ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา HUAWEI เป็นอีกแบรนด์ที่มีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่น่าเชื่อว่า WATCH 3 Series ถูกเว้นระยะห่างจาก WATCH 2 นานถึง 4 ปี และตอนนี้ก็พร้อมเปิดตัวในประเทศไทยแล้ว โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ WATCH 3 กับ WATCH 3 Pro ทั้งคู่ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง ดีไซน์หรูหราพรีเมียม อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีและเซ็นเซอร์มากมายที่สามารถติดตามสุขภาพได้อย่างครบครัน
สเปก HUAWEI WATCH 3
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล (326PPI)
- การเชื่อมต่อ 4G (eSIM), Wi-Fi (2.4GHz), Bluetooth 5.2, NFC, GPS
- เซ็นเซอร์ Acceleration sensor, Gyro sensor, Geomagnetic sensor, Optical heart rate sensor, Ambient light sensor, Barometric pressure sensor
- วัสดุตัวเรือนสแตนเลสสตีล, ด้านหลังเซรามิค, ด้านหน้ากระจกโค้ง 3D
- วัสดุสายนาฬิกา ยาง Fluoroelastomer (รุ่น Active Edition) หรือ หนัง (รุ่น Classic Edition)
- ขนาดตัวเรือน 46.2 x 46.2 x 12.15 มิลลิเมตร (ไม่รวมเซ็นเซอร์)
- น้ำหนักประมาณ 333 กรัม
- แบตเตอรี่ 450mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 3 วัน
- รองรับการชาร์จไร้สาย
- ป้องกันน้ำในระดับ 5ATM
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS
- สนับสนุนการจับคู่กับอุปกรณ์ Android 6.0 หรือสูงกว่า และ iOS 9.0 หรือสูงกว่า
แกะกล่อง HUAWEI WATCH 3
HUAWEI WATCH 3 Series มาในกล่องสีดำหน้ากล่องระบุชื่อรุ่น WATCH 3 และพิมพ์รูปภาพสมาร์ทวอทช์ไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีการติดโลโก้ AppGallery มาให้ด้วย นั่นหมายความว่า HUAWEI WATCH 3 Series มาพร้อม AppGallery ในตัว สามารถติดตั้งแอปลงสมาร์ทวอทช์ได้โดยตรงจากข้อมือ ไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนอีกต่อไป
ภายในกล่อง จะพบกับสมาร์ทวอทช์, แท่นชาร์จพร้อมสายเคเบิล, คู่มือการใช้งาน, ข้อมูลความปลอดภัย และ ใบรับประกันสินค้า
ดีไซน์หรูหราพรีเมียม
ตัวเรือนของ HUAWEI WATCH 3 ผลิตจากสแตนเลสสตีล ด้านหลังใช้วัสดุเซรามิค ป้องกันรอยหน้าจอด้วยกระจกโค้ง 3D ส่วนสายนาฬิกา มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ รุ่น Active Edition ใช้วัสดุยาง Fluoroelastomer และรุ่น Classic Edition จะใช้สายหนังสีน้ำตาล
ดีไซน์ในภาพรวมให้ความรู้สึกเหมือนนาฬิกาข้อมือระดับพรีเมียมด้วยการใช้หน้าปัดกลม และใช้สายนาฬิกาที่มีระบบล็อคเหมือนกับสายนาฬิกาข้อมือทั่วไป ทำให้ข้อมือดูดีขึ้น ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหล และให้ความคมชัดแม้ใช้งานภายนอกอาคาร
ด้านข้างมีปุ่มกดแบบปุ่มเม็ดมะยม ที่สามารถหมุนขึ้นลงเพื่อย่อหรือขยายภาพบนหน้าจอได้ ช่วยให้มองเห็นไอคอนแอปต่างๆ ได้ถนัดขึ้น รวมถึงใช้เลื่อนดูฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงใช้กดเพื่อเลือกฟีเจอร์ที่ต้องการ และยังมีปุ่มแบนๆ ด้านล่าง สามารถตั้งค่าให้เปิดแอปหรือหรือฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยได้
ขอบด้านข้างตัวเรือนยังติดตั้งลำโพงที่ทรงพลังอย่างมาก และไมโครโฟนมาให้ด้วย สำหรับใช้งานฟังก์ชั่นการโทร รวมถึงบันทึกเสียง และ ฟังเพลง
ด้านหลังตัวเรือนเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์ต่างๆ สำหรับตรวจสอบสุขภาพ ประกอบด้วยไฟ LED 6-in-1 และ โฟโตไดโอด 4 ตัว ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ TruSeen 4.5+ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
จอสัมผัสคมชัดหน้าปัดเคลื่อนไหวได้
HUAWEI WATCH 3 Series ใช้จอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ขนาด 1.43 นิ้ว ความหนาแน่น 326 พิกเซลต่อนิ้ว รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 60Hz สามารถตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหลเหมือนหน้าจอของสมาร์ทโฟน และให้ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต จึงมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ในที่กลางแจ้ง
HUAWEI WATCH 3 Series มีหน้าปัดให้เลือกให้เลือกใช้งานมากกว่า 30 แบบ และสามารถเปลี่ยนหน้าปัดได้ง่ายๆ เพียงแตะนิ้วบนหน้าปัดค้างไว้ ก็จะพบกับหน้าปัดต่างๆ ที่มีอยู่ในสมาร์ทวอทช์ ซึ่งมีความน่าสนใจที่ Interactive Watch Faces เป็นหน้าปัดที่แสดงภาพเคลื่อนไหวได้ และมีหน้าปัดที่เป็นเกมพินบอลให้เล่นอย่างง่าย
ผู้ใช้งานสามารถสร้างหน้าปัดของตัวเองได้ด้วยฟีเจอร์ DIY Watch Faces โดยนำภาพถ่ายมาใช้เป็นหน้าปัด หรือ จะวิดีโอที่บันทึกจากสมาร์ทโฟน ความยาว 5 – 10 วินาที มาใช้เป็นหน้าปัดก็ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดหน้าปัดเพิ่มเติมได้จาก HUAWEI Watch Face Store ซึ่งมีหน้าปัดให้เลือกมากกว่า 1,000 แบบ
วัดระดับออกซิเจนในเลือด SpO2
ฟีเจอร์วัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 กลายเป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นอย่างมากในสมาร์ทวอทช์ปัจจุบัน เนื่องจากค่า SpO2 สามารถบ่งบอกสุขภาพของระบบทางเดินหายใจ โดยใช้เทคโนโลยีแสงขั้นสูงเพื่อตรวจจับโมเลกุลออกซิเจนในเลือดได้อย่างแม่นยำ
บุคคลที่มีสุขภาพแข็งแรงปกติควรมีค่า SpO2 หรือ ระดับออกซิเจนในเลือด อยู่ในช่วง 95 ถึง 100% ถ้าระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ต่ำกว่า 95% แสดงว่าร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะพร่องออกซิเจน และถ้าระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ต่ำกว่า 90% อาจหมายถึงมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับปอดและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด
วัดอุณหภูมิร่างกายได้ทันทีที่ต้องการ
HUAWEI WATCH 3 Series มาพร้อมฟีเจอร์ Skin Temperature Detector สำหรับตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกาย ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่าผู้สวมใส่มีอาการเป็นไข้หรือไม่ ยิ่งในช่วงวิกฤตด้านสุขภาพ ณ เวลานี้ อาจบ่งชี้ว่าผู้ที่มีอุณหภูมิของร่างกายสูง 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป อาจได้รับเชื้อ COVID-19 ด้วย ดังนั้น การหมั่นตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายอยู่เสมอ ก็ช่วยเตือนปัญหาสุขภาพในเบื้องต้นได้
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ร่างกายมีอุณหถูมิสูงกว่าปกติ อาจไม่ได้บ่งชี้ว่าจะต้องเป็นไข้เสมอไป เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ร่างกายมีอุณหถูมิสูงขึ้น และการมีไข้ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าจะต้องได้รับเชื้อ COVID-19 เสมอไป
ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ
HUAWEI WATCH 3 Series มาพร้อมเทคโนโลยีการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ TruSeen 4.5+ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยใช้ LED 6-in-1 และโฟโตไดโอด 4 ตัว เพื่อให้เซ็นเซอร์รับแสงได้มากขึ้น และใช้เลนส์กระจกแซฟไฟร์ช่วยให้แสงส่องผ่านได้ดีขึ้น แต่ใช้พลังงานน้อยลง โดยทำงานร่วมกับอัลกอริทึมขั้นสูงเพิ่มความแม่นยำในการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะคอยตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา 24 ชั่วโมง หรือ ตรวจสอบด้วยตัวเองในระหว่างออกกำลังกาย
นอกจากนี้ HUAWEI WATCH 3 Series ยังมีฟีเจอร์ติดตามคุณภาพการนอนหลับ และติดตามระดับความเครียด ที่มาพร้อมฟีเจอร์ฝึกกำหนดลมหายใจ เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถควบคุมอารมณ์ และผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
ติดตามการออกกำลังกาย
ถึงแม้ภาพลักษณ์จะดูหรูหรา แต่สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ของ HUAWEI ก็สามารถสวมใส่เพื่อติดตามการออกกำลังกายได้ แต่แนะนำให้เปลี่ยนสายนาฬิกาเป็นแบบยาง เนื่องจากมีความทนทานต่อเหงื่อได้ดีกว่าสายหนัง
HUAWEI WATCH 3 Series รองรับการออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด ครอบคลุมกีฬาเกือบทุกชนิด ทั้งในร่วมและกลางแจ้ง รวมถึงการออกกำลังกายกับเครื่องรออกกำลังกายตามฟิตเนส และสามารถติดตามการออกกำลังกายโดยอัตโนมัติ 6 ประเภท
HUAWEI WATCH 3 Series ใช้เซ็นเซอร์ Acceleration และ Gyro เพื่อตรวจจับการออกกำลังกาย ช่วยในการนับก้าว คำนวณอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ ระยะเวลาที่ลุกขึ้นยืน รวมไปถึงสามารถระบุกิจกรรมปัจจุบันได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมี GPS สามารถติดตามเส้นทางและระยะทางในการออกเดิน วิ่ง หรือ ปั่นจักรยานกลางแจ้ง
ตรวจจับการล้ม
HUAWEI WATCH 3 Series สามารถตรวจจับการล้มที่รุนแรงได้ เมื่อพบว่าผู้สวมใส่ล้มลง และไม่มีการตอบสนองนาน 1 นาที หน้าจอจะแสดงปุ่ม Emergency SOS เพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือทันที โดยสมาร์ทวอทช์จะโทรออกไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ตั้งค่าไว้ในแอปพลิเคชัน HUAWEI Health หรือ ใช้วิธีกดปุ่มเม็ดมะยม 5 ครั้งติดกันก็สามารถติดต่อบริการฉุกเฉินได้เช่นกัน
HUAWEI AppGallery
HUAWEI WATCH 3 Series ได้รับการติดตั้ง HUAWEI AppGallery มาให้แล้ว สามารถเข้าไปค้นหาและดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เนื่องจาก WATCH 3 กับ WATCH 3 Pro สนับสนุน eSIM จึงสามารถดาวน์โหลดแอป รวมถึงใช้งานฟังก์ชั่นการโทร รับ-ส่งข้อความ ได้จากข้อมือโดยตรง
HUAWEI AppGallery ในสมาร์ทวอทช์มีแอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจอย่าง HUAWEI Music ที่มีคลังเพลงให้ฟังมากกว่า 20,000 เพลงจากค่าย GMM GRAMMY และจะเพิ่มเพลงจากค่ายอื่นให้อีกในอนาคต หรือ ต้องการฟังวิทยุก็ทำได้ผ่านแอป Coolism วิทยุออนไลน์จากคลื่น FM93
HUAWEI AppGallery ในสมาร์ทวอทช์ ยังมีแอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจอีกมากมายที่อยู่ในระหว่างพัฒนา และจะปล่อยออกมาให้ดาวน์โหลดภายในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นแอปที่ช่วยยกระดับสุขภาพให้ดีขึ้น หรือแอปที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ที่ไม่ต้องรอก็คือแอปพลิเคชัน Note ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถบันทึกเสียงลงบนสมาร์ทวอทช์ได้ง่ายๆ
แบตเตอรี่งานยาวนาน รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว
โดย HUAWEI WATCH 3 มีความจุแบตเตอรี่ 450mAh ให้อายุการใช้งานยาวนาน 14 วัน ในโหมด Life (เน้นใช้งานในรูปแบบนาฬิกาข้อมือ) และให้อายุการใช้งานยาวนาน 3 วัน ในโหมด Smart (เน้นใช้งานติดตามสุขภาพ) ขณะที่ HUAWEI WATCH 3 Pro ได้รับแบตเตอรี่ความจุ 790mAh ให้อายุการใช้งานยาวนาน 21 วัน ในโหมด Life และให้อายุการใช้งานยาวนาน 5 วัน ในโหมด Smart
HUAWEI WATCH 3 Series ทั้ง 2 รุ่น รองรับการชาร์จแบบเตอรี่ไร้สาย แถมอุปกรณ์ชาร์จไร้สายมาให้ในกล่อง สามารถแนบติดกับด้านหลังของสมาร์ทวอทช์ได้สะดวก หรือ นำไปวางบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่รองรับการชาร์จแบบ Reverse Wireless Charging
นอกจากนี้ HUAWEI WATCH 3 และ WATCH 3 Pro ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 15 ชั่วโมง
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
HUAWEI WATCH 3 Series ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีดีไซน์สวยงามพรีเมียม เพิ่มความโดดเด่นให้กับข้อมือของผู้สวมใส่ และยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่สามารถติดตามสุขภาพได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการวัดระดับออซิเจนในเลือด วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดอุณหภูมิของร่างกาย รวมไปถึงฟีเจอร์ตรวจจับการล้ม ติดตามการนอนหลับ ความเครียด และติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด
HUAWEI WATCH 3 Series ยังรองรับ eSIM ช่วยให้ใช้งานได้อย่างอิสระ ไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นการโทร รับ-ส่งข้อความพิมพ์ข้อความได้สะดวกด้วยคีย์บอร์ดบนหน้าจอและสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ทันทีจาก AppGallery ที่มีอยู่ในสมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH 3 มาพร้มอตัวเรือนสเตนเลสสตีล มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Active Edition ดีไซน์สปอร์ตเหมาะกับสายแอคทีฟ และรุ่น Classic Edition ใช้สายหนัง เสริมลุคให้ดูดีแม้ในวันสบายๆ นอกจากนี้ยังมี HUAWEI WATCH 3 Pro รุ่น Classic Edition ที่มากับตัวเรือนไทเทเนียมและสายหนัง ส่วนด้านหลังใช้วัสดุเป็นเซรามิก เติมความหรูหรามีระดับไปอีกขั้นเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก
HUAWEI WATCH 3 Series มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ HUAWEI WATCH 3 คนที่ชอบลุคสปอร์ตเรียบสวย สามารถเลือกใช้ Active Edition ราคา 12,990 บาท หรือคนที่ใช้แมชกับลุคทำงานอาจจะใช้เป็นหน้าปัดสเตนเลสสตีล สายหนัง Classic Edition ราคา 14,490 บาท ส่วนคนที่รักความหรูหราขึ้นไปอีกระดับ สามารถเลือก HUAWEI WATCH 3 Pro Classic Edition ที่มากับกรอบไทเทเนียม สายหนัง ตัวเรือนด้านหลังทำด้วยเซรามิก ราคา 21,990 บาท พร้อมโปรโมชันพรีออเดอร์สุดคุ้ม รับฟรี HUAWEI Steel Strap* และบริการ HUAWEI Music VIP นาน 3 เดือน รวมมูลค่า 10,377 บาท เมื่อซื้อสินค้าที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ถึง 22 กรกฎาคม 2564 รวมถึงสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ HUAWEI Online Store, Shopee, Lazada และ JD Central