Saturday, December 20, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

แกะกล่องพร้อมพรีวิว realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ ฝาหลังเปลี่ยนสีได้กับ Light Shift Design

Jackrich T. by Jackrich T.
February 22, 2022
in Feature, NEWS, Recommended, Review & Preview
143
SHARES
20.2k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

หลังจากที่ realme ได้ทำการวางจำหน่าย realme 9i บุกตลาดประเทศไทยตั้งแต่ต้นปีเสือ ล่าสุดยังคงบุกตลาดต่อเนื่องด้วยการเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ “realme 9 Pro Series” อีก 2 รุ่น ได้แก่ realme 9 Pro+ สมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มาพร้อมกล้องระดับเรือธง และ realme 9 Pro สมาร์ทโฟน 5G ที่ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน มาพร้อมดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากแสงอาทิตย์อันเจิดจ้ายามเช้ากับเอ็ฟเฟ็กต์การเปลี่ยนสีฝาหลังแบบ Light Shift Design ซึ่งทั้งคู่ก็ได้มาอยู่ในมือของทีมงาน @Flashfly เพื่อแกะกล่องพร้อมพรีวิวให้ชมแล้ว

แกะกล่อง realme 9 Pro Series

realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีเหลืองตามสไตล์ realme หน้ากล่องของทั้งคู่จึงดูคล้ายกัน มีโลโก้ 5G ที่มุมบนเหมือนกัน เลข 9 ขนาดใหญ่ ถัดลงมาจะเห็นความแตกต่างจากชื่อ Pro กับ Pro+ และพิมพ์โลโก้ realme ไว้ที่มุมล่างเหนือขอบกล่องสีดำ

ด้านข้างกล่องจะบอกชื่อรุ่นเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นรุ่น realme 9 Pro หรือ realme 9 Pro+ แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นรอรับ 5G

พลิกมาดูที่ด้านหลัง จะเห็นว่าทั้ง 2 รุ่น มีการระบุจุดเด่นที่แตกต่างกันไป realme 9 Pro มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G, จอแสดงผลให้อัตราการรีเฟรช 120Hz, กล้องตัวหลัก 64 ล้านพิกเซล มีจุดเด่นที่โหมดถ่ายภาพกลางคืน และ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ส่วน หลังกล่อง realme 9 Pro+ ให้จุดเด่นที่แตกต่างออกไป เริ่มจากกล้องหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX766 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS, ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G, รองรับการชาร์จเร็ว 60W SuperDart และ จอแสดงผล AMOLED ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz

เมื่อยกฝากล่องของทั้ง realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ จะพบกับซองเอกสารสีเหลืองเป็นอย่างแรก ภายในแถมเคสมาให้ 1 อัน มาในสีดำแบบโปร่งใส อีกทั้งยังแนบเข็มช่วยถอดซิมการ์ดมากับแผ่นกระดาษ รวมถึงคู่มือแนะนำการใช้งาน (Quick Start Guide) ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และใบรับประกัน

ใต้ซองเอกสารเป็นชั้นวางสมาร์ทโฟน ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยซองพลาสติก และมีการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้วทั้ง realme 9 Pro และ realme 9 Pro+

ชั้นล่างสุดเป็นที่เก็บสายชาร์จ USB Type-C และ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งมีความแตกต่างที่ realme 9 Pro ได้รับที่ชาร์จ 33W ส่วน realme 9 Pro+ มาพร้อมที่ชาร์จ 65W SuperDart Charger

Light Shift Design เปลี่ยนสีฝาหลังได้

ทีมงาน @Flashfly ได้รับ realme 9 Pro+ สี Sunrise Blue มารีวิว ซึ่งเป็นสีที่มีความพิเศษ เพราะสามารถเปลี่ยนสีได้ เรียกว่า Light Shift Design โดยภายใต้แสงแดดปกติ ฝาหลังจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงิน เป็นสีแดงหรือชมพูเข้มอย่างโดดเด่นภายใน 3 วินาที และถ้าไม่มีแสงแดด สีของฝาหลังจะกลับมาเป็นสีน้ำเงินเหมือนเดิมภายใน 2 – 5 วินาที

สำหรับ realme 9 Pro ก็มีสี Sunrise Blue ให้เลือกเช่นกัน แต่ทีมงาน @Flashfly ได้รับสี Aurora Green มารีวิว ซึ่งมีเอฟเฟกต์เส้นแสงบนฝาหลัง สะท้อนออกมาตามมุมที่แสงตกมากระทบ

มุมมองด้านหน้าของทั้งคู่มีความคล้ายกันมาก เนื่องจากได้รับการเจาะหลุมที่มุมบนเพื่อติดตั้งกล้องหน้าในตำแหน่งเดียวกัน อย่างไรก็ตาม realme 9 Pro มีขนาดตัวเครื่องใหญ่กว่าเล็กน้อย ด้วยขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว ขณะที่ realme 9 Pro+ มีขนาดหน้าจอ 6.4 นิ้ว

ใต้จอแสดงผลของ realme 9 Pro+ ยังถูกซ่อนเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย จึงสามารถปลดล็อกหรือยืนยันตัวตนผ่านการสแกนนิ้วบนหน้าจอ ยิ่งไปกว่านั้น เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอของ realme 9 Pro+ ยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย

ดีไซน์ด้านหลังของ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ นั้นยากที่จะมองเห็นความแตกต่าง เนื่องจากทั้ง 2 รุ่น วางระบบกล้องหลัง 3 ตัว เหมือนกัน จัดเรียงเลนส์กล้องแนวทะแยงเช่นเดียวกัน แตกต่างกันตรงขนาดตัวเครื่องเท่านั้น

ส่วนขอบด้านข้างของ realme 9 Pro+ มีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร วางปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางซ้ายของจอแสดงผล

ปุ่มเพาเวอร์ของ realme 9 Pro มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น Pro+ เพราะมีการรวมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย โดยมีความบาง 8.5 มิลลิเมตร

ปุ่มปรับระดับเสียงของทั้งคู่ ติดตั้งไว้ที่ขอบด้านขวาของจอแสดงผล เหนือขึ้นไปมีถาดใส่ซิมการ์ด ถาดใส่ซิมการ์ดของ realme 9 Pro เป็น 2 ช่องแบบไฮบริด โดยช่อง SIM2 สามารถเลือกที่จะวางการ์ด microSD ได้ แต่ถาดใส่ซิมการ์ดของ realme 9 Pro+ รองรับ 2 ซิมการ์ด จึงอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้มีขนาดตัวเครื่องเล็กและบางกว่า

ด้านบนของ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ มีไมโครโฟนตัวที่ 2 ติดตั้งมาให้เหมือนกัน

ด้านล่างของทั้งคู่ ก็มีการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ในลักษณะเดียวกัน ทั้งตำแหน่งของลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟน และ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

จอแสดงผลรีเฟรช 120Hz

realme 9 Pro+ มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz ขณะที่ realme 9 Pro มีขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว และรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ทำให้จอแสดงผลของ realme 9 Pro ตอบสนองการสัมผัสได้ลื่นไหลกว่า แต่จอแสดงผลของ realme 9 Pro+ ให้ความคมชัดมากกว่า และยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos อีกด้วย

กล้องหลัง 3 ตัว 64 ล้านพิกเซล

ถึงแม้ทั้ง 2 รุ่น จะถูกวางระบบกล้องหลัง 3 ตัว เหมือนกัน แต่ก็มีสเปกกล้องที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ realme 9 Pro+ ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นแรก ที่ได้รับเซนเซอร์คุณภาพสูง Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และ EIS 

กล้องหลักของ realme 9 Pro มีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง F/1.79 จึงรองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนได้อย่างดี ส่วนกล้องอีก 2 ตัว ของทั้งคู่ เป็นกล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ให้มุมมองกว้าง 119 องศา และ กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพใกล้วัตถุ

ตัวอย่างภาพถ่าย

ประสิทธิภาพระดับเรือธง

realme 9 Pro+ ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G ผลิตด้วยกระบวนการโหนดอุตสาหกรรมประสิทธิภาพสูง 6 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-Core โดยมี Arm Cortex-A78 ที่สามารถทำความเร็วนาฬิกาได้สูงสุดถึง 2.5GHz และ Arm Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz พร้อมด้วยจีพียู Arm Mali-G68 MC4 อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Cooling System สามารถลดอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

realme 9 Pro ได้รับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการโหนดอุตสาหกรรม 6 นาโนเมตรเช่นกัน ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-Core สามารถทำความเร็วนาฬิกาได้สูงสุดถึง 2.2GHz พร้อมด้วยจีพียู Adreno 619 

ชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge 

realme 9 Pro มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W Dart Charge แถมที่ชาร์จ 11V/3A Power Adapter มาให้ในกล่อง ขณะที่ realme 9 Pro+ มีความจุแบตเตอรี่ 4500mAh แต่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 60W SuperDart Charge โดยในกล่องให้ที่ชาร์จ 65W SuperDart Charger นั่นทำให้ realme 9 Pro+ ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่น้อยกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึง 50% ในเวลาประมาณ 15 นาที

เปิดตัวทางการในไทย 1 มีนาคมนี้

เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนใน Series เดียวกัน ทำให้ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ ได้รับการออกแบบมาคล้ายคลึงกัน โดดเด่นที่ดีไซน์เปลี่ยนสีได้ Light Shift Design (เฉพาะสี Sunrise Blue) เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีดีไซน์โดดเด่นทันสมัยล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง 

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากดีไซน์ realme 9 Pro และ realme 9 Pro+ ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป realme 9 Pro มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G ที่ให้ประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในราคาใกล้เคียงกัน ขณะที่ realme 9 Pro+ มีกล้องหลักคุณภาพสูง ด้วยเซนเซอร์ระดับเรือธง Sony IMX766 และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS

เตรียมพบกับ realme 9 Pro Series  ซึ่งเป็น Hero product รุ่นล่าสุดของผลิตภัณฑ์ realme ที่จะส่งมอบประสบการณ์สุดล้ำให้กับแฟนๆ ชาวไทย  และพร้อมเขย่าวงการสมาร์ตโฟนในไทย ในงานเปิดตัวรูปแบบออนไลน์ วันที่ 1 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของทาง realme ได้แก่ YouTube  และ Facebook 






ShareTweetShare

Related Posts

NEWS

Redmi Note 15 Pro และ Note 15 Pro 5G เปิดตัวทางการ เริ่มทำตลาดต้นปี 2026

December 19, 2025
Samsung เปิดตัว Exynos 2600 ชิปมือถือขนาด 2 นาโนเมตร รุ่นแรกของโลก
NEWS

Samsung เปิดตัว Exynos 2600 ชิปมือถือขนาด 2 นาโนเมตร รุ่นแรกของโลก

December 19, 2025
Lifestyle

Anicorn วางจำหน่ายนาฬิการุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 30 ปี PlayStation มีเพียง 600 เรือน

December 19, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab S10 Lite แท็บเล็ตสุดคุ้มราคาหมื่นต้นครบเซ็ทไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

    425 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Redmi Note 15 Pro และ Note 15 Pro 5G เปิดตัวทางการ เริ่มทำตลาดต้นปี 2026

December 19, 2025
Samsung เปิดตัว Exynos 2600 ชิปมือถือขนาด 2 นาโนเมตร รุ่นแรกของโลก

Samsung เปิดตัว Exynos 2600 ชิปมือถือขนาด 2 นาโนเมตร รุ่นแรกของโลก

December 19, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');