ถึงแม้ Amazfit GTS ไม่ได้เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุดของ Amazfit แต่นั่นก็เป็นข้อดีเพราะทำให้มีราคาถูกลง สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย และง่ายยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อซื้อในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ผ่านแคมเปญ 12.12 บนร้านค้าออนไลน์ Amazfit official Store ใน Shopee ดังนั้น ทีมงาน @flashfly จึงถือโอกาสนำ Amazfit GTS มารีวิว เพื่อดูว่ามีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง และสมควรที่จะซื้อหรือไม่ในช่วงท้ายปีนี้
สเปกหลักของ Amazfit GTS
- จอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.65 นิ้ว
- ติดตามการออกกำลังกาย 12 โหมด
- เซ็นเซอร์ BioTracker PPG Bio-Tracking Optical Sensor, 6-axis acceleration sensor, 3-axis geomagnetic sensor, Air pressure sensor, Ambient light sensor
- การเชื่อมต่อ GPS, Bluetooth 5.0
- รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android 5.0 ขึ้นไป หรือ iOS 10 ขึ้นไป
- ป้องกันน้ำในระดับ 5 ATM
- ขนาดตัวเรือน 43.25 x 36.25 x 9.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 24.8 กรัม
- แบตเตอรี่ Lithium Ion Polymer 220mAh
อุปกรณ์ภายในกล่อง Amazfit GTS
Amazfit GTS มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ Obsidian Black, Desert Gold, Steel Blue, Rose Pink, Vermillion Orange และ Lava Grey โดยทีมงาน @flashfly ได้นำสีทอง Desert Gold มารีวิวให้ชม ซึ่งถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพ Amazfit GTS ตามสีจริงที่อยู่ภายใน
กล่องจริงของ Amazfit GTS เป็นกล่องสีขาวสะอาดตา มีเพียงโลโก้ Amazfit ติดอยู่ด้านหน้า นอกจากสมาร์ทวอทช์ ภายในกล่องจะแถมสายชาร์จมาให้ด้วย และคู่มือแนะนำการใช้งาน
สายชาร์จ Amazfit GTS ที่แถมมาให้ในกล่อง เป็นแบบแม่เหล็ก สะดวกในการชาร์จเพียงวางด้านหลังของสมาร์ทวอทช์ลงไป
ดีไซน์
ตัวเรือนของ Amazfit GTS ผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียมอัลลอย มีให้เลือกมากถึง 6 สี ได้แก่ Obsidian Black, Desert Gold, Steel Blue, Rose Pink, Vermillion Orange และ Lava Grey
Amazfit GTS มาพร้อมหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมขอบมุมโค้งมน ใช้จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.65 นิ้ว ได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla 3 และมีคุณสมบัติป้องกันรอยนิ้วมือ
วัสดุด้านหลังเป็นโพลีเมอร์ มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และหมุดแม่เหล็ก 2 จุด สำหรับแนบติดกับที่ชาร์จแบตเตอรี่
ด้านข้างตัวเรือนมีความบาง 9.4 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มกดมาให้เพียงปุ่มเดียว
สายรัดข้อมือผลิตด้วยวัสดุซิลิโคนคุณภาพสูงออกแบบมาเหมือนสายนาฬิกาข้อมือทั่วไป โดยมีความยาว 87 – 120 มิลลิเมตร กว้าง 20 มิลลิเมตร สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ง่ายๆ เพียงเลื่อนสลักที่ด้านหลัง
Amazfit GTS ยังออกแบบมาให้ป้องกันน้ำได้ในระดับ 5 ATM หรือ 50 เมตร สามารถสวมใส่ลงไปว่ายน้ำในสระได้ ดำน้ำตื้นได้แบบ Snorkeling กันฝนได้ แต่ไม่ควรนำลงไปดำน้ำลึก และไม่ควรสัมผัสกับน้ำร้อนจัด
ดีไซน์ในภาพรวมของ Amazfit GTS ถือว่ามีความสวยงามเรียบหรู โดยมีภาพลักษณ์ที่เหมาะสำหรับการติดตามสุขภาพมากกว่าทำกิจกรรม แต่ก็ใส่ออกกำลังกายได้ เพราะสามารถติดตามการออกกำลังกายได้ 12 โหมด
จอแสดงผล
Amazfit GTS มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ระบบสัมผัส ความละเอียด 348 x 442 พิกเซล ความหนาแน่น 341 พิกเซลต่อนิ้ว ขอบเขตสี NTSC 100% และรองรับโหมด Always-On Display สามารถดูเวลาได้ทันทีแบบนาฬิกาข้อมือทั่วไป โดยตั้งค่าได้ว่าจะดูเวลาแบบอะนาล็อกหรือดิจิตอล
Amazfit GTS ใช้ดีไซน์หน้าปัดทรงสี่เหลี่ยม ที่สามารถแสดงข้อมูลได้ดีกว่าหน้าปัดวงกลม สามารถปรับแต่งวิดเจ็ตได้มากถึง 7 รายการ จากทั้งหมด 17 ฟังก์ชั่น มีหน้าปัดให้เลือกเปลี่ยนได้หลายแบบ มีเซ็นเซอร์ช่วยปรับความสว่างหน้าจอให้อัตโนมัติ ตามสภาพแสงรอบข้าง และยังครอบทับด้วยกระจกขอบมุมโค้ง 2.5D เพิ่มความสวยงามให้กับตัวเรือน
ติดตามการออกกำลังกาย
Amazfit GTS สามารถติดตามการออกกำลังกายได้ 12 รูปแบบ ได้แก่ เดิน, วิ่งกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานในร่ม, วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า, เครื่องเดินวงรี, ออกกำลังกายแบบฟรีสไตล์, สกี, เดินป่า, วิ่งเทรล, ว่ายน้ำในสระ และ ว่ายน้ำในพื้นที่เปิดโล่ง (Amazfit GTS ป้องกันน้ำในระดับ 5 ATM จึงสามารถสวมใส่ลงไปว่างน้ำในสระได้อย่างไร้กังวล)
วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวัน
Amazfit GTS ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์ Biotracker PPG Biological Tracking Optical Sensor ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Huami สามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความแม่นยำสูง และตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจในระหว่างการออกกำลังกาย ที่สำคัญก็คือ Amazfit GTS จะแจ้งเตือนผู้สวมใส่ทันที เมื่อตรวจพบว่ามีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงกว่าปกติ
Amazfit GTS ยังมีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพการนอนหลับ, แจ้งเตือนให้ผู้สวมใส่ลุกขึ้นเพื่อยืดเส้นยืดสายหากพบว่านั่งเป็นเวลานาน และ คำนวณแคลอรี่ได้ เพื่อให้ผู้สวมใส่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและปรับปรุงสุขภาพให้ดีขึ้น
ระบบประเมินสุขภาพ
Amazfit GTS มีระบบประเมินสุขภาพ Huami-PAI Health Assessment System ที่ผ่านการศึกษาจากอาสาสมัครถึง 45,000 คน และผ่านการวิจัยเป็นเวลากว่า 25 ปี โดยศาสตราจารย์ Ulrik Wisloff จากคณะแพทยศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนอร์เวย์
Amazfit GTS จะนำคะแนนที่ผู้สวมใส่ได้รับจากการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายในแต่ละวัน มาทำการคำนวณเป็นคะแนน ถ้าหากได้คะแนน 100 PAI ขึ้นไป หมายถึงผู้สวมใส่มีสุขภาพดี มีโอกาสห่างไกลจากโรคหัวใจ และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั่วไป
จับคู่กับสมาร์ทโฟน
เมื่อจับคู่ Amazfit GTS กับสมาร์ทโฟน จะช่วยให้ผู้สวมใส่รับการแจ้งเตือนจากแอพต่างๆ จากสมาร์ทโฟนได้ ควบคุมเพลงจากสมาร์ทโฟน ตรวจสอบสภาพอากาศ การตามหาสมาร์ทโฟน เปลี่ยนหน้าปัดได้หลากหลายแบบ รวมถึงรองรับการแจ้งเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้า
แบตเตอรี่อยู่นาน 14 วัน
Amazfit GTS มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium Ion Polymer ความจุ 220mAh ให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 14 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไปที่มีการติดตามการออกกำลังกายและวัดอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถอยู่ได้นานราว 1 สัปดาห์แบบสบายๆ
หรือถ้าปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth และไม่มีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ จะสามารถให้พลังงานได้นานถึง 40 วัน สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ จะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง เพื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100%
สรุป
ภายใต้ภาพลักษณ์ที่เรียบหรู ที่ดูเหมือนจะเหมาะกับชุดทำงาน ชุดลำลอง และสวมใส่ออกงานได้แทนนาฬิากาข้อมือทั่วไป แต่ Amazfit GTS ก็ทำหน้าที่ติดตามการออกกำลังกายได้ดีทีเดียว และให้ข้อมูลที่ละเอียด เมื่อออกกำลังกายในที่แจ้งไม่ว่าจะเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน จะมี GPS คอยติดตามเส้นทาง จึงสามารถให้ข้อมูลด้านระยะทาง ความเร็ว รวมถึงบอกอัตราการเต้นของหัวใจ ได้อย่างแม่นยำ
สรุปแล้ว Amazfit GTS ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ที่สามารถติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ กันน้ำได้ดี แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนาน ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จบ่อย เหมาะสำหรับผู้สวมใส่ที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ดีไซน์สวยหรู และไม่ได้เน้นสวมใส่ไปทำกิจกรรมกลางแจ้งแบบสุดขีด
ปัจจุบัน Amazfit GTS วางจำหน่ายในราคา 3,499 บาท แต่ถ้าหากต้องการเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่านั้น สามารถสั่งซื้อผ่านแคมเปญ 12.12 บนร้านค้าออนไลน์ Amazfit official Store ใน Shopee จะสามารถซื้อ Amazfit GTS ได้ในราคาเพียง 2,799 บาท เมื่อทำรายการสั่งซื้อในวันที่ 12 ธันวาคม 2563 เท่านั้น >> https://bit.ly/33spbTq