Saturday, December 20, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

แกะกล่องสัมผัสแรก iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์และ iPhone 13 mini สีเขียวเครื่องศูนย์ประเทศไทย

Jackrich T. by Jackrich T.
March 25, 2022
in Feature, iPhone, NEWS, Recommended, Review & Preview
0
SHARES
6k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

ในกิจกรรม Peek Performance เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max สีเขียวอัลไพน์ พร้อมกับ iPhone 13 และ iPhone 13 mini สีเขียว ซึ่งทั้งคู่จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ทีมงาน @Flashfly จึงถือโอกาสนำ iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ และ iPhone 13 mini สีเขียวใหม่ มาพรีวิวให้ชมเพื่อแชร์ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัส

แกะกล่อง 

iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ ถูกจัดส่งมาในกล่องสีดำ หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพด้านหลังของ iPhone ขนาดใหญ่ในบอดี้สีเขียวอัลไพน์ ขณะที่ iPhone 13 mini สีเขียว ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพด้านหลังของ iPhone สีเขียว

เช่นเดียวกับสีสันอื่นๆ ที่ทำตลาดไปก่อนหน้านี้ ตัวกล่องของ iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ และ iPhone 13 mini สีเขียว ถูกทำให้บางลงนับตั้งแต่ iPhone 12 เพื่อเพิ่มปริมาณการจัดส่งในแต่ละครั้งให้มากขึ้น ผลที่ได้ก็คือ สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงและพลังงานของระบบขนส่งได้ในทางอ้อม

ใต้กล่องของทั้งคู่ถูกปิดผนึกด้วยแถบกระดาษกาว แทนที่การซีลด้วยพลาสติกใส พร้อมติดฉลากระบุชื่อรุ่น อุปกรณ์ภายในกล่อง และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมต่อไร้สาย

เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา ก็จะพบกับ iPhone นอนคว่ำหน้าอยู่ เพื่อเผยให้เห็นด้านหลังที่มาในสีสันใหม่ ซึ่งสีเขียวของ iPhone 13 mini (รวมถึง iPhone 13) มีพื้นผิวมันเงา ขณะที่สีเขียวอัลไพน์ของ iPhone 13 Pro (รวมถึง iPhone 13 Pro Max) มีพื้นผิวด้าน

iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ และ iPhone 13 mini สีเขียว ได้รับการปกป้องริ้วรอยบนหน้าจอด้วยแผ่นกระดาษ แทนการห่อหุ้มด้วยซองพลาสติก โดยแผ่นกระดาษที่ติดบนหน้าจอ ยังมีลิ้นยื่นออกมาช่วยให้ผู้ใช้งานหยิบ iPhone ออกจากกล่องได้สะดวก

ถัดลงมาเป็นช่องเก็บซองเอกสารภายในบรรจุเอกสารต่างๆ ได้แก่ คู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น การรับประกัน และ เอกสารยืนยันว่าผ่านการรับรองจาก กสทช. อีกทั้งยังแนบเข็มช่วยถอดถาดใส่ซิมการ์ด และแถมสติกเกอร์โลโก้ Apple มาให้ 1 ชิ้น

อุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายเป็นสายเคเบิล USB‑C to Lightning ไม่ต้องตกใจที่ไม่พบอุปกรณ์ชาร์จ หรือ Power Adapter เพราะ Apple ไม่ได้แถมมาให้ตั้งแต่เปิดตัว iPhone 12 ในปี 2563 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายใส่ใจสิ่งแวดล้อมของ Apple 

สีสันใหม่บนดีไซน์สุดหรู

iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ และ iPhone 13 mini สีเขียว ยังคงใช้ดีไซน์เดิมแบบเดียวกับสีสันอื่นๆ และเมื่อนำทั้งคู่มาอยู่คู่กัน ก็เห็นได้ชัดเจนว่ามีโทนสีเขียวที่แตกต่างกันไป iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ มีพื้นผิวด้าน ซึ่งเกิดจากการนำเซรามิกโลหะหลายชั้นที่บางระดับนาโนเมตรมาเคลือบลงบนพื้นผิวกระจก ขณะที่ด้านหลังของ iPhone 13 mini สีเขียว ใช้วัสดุกระจกที่มีพื้นผิวมันเงา

ส่วนขอบรองตัวเครื่องของ iPhone 13 Pro ทำมาจากสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม ส่วนขอบของ iPhone 13 mini ใช้วัสดุอะลูมิเนียม โดยใช้สีเขียวเพื่อให้เข้ากับด้านหลัง

ด้านหน้าของทั้งคู่ได้รับการปกป้องด้วย Ceramic Shield ซึ่ง Apple ยืนยันว่ามีความแข็งแกร่งกว่ากระจกสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในตลาด นอกจากนี้ iPhone 13 ทุกรุ่น ยังถูกสร้างมาเพื่อทนน้ำและฝุ่นในระดับ IP68

เป็นเลือกยากที่จะตัดสินใจว่าสีเขียวของ iPhone 13 Pro หรือ iPhone 13 แบบไหนที่ดูดีกว่ากัน แต่ถ้าให้ตัดสินใจโดยพิจารณาจากการซื้อไปใช้โดยไม่สวมเคส iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ ถูกใจทีมงาน @Flashfly มากที่สุด เนื่องจากใช้กระจกแบบผิวด้านที่ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยากกว่า แต่สำหรับใครที่ชอบความกะทัดรัด แนะนำให้เลือก iPhone 13 mini สีเขียว 

ถึงแม้ iPhone 13 mini จะมีคำว่า mini ต่อท้าย แต่ก็ยังมาพร้อมจอแสดงผล Super Retina XDR ขนาด 5.4 นิ้ว ใหญ่กว่าจอแสดงผลของ iPhone SE ที่มีขนาด 4.7 นิ้ว โดยใช้จอภาพ OLED ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล ให้อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 รองรับ HDR การแสดงผลแบบ True Tone และขอบเขตสีกว้าง P3

จอแสดงผลของ iPhone 13 Pro สีเขียวอัลไพน์ เรียกว่า Super Retina XDR เช่นกัน เพราะใช้จอภาพ OLED เช่นเดียวกัน แต่มีความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล ขนาด 6.1 นิ้ว และเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี ProMotion ทำให้รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอแบบปรับได้สูงสุดที่ 120Hz จึงตอบสนองการเลื่อนหน้าจอได้อย่างราบรื่น ควบคุมการเล่นเกมได้ลื่นไหล และยังมีช่วยช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่

ทั้งนี้ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max สีเขียวอัลไพน์ รวมถึง iPhone 13 และ iPhone 13 mini สีเขียวใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยมีราคาแตกต่างกันดังนี้

ราคา iPhone 13 mini

  • ความจุ 128GB ราคา 25,900 บาท
  • ความจุ 256GB ราคา 29,900 บาท
  • ความจุ 512GB ราคา 37,900 บาท

ราคา iPhone 13

  • ความจุ 128GB ราคา 29,900 บาท
  • ความจุ 256GB ราคา 33,900 บาท
  • ความจุ 512GB ราคา 41,900 บาท

ราคา iPhone 13 Pro

  • ความจุ 128GB ราคา 38,900 บาท
  • ความจุ 256GB ราคา 42,900 บาท
  • ความจุ 512GB ราคา 50,900 บาท
  • ความจุ 1TB ราคา 58,900 บาท

ราคา iPhone 13 Pro Max

  • ความจุ 128GB ราคา 42,900 บาท
  • ความจุ 256GB ราคา 46,900 บาท
  • ความจุ 512GB ราคา 54,900 บาท
  • ความจุ 1TB ราคา 62,900 บาท

รีวิว iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13






Tags: iPhone 13 miniiPhone 13 Proสีเขียวสีเขียวอัลไพน์
ShareTweetShare

Related Posts

iOS 18.5 ทำให้ iPhone 13 Series สนับสนุนบริการดาวเทียมของ T-Mobile
iPhone

iOS 18.5 ทำให้ iPhone 13 Series สนับสนุนบริการดาวเทียมของ T-Mobile

May 7, 2025
iPhone 15 Series ขายดีมากในเกาหลีใต้บ้านของ Samsung แต่ในญี่ปุ่นกลับนิยม iPhone รุ่น mini
iPhone

iPhone 15 Series ขายดีมากในเกาหลีใต้บ้านของ Samsung แต่ในญี่ปุ่นกลับนิยม iPhone รุ่น mini

November 23, 2023
iPhone 13 mini จะถูกยกเลิกการทำตลาด หลังจากเปิดตัว iPhone 15
iPhone

iPhone 13 mini จะถูกยกเลิกการทำตลาด หลังจากเปิดตัว iPhone 15

September 11, 2023
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab S10 Lite แท็บเล็ตสุดคุ้มราคาหมื่นต้นครบเซ็ทไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

    425 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Samsung Galaxy Z Flip8 จะขับเคลื่อนด้วยชิป Exynos 2600

Samsung Galaxy Z Flip8 จะขับเคลื่อนด้วยชิป Exynos 2600

December 20, 2025

Redmi Note 15 Pro และ Note 15 Pro 5G เปิดตัวทางการ เริ่มทำตลาดต้นปี 2026

December 19, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');