หลังจากที่ realme ได้ทำการวางจำหน่าย realme 9i บุกตลาดประเทศไทยตั้งแต่ต้นปีเสือ ล่าสุดยังคงบุกตลาดต่อเนื่องด้วยการเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ “realme 9 Pro Series” อีก 2 รุ่น ได้แก่ realme 9 Pro+ สมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มาพร้อมกล้องระดับเรือธง และ realme 9 Pro สมาร์ทโฟน 5G ที่ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน มาพร้อมดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากแสงอาทิตย์อันเจิดจ้ายามเช้ากับเอ็ฟเฟ็กต์การเปลี่ยนสีฝาหลังแบบ Light Shift Design ซึ่งทั้งคู่ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน @Flashfly เพื่อแกะกล่องพร้อมพรีวิวให้ชมแล้ว
แกะกล่อง realme 9 Pro Series
realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีเหลืองตามสไตล์ realme หน้ากล่องของทั้งคู่จึงดูคล้ายกัน มีโลโก้ 5G ที่มุมบนเหมือนกัน เลข 9 ขนาดใหญ่ ถัดลงมาจะเห็นความแตกต่างจากชื่อ Pro กับ Pro+ และพิมพ์โลโก้ realme ไว้ที่มุมล่างเหนือขอบกล่องสีดำ
ด้านข้างกล่องจะบอกชื่อรุ่นเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นรุ่น realme 9 Pro หรือ realme 9 Pro+ แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นรอรับ 5G
พลิกมาดูที่ด้านหลัง จะเห็นว่าทั้ง 2 รุ่น มีการระบุจุดเด่นที่แตกต่างกันไป realme 9 Pro มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G, จอแสดงผลให้อัตราการรีเฟรช 120Hz, กล้องตัวหลัก 64 ล้านพิกเซล มีจุดเด่นที่โหมดถ่ายภาพกลางคืน และ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ส่วน หลังกล่อง realme 9 Pro+ ให้จุดเด่นที่แตกต่างออกไป เริ่มจากกล้องหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS, ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G, รองรับการชาร์จเร็ว 60W SuperDart และ จอแสดงผล AMOLED ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz
เมื่อยกฝากล่องของทั้ง realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ จะพบกับซองเอกสารสีเหลืองเป็นอย่างแรก ภายในแถมเคสมาให้ 1 อัน มาในสีดำแบบโปร่งใส อีกทั้งยังแนบเข็มช่วยถอดซิมการ์ดมากับแผ่นกระดาษ รวมถึงคู่มือแนะนำการใช้งาน (Quick Start Guide) ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และใบรับประกัน
ใต้ซองเอกสารเป็นชั้นวางสมาร์ทโฟน ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยซองพลาสติก และมีการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้วทั้ง realme 9 Pro และ realme 9 Pro+
ชั้นล่างสุดเป็นที่เก็บสายชาร์จ USB Type-C และ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งมีความแตกต่างที่ realme 9 Pro ได้รับที่ชาร์จ 33W ส่วน realme 9 Pro+ มาพร้อมที่ชาร์จ 65W SuperDart Charger
Light Shift Design เปลี่ยนสีฝาหลังได้
ทีมงาน @Flashfly ได้รับ realme 9 Pro+ สี Sunrise Blue มารีวิว ซึ่งเป็นสีที่มีความพิเศษ เพราะสามารถเปลี่ยนสีได้ เรียกว่า Light Shift Design โดยภายใต้แสงแดดปกติ ฝาหลังจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงิน เป็นสีแดงหรือชมพูเข้มอย่างโดดเด่นภายใน 3 วินาที และถ้าไม่มีแสงแดด สีของฝาหลังจะกลับมาเป็นสีน้ำเงินเหมือนเดิมภายใน 2 – 5 วินาที
สำหรับ realme 9 Pro ก็มีสี Sunrise Blue ให้เลือกเช่นกัน แต่ทีมงาน @Flashfly ได้รับสี Aurora Green มารีวิว ซึ่งมีเอฟเฟกต์เส้นแสงบนฝาหลัง สะท้อนออกมาตามมุมที่แสงตกมากระทบ
มุมมองด้านหน้าของทั้งคู่มีความคล้ายกันมาก เนื่องจากได้รับการเจาะหลุมที่มุมบนเพื่อติดตั้งกล้องหน้าในตำแหน่งเดียวกัน อย่างไรก็ตาม realme 9 Pro มีขนาดตัวเครื่องใหญ่กว่าเล็กน้อย ด้วยขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว ขณะที่ realme 9 Pro+ มีขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว
ใต้จอแสดงผลของ realme 9 Pro+ ยังถูกซ่อนเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย จึงสามารถปลดล็อกหรือยืนยันตัวตนผ่านการสแกนนิ้วบนหน้าจอ ยิ่งไปกว่านั้น เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอของ realme 9 Pro+ ยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย
ดีไซน์ด้านหลังของ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ นั้นยากที่จะมองเห็นความแตกต่าง เนื่องจากทั้ง 2 รุ่น วางระบบกล้องหลัง 3 ตัว เหมือนกัน จัดเรียงเลนส์กล้องแนวทะแยงเช่นเดียวกัน แตกต่างกันตรงขนาดตัวเครื่องเท่านั้น
ส่วนขอบด้านข้างของ realme 9 Pro+ มีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร วางปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางซ้ายของจอแสดงผล
ปุ่มเพาเวอร์ของ realme 9 Pro มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น Pro+ เพราะมีการรวมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย โดยมีความบาง 8.5 มิลลิเมตร
ปุ่มปรับระดับเสียงของทั้งคู่ ติดตั้งไว้ที่ขอบด้านขวาของจอแสดงผล เหนือขึ้นไปมีถาดใส่ซิมการ์ด ถาดใส่ซิมการ์ดของ realme 9 Pro เป็น 2 ช่องแบบไฮบริด โดยช่อง SIM2 สามารถเลือกที่จะวางการ์ด microSD ได้ แต่ถาดใส่ซิมการ์ดของ realme 9 Pro+ รองรับ 2 ซิมการ์ด จึงอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มีขนาดตัวเครื่องเล็กและบางกว่า
ด้านบนของ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ มีไมโครโฟนตัวที่ 2 ติดตั้งมาให้เหมือนกัน
ด้านล่างของทั้งคู่ ก็มีการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ในลักษณะเดียวกัน ทั้งตำแหน่งของลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟน และ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
จอแสดงผลรีเฟรช 120Hz
realme 9 Pro+ มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz ขณะที่ realme 9 Pro มีขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว และรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ทำให้จอแสดงผลของ realme 9 Pro ตอบสนองการสัมผัสได้ลื่นไหลกว่า แต่จอแสดงผลของ realme 9 Pro+ ให้ความคมชัดมากกว่า และยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos อีกด้วย
กล้องหลัง 3 ตัว 64 ล้านพิกเซล
ถึงแม้ทั้ง 2 รุ่น จะถูกวางระบบกล้องหลัง 3 ตัว เหมือนกัน แต่ก็มีสเปกกล้องที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ realme 9 Pro+ ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นแรก ที่ได้รับเซนเซอร์คุณภาพสูง Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และ EIS
กล้องหลักของ realme 9 Pro มีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง F/1.79 จึงรองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนได้อย่างดี ส่วนกล้องอีก 2 ตัว ของทั้งคู่ เป็นกล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ให้มุมมองกว้าง 119 องศา และ กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพใกล้วัตถุ
ตัวอย่างภาพถ่าย
ประสิทธิภาพระดับเรือธง
realme 9 Pro+ ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G ผลิตด้วยกระบวนการโหนดอุตสาหกรรมประสิทธิภาพสูง 6 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-Core โดยมี Arm Cortex-A78 ที่สามารถทำความเร็วนาฬิกาได้สูงสุดถึง 2.5GHz และ Arm Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz พร้อมด้วยจีพียู Arm Mali-G68 MC4 อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System สามารถลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ
realme 9 Pro ได้รับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการโหนดอุตสาหกรรม 6 นาโนเมตรเช่นกัน ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-Core สามารถทำความเร็วนาฬิกาได้สูงสุดถึง 2.2GHz พร้อมด้วยจีพียู Adreno 619
ชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge
realme 9 Pro มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W Dart Charge แถมที่ชาร์จ 11V/3A Power Adapter มาให้ในกล่อง ขณะที่ realme 9 Pro+ มีความจุแบตเตอรี่ 4500mAh แต่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge โดยในกล่องให้ที่ชาร์จ 65W SuperDart Charger นั่นทำให้ realme 9 Pro+ ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่น้อยกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึง 50% ในเวลาประมาณ 15 นาที
เปิดตัวทางการในไทย 1 มีนาคมนี้
เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนใน Series เดียวกัน ทำให้ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ ได้รับการออกแบบมาคล้ายคลึงกัน โดดเด่นที่ดีไซน์เปลี่ยนสีได้ Light Shift Design (เฉพาะสี Sunrise Blue) เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีดีไซน์โดดเด่นทันสมัยล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากดีไซน์ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป realme 9 Pro มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G ที่ให้ประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในราคาใกล้เคียงกัน ขณะที่ realme 9 Pro+ มีกล้องหลักคุณภาพสูง ด้วยเซนเซอร์ระดับเรือธง Sony IMX766 และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS
เตรียมพบกับ realme 9 Pro Series ซึ่งเป็น Hero product รุ่นล่าสุดของผลิตภัณฑ์ realme ที่จะส่งมอบประสบการณ์สุดล้ำให้กับแฟนๆ ชาวไทย และพร้อมเขย่าวงการสมาร์ตโฟนในไทย ในงานเปิดตัวรูปแบบออนไลน์ วันที่ 1 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของทาง realme ได้แก่ YouTube และ Facebook