นับตั้งแต่มีการเปิดเผยยอดจอง “iPhone 5” ที่ทะลุเป้า 2 ล้านเครื่องใน 24 ชั่วโมง ส่งผลให้หุ้นของแอปเปิล ในวอลสตรีท พุ่งขึ้นเกินกว่า 700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนมูลค่าบริษัท เพิ่มเป็น 655 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 19 ก.ย. ว่า หุ้นของ “แอปเปิล” ในวอลสตรีท ทยานขึ้นสูงถึง 701.44 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 ก.ย.) สืบเนื่องจากกระแสความนิยมของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ไอโฟน 5 “iPhone 5” ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา และเมื่อเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าเพียงแค่วันแรก หรือ 24 ชั่วโมง สามารถทำยอดได้ถึง 2 ล้านเครื่องเลยทีเดียว จนอาจทำให้ลูกค้าบางรายได้รับสินค้าล่าช้าออกไปเป็นเดือนต.ค. เนื่องจากอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ส่วนมูลค่าบริษัทเพิ่มเป็น 655 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นายชอว์ หวู นักวิเคราะห์จากสเติร์นอะจี คาดว่าหุ้นของแอปเปิล อาจเพิ่มขึ้นได้อีกเป็น 840 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ความเห็นของนักวิเคราะห์รายอื่นๆ มองว่า แอปเปิลจะสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ได้ 10 ล้านเครื่อง ในวันวางขายวันแรก 21 ก.ย. นี้ ที่สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และตามด้วยประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมในวันที่ 28 ก.ย. นี้ ก่อนวางขายในอีก 100 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งไทยในช่วงปลายปี อย่างไรก็ดี คาดว่าแอปเปิลจะขาย iPhone 5 ได้มากถึง 50 ล้านเครื่องก่อนสิ้นปี 2012
อนึ่ง บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่ของโลกสัญชาติเกาหลีใต้ คู่แข่งรายสำคัญของแอปเปิลในโซนเอเชีย แถลงเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ถึงยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “กาแล็คซี่ เอส 3” ได้มากถึง 20 ล้านเครื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา หรือราว 3-4 เดือน โดยเปิดเผยยอดจำหน่ายในยุโรป มากที่สุด 6 ล้านเครื่อง ตามด้วยเอเชีย 4.5 ล้านเครื่อง และ 4 ล้านเครื่องที่อเมริกาเหนือ นับว่ารวดเร็วกว่าการจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นก่อนหน้า “กาแล็คซี่ เอส 2” มากถึง 3 เท่า และมากกว่า “กาแล็คซี่ เอส” ถึง 6 เท่า แต่หากสิ้นปีนี้มีผู้ซื้อ iPhone 5 มากถึง 50 ล้านเครื่อง ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แอปเปิลจะสามารถทำยอดขายสมาร์ทโฟนได้มากกว่าซัมซุง ในระยะเวลาเท่าๆ กัน.
ที่มา – Thairath






