ Vivo Y12s ยังมีวิธีปลดล็อคด้วยฟีเจอร์ Face Wake หรือใช้กล้องเซลฟี่ช่วยสแกนใบหน้า ถือเป็นระบบยืนยันตัวตนอีกวิธี ที่ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายไม่แพ้การสแกนลายนิ้วมือ
กล้องคู่หลัง 13 ล้านพิกเซล
Vivo Y12s ได้รับกล้องหลัง 2 ตัว พร้อมแฟลช LED วางไว้ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยเหนือแฟลชจะมองเห็นรูปภาพเลนส์กล้อง ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดคิดว่ามีกล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 พร้อมฟีเจอร์ Face Beauty และ Filters
- กล้องรอง 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 เป็นเลนส์ Bokeh ช่วยถ่ายภาพในโหมด Portrait
กล้องของ Vivo Y12s สามารถซูมได้ 1x ,2x และสูงสุด 4x แบบดิจิตอล ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
กล้องคู่หลัง รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait แบบหน้าชัดลังละลายได้สวยงาม ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080P สำหรับโหมดถ่ายภาพต่างๆก็มีมาให้งานทั้ง Live Photo ,Panorama, Slo-Mo และ Time-Lapse หรือ Doc
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
Vivo Y12s มาพร้อมกล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับโหมดถ่ายภาพ Face Beauty ช่วยปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
และยังสามารถการถ่ายภาพในโหมด Portrait แบบหน้าชัดหลังละลายได้อย่างสวยงามถึงแม้จะใช้กล้องตัวเดียวก็ตาม
แน่นอนว่าฟีเจอร์เฉพาะของ Vivo ก็ยังคงใส่มาในรุ่นนี้ด้วยกับ Posture ผู้ช่วยสำคัญในการไกด์ท่าทางในการโพสท่าถ่ายภาพแบบนายแบบนางแบบมือโปร
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้ารองรับความละเอียดสูงสุดที่ 1080P นอกจากนี้กล้องหน้าของ Vivo Y12s สามารถสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้ด้วย ผ่านฟีเจอร์ Face Wake
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh
Vivo Y12s มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ มาพร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงานด้วย AI ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น สามารถดูวิดีโอระดับ HD บน YouTube ได้นานสูงสุด 16.3 ชั่วโมง เล่นเกมออนไลน์อย่าง PUBG Mobile ได้นานสูงสุด 8.9 ชั่วโมง
ด้วยความจุแบตเตอรี่ที่มากถึง 5000mAh ทำให้ Vivo Y12s สามารถใช้งานเป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นได้ (5V/1A) โดยจะต้องเปิดการตั้งค่าการใช้งานก่อนที่จะใช้ฟังก์ชัน OTG
ประสิทธิภาพ
Vivo Y12s ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio P35 ประกอบด้วยซีพียู Arm Cortex-A53 แบบ 64-bit Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.3GHz พร้อมด้วยจีพียู IMG PowerVR GE8320, 680MHz ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแอพโซเชี่ยล ท่องเว็บไซต์ ดูหนังออนไลน์ และมาพร้อม Multi-Turbo 3.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม
ด้านความจำ ได้รับ RAM 3GB จับคู่กับ ROM 32GB และสนับสนุนการ์ด MicroSD สูงสุด 256GB
Multi-Turbo 3.0
Multi-Turbo 3.0 ช่วยให้ Vivo Y12s ได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีขึ้น ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสมาร์ทโฟน ซึ่งประกอบด้วย Center Turbo และ AI Turbo ทำงานร่วมกันเพื่อลดปัญหาการหยุดชะงักและความล่าช้าอย่างมีประสิทธิภาพ จัดสรรการประมวลผลของระบบและหน่วยความจำอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแอพพลิเคชันจำนวนมากเที่เปิดใช้งานพร้อมกัน
Funtouch OS 11
Vivo Y12s ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 สวมทับด้วย Funtouch OS 11 ที่มีฟีเจอร์ใหม่อย่าง AI Albums ที่ผสมผสานความทรงจำและอารมณ์ให้มากขึ้น อัลบัมจะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ให้ภาพถ่ายไม่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป และยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดกลุ่มรูปภาพตามเวลา สถานที่ และ เหตุการณ์ เพื่อให้ค้นหารูปภาพได้ง่ายดาย
นอกจากนี้ Funtouch OS 11 ยังมาพร้อม iManager ผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Vivo Y12s คอยตั้งค่าดูแลระบบต่างๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะในสมาร์ทโฟน หรือสแกนหาปัญหาในเวลากลางคืน ทำให้สมาร์ทโฟนทำงานได้อย่างราบรื่นเหมือนเครื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา
สรุป
Vivo Y12s ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานที่มองหาความคุ้มค่า โดยมีจุดเด่นที่จอแสดงผลขนาดใหญ่ รับชมความบันเทิงและเล่นเกมได้อย่างเต็มตา ชิปประมวลผลเพียงพอสำหรับการเล่นเกม กล้องคู่หลังที่ถ่ายภาพแนว Portrait พร้อมเอฟเฟกต์ Bokeh ที่สวยงาม และยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh จึงให้อายุการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการประหยัดแบตเตอรี่
Vivo Y12 วางจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป ในราคา 4,299 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Glacier Blue และ Phantom Black