หลังจากทีมงาน @Flashfly แกะกล่อง OPPO A95 พร้อมทำความรู้จักในเบื้องต้นไปก่อนหน้านี้ ก็ได้เวลาพาไปสำรวจสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ OPPO A Series ให้มากขึ้น ซึ่งมาพร้อมสโลแกน “สมาร์ทไปให้สุดฟอร์ม” มีจุดเด่นแบตเตอรี่ความจุสูง 5,000mAh เพื่อให้สนุกได้ยาวนานเป็นพิเศษ ชาร์จเต็มเร็วทันใจด้วยเทคโนโลยี 33W Flash Charge ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างลื่นไหล เนื่องจากให้ความจำ RAM สูงสุด 13GB (มาจาก RAM 8GB และขยายได้อีก 5GB ผ่านฟีเจอร์ RAM Expansion) จับคู่กับ ROM 128GB ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662 อีกทั้งยังได้รับกล้องหลังความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล และทั้งหมดบรรจุอยู่ในดีไซน์ที่สวยงามบางเบาตามสไตล์ OPPO Glow Design
สเปก OPPO A95
- จอแสดงผล AMOLED, FHD+ ขนาด 6.43 นิ้ว
- AI 3 กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 16 MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662
- ความจำ RAM 8GB + 5GB (RAM Expansion), ROM 128GB
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-display Fingerprint Unlock)
- การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi (2.4/5GHz), Bluetooth 5.0, USB Type-C, 3.5mm Ear jack
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 5,000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 33W Flash Charge
- ขนาดบอดี้ 160.32 x 73.76 x 7.95 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 175 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน (ประกายรุ้ง) Glowing Rainbow Silver และสีดำ Glowing Starry Black
ดีไซน์โดดเด่นถือใช้งานได้สะดวก
OPPO A95 มาพร้อมดีไซน์แบบ OPPO Glow Design ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจาก Reno Series ทำให้ด้านหลังมีความสวยงามพรีเมียม ด้วยเอฟเฟกต์สะท้อนแสงที่เปล่างประกายระยิบระยับ และยังมีดีไซน์ที่บางเบา ถึงแม้จะมีความจุแบตเตอรี่มากถึง 5,000mAh ขณะที่ส่วนขอบมุมก็โค้งมนรับกับฝ่ามือ ช่วยให้จับถือใช้งานได้อย่างสะดวก
OPPO Glow Design เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ OPPO ทำให้ฝาหลังของ OPPO A95 แสดงเอฟเฟกต์ที่มีความระยิบระยับแบบ Glitter เสมือนเพชรนับล้านฝังอยู่บนฝาหลัง บนพื้นผิวแบบด้านช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ และให้ความรู้สึกสบายในการจับถือ และพบได้ทั้งในสีเงินประกายรุ้ง Glowing Rainbow Silver ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีรุ้งที่งดงาม ให้เอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพแสง ส่วนสีดำ Glowing Starry Black ให้ความรู้สึกเหมือนแสงสะท้อนของดวงดาวที่ลอยอยู่บนผิวทะเล
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผลแบบ Punch-Hole Display เจาะหลุมไว้ที่มุมบนเพื่อวางกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และมีขอบจอบางเป็นพิเศษทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้สูงถึง 90.8%
ลำโพงหูฟังซ่อนอยู่ในขอบจอด้านบนที่บางเฉียบ พื้นที่ส่วนล่างจองหน้าจอ มีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย (In-display Fingerprint Sensor) รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอแบบเดียวกับที่พบในสมาร์ทโฟนระดับเรือธง
ด้านหลังสะดุดตากับระบบกล้อง AI 3กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 48MP จัดเรียงในแนวตั้ง และตกแต่งขอบเลนส์ด้วยวงแหวนที่สร้างจากกระบวนการแกะสลักอย่างสวยงาม พร้อมด้วยแฟลช LED อยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมพื้นผ้าสีดำ ขณะที่พื้นผิวด้านหลังก็มีเอฟเฟกต์สะท้อนแสงอย่างสวยงาม และยังใช้ดีไซน์ขอบมุมโค้งแบบ 3D เพื่อให้รับกับฝ่ามือของผู้ใช้งาน
ถึงแม้ OPPO A95 จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh แต่ก็สามารถทำขอบด้านข้างให้มีความบางเพียง 7.95 มิลลิเมตร และมาพร้อมปุ่มเพาเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดหน้าจอ หรือเปิด-ปิดเครื่อง เมื่อกดค้างไว้
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง
มุมมองด้านบนแสดงให้เห็นขอบมุมที่โค้งมน แต่ไม่พบตำแหน่งของไมโครโฟนตัวที่สอง
ด้านล่างจะพบช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ใกล้กันเป็นรูไมโครโฟน ตามด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพง
OPPO A95 ยังผ่านการทดสอบที่เข้มงวด เพื่อให้มีความทนทานต่อสถานการณ์ที่หลากหลายจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงผ่านทดสอบการแผ่รังสี UV นานถึง 96 ชั่วโมง, การเสียดสีกับวัสดุต่างๆ, การทดสอบความร้อนที่แกนกลาง, การทดสอบการเผาไหม้ เพื่อให้ผาหลังมีความทนทานต่อการขีดข่วน ทนต่อการสึกหรอ และทนไฟ, ความปลอดภัยในการชาร์จ และประสิทธิภาพการกันฝุ่นและกันน้ำ (ป้องกันเฉพาะละอองน้ำ ไม่สามารถแช่น้ำได้ และการรับประกันไม่ครอบคลุมความเสียหายจากของเหลว)
จอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.43 นิ้วพร้อม All-Day Eye Care
OPPO A95 เลือกใช้จอแสดงผล AMOLED แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนเรือธง ซึ่งให้สีสันสวยงามคมชัดเหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์หรือทีวีออนไลน์ โดยมีความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.43 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ครอบคลุมขอบเขตสี 92% DCI-P3 และ 100% sRGB อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์ All-Day Eye Care ช่วยปกป้องสายตาของผู้ใช้งาน
ฟีเจอร์ All-Day Eye Care ของ OPPO ประกอบด้วย AI Smart Backlight สามารถปรับแสงหน้าจอได้อย่างฉลาด ด้วยการเรียนรู้การปรับความสว่างหน้าจอที่ผู้ใช้ปรับด้วยตนเองในสภาพแสงต่างๆ จึงให้ความสว่างที่เหมาะสม เพื่อให้รับชมได้อย่างสบายตาที่สุดในแต่ละช่วงเวลา และยังมี DC Dimming ช่วยลดการกะพริบของหน้าจอ และป้องกันอาการเมื่อยล้าของดวงตาในสภาพแสงต่างๆ
สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
OPPO A95 รองรับระบบรักษาความปลอดภัยทาง Biometrics ทั้ง 2 วิธี ได้แก่ระบบจดจำใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือโดยมีจุดเด่นที่ระบบสแกนลายนิ้วมือเพราะติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ใต้จอแสดงผล (In-Display Fingerprint Sensor) แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงสามารถปลดล็อกหรือยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชั่นต่างๆเพียงวางนิ้วมือไว้บนหน้าจอซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกและสามารถอ่านลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังรองรับการปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้าหรือ Face Unlock ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเมื่อใช้งานในห้องหรือพื้นที่ส่วนตัวแต่เมื่ออยู่ข้างนอกหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 แน่นอนว่าการยืนยันตัวตนด้วยวิธีสแกนลายนิ้วมือจะมีความปลอดภัยและส่งผลดีต่อผู้ใช้งานมากกว่า
AI 3 กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล
อีกไฮไลท์ที่น่าสนใจของ OPPO A95 คือได้รับการติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 ตัว โดยตัวหลักมีความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส ขนาดรูรับแสง f/1.7 รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างสวยงาม ส่วนกล้องอีก 2 ตัว เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพบุคคล และ ภาพถ่ายใกล้วัตถุ
- กล้องหลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
เมื่อเข้ามาในแอปกล้อง จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Night, Video, Photo, Portrait เมื่อเลื่อนไปที่ More จะพบกับโหมดถ่ายภาพเพิ่มเติม ได้แก่ Slo-Mo, Time-lapse, Expert, Extra HD, Pano, Text Scanner, Macro และ Sticker
โหมด Photo สามารถซูมได้สูงสุด 10x แบบดิจิทัล ปรับอัตราส่วนภาพได้ 4 แบบ (4:3, 1:1, Full, 16:9) ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัตินานสูงสุด 10 วินาที มีไอคอนใบหน้าสำหรับเปิดโหมด AI Beautification ซึ่งโหมด AI Beautification ยังใช้ได้กับการถ่ายวิดีโอด้วย
กล้องหลังของ OPPO A95 มีจุดเด่นที่เทคโนโลยี AI Scene Enhancement ที่อาศัยอัลกอริทึมการประมวลผลภาพที่เป็นเอกสิทธิ์ของ OPPO ช่วยปรับแต่งค่าต่างๆ ให้มีความเหมาะสมกับฉากหรือวัตถุที่ต้องการถ่ายภาพ อาทิ บุคคล อาหาร ดอกไม้ พระอาทิตย์ตก เป็นต้น ด้วยการปรับแต่งสีสัน ความอิ่มตัวของสี และความสว่าง ให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถถ่ายภาพออกมาสวยงาม โดยไม่ต้องเข้าไปปรับค่ากล้องให้ยุ่งยากในโหมด Expert
ด้วยโหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน หรือ Night Mode และขนาดรูรับแสง f/1.7 ของกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ทำให้ OPPO A95 สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ออกมาสว่างคมชัดเกินกว่าที่คาดไว้ โดยให้รายละเอียดภาพได้อย่างสมบูรณ์ จึงเป็นกล้องสมาร์ทโฟนที่รองรับการถ่ายภาพได้อย่างดี ทั้งสภาพแสงในตอนกลางวัน และในที่แสงน้อยยามค่ำคืน แอปกล้องของ OPPO A95 ยังมีฟิลเตอร์ภาพที่หลากหลายถึง 15 แบบ สำหรับเปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่าย แต่ถ้าใช้ Night Mode จะมีฟิลเตอร์ให้เลือก 3 แบบ
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลัง รองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080P ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที แต่ถ้าเปิดระบบป้องกันการสั่นไหว Steady Video จะปรับความละเอียดได้สูงสุด HD 720p และยังรองรับโหมด Time-lapse และ Slow Motion ที่ 120 เฟรมต่อวินาที ในความละเอียด HD 720p แน่นอนว่าในเครื่องยังมี SoLoop แอปพลิเคชั่นตัดต่อวิดีโออัจฉริยะ ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสมาร์ทโฟนของ OPPO ช่วยให้การตัดต่อวิดีโอเป็นเรื่องง่ายในไม่กี่คลิก สามารถตัดต่อวิดีโอ แทรกเสียงประกอบ ได้ด้วยตัวเอง หรือ ใช้เทมเพลตที่แอปเตรียมไว้ให้ ก็ได้วิดีโอที่มีการตัดต่อเหมือนมืออาชีพ สามารถแชร์ลงโซเชี่ยลสร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนๆ ได้
กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล AI Beautification
OPPO A95 ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมที่มุมบนหน้าจอ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างโดดเด่นด้วย AI Beautification สามารถปรับแต่งผิวหน้าตามสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างแม่นยำ ทำให้ใบหน้าดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และยังมี Intelligent Skin Tone ของ OPPO ที่ช่วยมอบเอฟเฟกต์การปรับแต่งผิวหน้าให้เรียบเนียนและสว่างขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งภาพเซลฟี่ได้ตามใจชอบ
กล้องหน้าของ OPPO A95 ยังได้รับการปรับปรุงให้ถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อย โดยรองรับ Night Mode เช่นเดียวกับกล้องหลัง ให้ภาพถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยมีความคมชัดเป็นพิเศษ และยังให้ความสว่างบนใบหน้า โดยที่ยังเก็บรายละเอียดบนฉากหลังได้ทุกจุด
นอกจากนี้ กล้องหน้ายังสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด Full HD 1080P ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที เหมือนกับกล้องหลัง แต่ถ้าเปิดโหมด AI Beautification ในการถ่ายวิดีโอ ความละเอียดจะลดลงมาที่ HD 720p
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิปประมวลผล Snapdragon 662
OPPO A95 ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 662 ความเร็วสูงสุด 2GHz พร้อมด้วยจีพียู Adreno 610 รองรับการเล่นเกมได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็น ROV, Call of Duty Mobile, PUBG, Asphalt 9 และยังเสริมประสิทธิภาพด้วย System Booster ช่วยยกระดับระบบประมวลผล เพื่อให้สมาร์ทโฟนทำงานได้อย่างลื่นไหล แม้เปิดใช้งานหลายแอปพลิเคชั่นพร้อมกัน
ด้านความจำให้ RAM มาถึง 8GB และยังขยายได้อีก 5GB รวมเป็น 13GB ผ่านเทคโนโลยี RAM Expansion จับคู่กับ ROM 128GB และยังสนับสนุนการ์ด MicroSD สูงสุด 256GB โดยเทคโนโลยี RAM Expansion ของ OPPO จะนำความจุ ROM มาจำลองเป็นความจำ RAM เพื่อรองรับการทำงานแบบ Multitasking ได้อย่างราบรื่น
ประสบการณ์การเล่นเกมลื่นไหล
นอกจากชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ OPPO A95 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สามารถปรับแต่งระบบได้มากมาย อย่างเช่นเทคโนโลยี Hyper Boost ที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของเฟรมเรทในระหว่างการเล่นเกม พร้อมลดการใช้พลังงาน และควบคุมอุณหภูมิให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มการตอบสนองต่อการสัมผัส เพิ่มเฟรมเรท ลดความหน่วง และลดระยะเวลาในการโหลดเกม เพื่อให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
ผู้ใช้งาน OPPO A95 สามารถเพิ่มเกมโปรดลงใน Game Space ได้ เพื่อให้ระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการท้างาน ด้วยการเพิ่มความเร็วเครือข่าย และเพิ่มการใช้หน่วยความจำในขณะเล่นเกม และยังเปิด Game Assistant ได้จากแถบด้านข้างของหน้าจอ เพื่อตรวจสอบระบบต่างๆ สำหรับการเล่นเกมช่วยย่อขนาดการแจ้งเตือนทั้งหมดที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวในเกม และให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งเตือนแบบ Bullet และ หน้าต่างเกมแบบลอย แทนที่จะส่งการแจ้งเตือนแบบแบนเนอร์ OPPO A95 ใช้การแจ้งเตือนแบบ Bullet เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับข้อความสำคัญได้ทันที โดยไม่บังหน้าจอของเกมที่กำลังเล่น โดยแอปพลิเคชั่นที่รองรับ ได้แก่ WhatsApp, Telegram, Line, Messenger และ SMS
แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W Flash Charge
OPPO A95 ให้อายุการใช้งานที่ยาวนานด้วยความจุแบตตอรี่สูงถึง 5000mAh และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Flash Charge ผ่านพอร์ต USB Type-C ใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที สามารถดูวิดีโอบน YouTube นาน 1.81 ชั่วโมง หรือ ใช้งาน Instagram ได้นาน 1.37 ชั่วโมง หรือ จะใช้สนทนาก็รองรับการพูดคุยนาน 5.73 ชั่วโมง
ถึงแม้จะเน้นการชาร์จไว แต่ OPPO ก็ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยระหว่างชาร์จด้วยเช่นกัน ทำให้ OPPO A95 มาพร้อมฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการชาร์จมากมาย เพื่อให้ความปลอดภัยในระหว่างชาร์จแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Battery Guard, Charging Heat Control, Super Power Saving Mode และ Super Nighttime Standby โดย Battery Guard หรือเรียกอีกอย่างว่า AI Night Charge ทำให้สมาร์ทโฟนเรียนรู้และจดจำช่วงเวลาการนอนหลับของผู้ใช้งาน เพื่อปรับแต่งการชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่เจ้าของสมาร์ทโฟนนอนหลับ โดยเริ่มจาก การชาร์จแบตเตอรี่จนถึงระดับ 80% แล้วอีก 20% จะถูกชาร์จภายในเวลา 60 นาที ก่อนที่ผู้ใช้งานจะตื่นนอน
Charging Heat Control ช่วยควบคุมอุณหภูมิของสมาร์ทโฟน ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อให้ OPPO A95 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างปลอดภัย พร้อมยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยซอฟต์แวร์จะคอยตรวจจับอุณหภูมิของสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา และเมื่อพบว่าอุณหภูมิสูงเกินไป จะช่วยปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับแอปพลิเคชั่นโปรดได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อน
Super Power Saving Mode เป็นโหมดประหยัดพลังงาน เมื่อระดับแบตเตอรี่เหลือเพียง 5% โหมดนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น เพียงพอต่อการใช้งาน WhatsApp นาน 1.3 ชั่วโมง หรือ โทรศัพท์ได้นาน 2.7 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมี Super Nighttime Standby โหมดประหยัดพลังงานในเวลากลางคืน หรือช่วงที่ผู้ใช้งานนอนหลับยาวนาน 8 ชั่วโมง OPPO A95 ก็จะใช้แบตเตอรี่เพียง 2% เท่านั้น
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.1
OPPO A95 ทำงานบนพื้นฐาน ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.1 ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อให้การใช้งานในชีวิตประจ้าวันง่ายมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่พบได้เฉพาะสมาร์ทโฟนของ OPPO
ColorOS 11.1 มาพร้อม FlexDrop ช่วยรองรับการใช้งานแบบ Multitasking หรือใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้อย่างราบรื่น สามารถปรับขนาดของหน้าต่างแอปฯ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น การปรับแอปฯ ให้เป็นหน้าต่างลอยขนาดเล็ก แต่ยังคงหน้าแอปฯ ให้เป็นแบบ Full Screen (สามารถโต้ตอบในการใช้งานได้) หรือปรับเป็นหน้าต่างขนาดเล็ก (ส้าหรับรับชมเท่านั้น) เพื่อให้สามารถสลับการใช้งานแต่ละแอปฯ ได้อย่างง่ายดาย
ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย Private Safe สำหรับจัดเก็บรูปภาพ วิดีโอ เสียง เอกสารและไฟล์ส่วนตัวอื่นๆ ไว้บน Cloud Sync เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงได้
ColorOS 11.1 ยังมีฟีเจอร์ที่เป้นประโยชน์อย่างมาก เรียกว่า All-scenario SOS สำหรับใช้งานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เพียงกดปุ่มเพาเวอร์ติดต่อกันอย่างรวดเร็ว 5 ครั้ง ในการเข้าหน้า Emergency SOS เพื่อโทรฉุกเฉิน, แสดงข้อมูลฉุกเฉินที่ตั้งไว้ล่วงหน้า, เปิดใช้งานไฟสัญญาณ SOS หรือเปิดเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือ
สรุปราคาและโปรโมชั่น
OPPO A95 จัดอยู่ในกลุ่มสมาร์ทโฟนสำหรับผู้เริ่มต้น แต่มีประสิทธิภาพเทียบได้กับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ด้วยราคาที่ไม่ถึงหลักหมื่นบาท แต่ให้ดีไซน์มาอย่างสวยงามพรีเมียม แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ใช้งานได้ยาวนาน แถมยังชาร์จเร็วทันใจ 33W ประสิทธิภาพสูงเกินราคาด้วยชิป Snapdragon 662 ความจำจุใจ RAM 8GB ขยายได้อีก 5GB และมีกล้องหลังความละเอียดสูง รองรับการถ่ายภาพทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคา ให้ฟีเจอร์เหมือนสมาร์ทโฟนระดับกลาง แต่ประหยัดเงินได้มากกว่า
OPPO A95 ราคาเพียง 9,499 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน (ประกายรุ้ง) Glowing Rainbow Silver และสีดำ Glowing Starry Black เปิดให้จองก่อนใครตั้งแต่วันที่ 19 – 23 พฤศจิกายนนี้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมรับของสมนาคุณรวมมูลค่า 5,199 บาท ได้แก่ E-VIP CARD ประกันตัวเครื่อง 24 เดือน และรับประกันหน้าจอ มูลค่า 3,900 บาท และ Mini Suit Case มูลค่า 1,299 บาท