Apple มอบเทคโนโลยีที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เคยแก่นักพัฒนา เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานแอปให้ดียิ่งขึ้น

วันนี้ Apple เปิดตัวเครื่องมือ เทคโนโลยี และ API ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เต็มอิ่มยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้ วิดเจ็ตบนหน้าจอล็อคทำให้นักพัฒนาสามารถแจ้งข้อมูลสำคัญจากแอปได้ในรูปแบบใหม่ ขณะที่ API ใหม่ในส่วนอื่นๆ ทั่วแพลตฟอร์ม Apple ก็ช่วยนักพัฒนาในการสร้างคุณสมบัติที่มีลักษณะเฉพาะตัวยิ่งขึ้น นักพัฒนาสามารถใช้ WeatherKit เพื่อผสานรวมข้อมูลพยากรณ์อากาศของ Apple เข้ากับแอปของตนเองได้โดยตรง และยังมี Xcode Cloud ซึ่งเป็นบริการบูรณาการและนำส่งโค้ดแบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องที่มีอยู่ใน Xcode โดยสมาชิก Apple Developer Program ทุกคนสามารถใช้งานได้แล้วตอนนี้ เพื่อสร้างแอปได้อย่างมีคุณภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังมี Metal 3 ที่ทำให้นักพัฒนาเกมสามารถสรรค์สร้างกราฟิกอันน่าทึ่งด้วยประสิทธิภาพที่เร็วเหนือระดับ และการพัฒนาเพื่อแพลตฟอร์มของ Apple ก็ทำได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคยด้วยพัฒนาการในด้านต่างๆ ของ Swift, SwiftUI และ Xcode อีกทั้งยังมีการปรับปรุง SKAdNetwork ในอีกหลายด้าน เพื่อช่วยให้ทั้งเครือข่ายโฆษณาและนักพัฒนาสามารถวัดประสิทธิภาพของโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงสงวนไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เช่นเดิม

“เรารักการร่วมมือกับชุมชนนักพัฒนาของเราและมอบเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ทุกคนใช้ในการสร้างแอปที่ยอดเยี่ยมแห่งอนาคต” Susan Prescott รองประธานฝ่าย Worldwide Developer Relations และ Enterprise and Education Marketing ของ Apple กล่าว “นักพัฒนาจะมีเครื่องมือมากขึ้นกว่าที่เคยเพื่อใช้สร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานแอปที่ผู้ใช้จะต้องชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น API ใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพสำหรับวิดเจ็ตบนหน้าจอล็อค, บริการใหม่อย่าง WeatherKit, การพร้อมให้บริการ Xcode Cloud เพื่อช่วยให้นักพัฒนาของ Apple ทุกคนสามารถสร้างแอปได้รวดเร็วขึ้น และยังมี Metal 3 ที่มอบความสามารถใหม่ๆ ด้านเกมอีกด้วย”

Xcode Cloud พร้อมให้บริการแล้วตอนนี้

Xcode Cloud พร้อมให้บริการแล้วตอนนี้ โดยใช้ได้กับแผนการสมัครสมาชิกหลายแบบเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักพัฒนามากที่สุด เริ่มตั้งแต่การใช้งานฟรี 25 ชั่วโมงต่อเดือนสำหรับสมาชิก Apple Developer Program ทุกคนจนถึงเดือนธันวาคม 2023 และเพิ่มได้มากถึง 1,000 ชั่วโมงต่อเดือน

Xcode Cloud ที่มีอยู่ใน Xcode ถือเป็นบริการคลาวด์ด้านการบูรณาการและนำส่งโค้ดแบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องที่ออกแบบมาสำหรับนักพัฒนาของ Apple โดยเฉพาะ โดยจะเปิดโอกาสให้ทีมนักพัฒนาทุกขนาดสามารถสร้าง ทดสอบ และนำส่งแอปคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยด้วยการสร้างแอปโดยอัตโนมัติในคลาวด์เพื่อให้นักพัฒนาสามารถใช้ Mac สำหรับงานอย่างอื่นได้มากขึ้น และคุณสมบัติการทดสอบแบบคู่ขนานบนคลาวด์ยังทำให้นักพัฒนาสามารถทดสอบเวอร์ชั่นจำลองบนอุปกรณ์ Apple ทุกรุ่นในปัจจุบัน อีกทั้งช่วยยังแจกจ่ายบิลด์เพื่อการทดสอบภายในได้อย่างง่ายดาย รวมถึงนำส่งแอปรุ่นเบต้าให้แก่นักทดสอบผ่าน TestFlight

นักพัฒนาสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนบริการที่มีให้เลือกสำหรับ Xcode Cloud ได้ที่นี่

การปรับปรุงใหม่ใน Xcode 14

Xcode 14 มีการปรับปรุงใหม่หลายด้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา การสร้างโปรเจ็กต์สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น 25% อันเป็นผลจากคุณสมบัติการทำงานแบบคู่ขนาน และตอนนี้แอปพลิเคชัน Xcode มีขนาดดาวน์โหลดที่เล็กลงถึง 30% พร้อมด้วยรันไทม์โปรแกรมจำลองที่ดาวน์โหลดได้สำหรับ watchOS และ tvOS นอกจากนี้การสร้างผลงานแบบหลายแพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ยังช่วยสร้างอินเทอร์เฟซ SwiftUI หนึ่งเดียวที่นำไปใช้ได้ทั้งกับ iOS, iPadOS, macOS และ tvOS ในขณะที่สามารถดูแลจัดการโค้ดของนักพัฒนาได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยยังคงปรับแต่งได้สูงสุดเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้ตัวอย่างจริงของ SwiftUI ถูกตั้งค่าเริ่มต้นไว้ให้โต้ตอบได้ใน Xcode ทำให้สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ทันที และนักพัฒนาสามารถสร้างตัวอย่างในลักษณะที่ต่างกันออกไปแต่ละแบบโดยไม่ต้องเขียนโค้ดหรือเปลี่ยนชุดสี ขนาดข้อความ แนวอุปกรณ์ หรือโหมดการช่วยการเข้าถึง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติใหม่อย่างไอคอนแอปใน Assets Catalog ที่ทำให้นักพัฒนาสามารถใช้ไอคอนขนาดเดียวกันสำหรับทุกแพลตฟอร์ม และ Xcode จะสร้างแอสเซทที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับแอปดังกล่าวให้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีการปรับปรุง Xcode ในด้านภาษาและการแก้ไขโค้ดด้วยคุณสมบัติการเติมคำอัตโนมัติที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และยังมีส่วนย่อยของโค้ดแบบไดนามิกเพิ่มเติมที่ช่วยให้นักพัฒนาเรียกใช้โค้ดที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้นด้วย

ความสามารถใหม่ด้านเกม

Metal 3 เป็นเฟรมเวิร์กกราฟิกเวอร์ชั่นล่าสุดของ Apple ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทำให้นักพัฒนาเกมสามารถใช้พลังแห่ง Apple Silicon เพื่อมอบประสิทธิภาพด้านเกมที่เหนือกว่าที่เคย อาทิ MetalFX Upscaling ที่ทำให้นักพัฒนาสามารถเรนเดอร์ฉากซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เฟรมภาพที่เน้นการประมวลผลน้อยลง แต่อาศัยการอัปสเกลแบบอิงตำแหน่งและการลบรอยหยักแบบอิงภาพก่อนหน้าซึ่งล้วนให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูง ผลที่ได้ก็คือประสิทธิภาพที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกว่าเกมตอบสนองได้ดีกว่าเดิมและมีกราฟิกที่น่าตื่นตา นักพัฒนาเกมยังจะได้รับประโยชน์จาก API ใหม่ที่โหลดข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเพื่อลดระยะเวลาในการรอโหลดเกมด้วยการมอบเส้นทางที่สั้นกว่าจากตัวจัดเก็บข้อมูลไปยัง GPU หมายความว่าเกมจะสามารถใช้งานพื้นผิวและรูปทรงเรขาคณิตคุณภาพสูงในการสร้างสรรค์โลกที่กว้างใหญ่สมจริงสำหรับการเล่นเกมที่ดื่มด่ำได้อย่างง่ายๆ

ตอนนี้นักพัฒนาเกมที่ผสานรวมเข้ากับ Game Center จะสามารถเพิ่มมุมมองแบบกิจกรรมไว้ในแดชบอร์ด ทำให้ผู้ใช้มองเห็นเกมที่เพื่อนกำลังเล่นอยู่ รวมถึงคะแนนสูงสุดของเพื่อน และด้วยการรองรับ SharePlay ยังทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมด้วยกันในแบบเรียลไทม์ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าที่เคยอีกด้วย

Metal 3 มอบคุณสมบัติใหม่ที่ช่วยปลดปล่อยศักยภาพของ Apple Silicon ได้อย่างเต็มที่

การปรับปรุงใหม่ใน Swift และ SwiftUI

Swift และ SwiftUI มอบวิธีสร้างแอปที่ดีที่สุด และตอนนี้ก็มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ที่ทำให้กระบวนการพัฒนาเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

Swift เพิ่มความสามารถในการประมวลผลสตริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยการรองรับสัญพจน์ของนิพจน์ปกติแบบใหม่โดยตรงในภาษาการเขียนโปรแกรม ทำให้นักพัฒนาสามารถตรวจสอบความถูกต้องของนิพจน์ปกติได้อย่างรวดเร็วและดึงข้อมูลได้โดยใช้โค้ดน้อยลง นอกจากนี้ยังมีปลั๊กอินแพ็คเกจใหม่ที่มีให้ใช้ในตัวจัดการแพ็คเกจของ Swift ซึ่งทำให้ตอนนี้นักพัฒนาสามารถรันคำสั่งที่กำหนดขึ้นเองในโปรเจ็กต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น และกระทั่งสามารถอัปโหลดและแชร์คำสั่งกับคนอื่นๆ ได้ด้วย

SwiftUI เป็นเฟรมเวิร์กอินเทอร์เฟซผู้ใช้เจเนอเรชั่นถัดไปของ Apple ที่มาพร้อม API ด้านการนำทางไปยังส่วนต่างๆ ที่ปรับปรุงใหม่ ทำให้นักพัฒนาสามารถควบคุมการเปลี่ยนจากมุมมองหนึ่งไปยังอีกมุมมองหนึ่งได้ง่ายยิ่งขึ้น นักพัฒนาสามารถใช้เค้าโครงที่กำหนดเองเพื่อให้มีอิสระมากกว่าเค้าโครงแอปทั่วไปและสามารถสร้างเวอร์ชั่นที่ทำงานได้อย่างดีที่สุดกับดีไซน์แอปของตนเอง นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่ง Swift Charts ให้เป็นแผนภูมิที่ตรงตามความต้องการได้เกือบทั้งหมด เพื่อให้สามารถแปลงข้อมูลให้เป็นภาพในแอปของตนเองได้ดียิ่งขึ้น

ขอแนะนำ WeatherKit

WeatherKit ทำให้นักพัฒนาสามารถผสานรวมข้อมูลพยากรณ์อากาศทั่วโลกที่มีมาตรฐานสากลในแบบเดียวกับที่ใช้ขับเคลื่อนแอปสภาพอากาศของ Apple เอาไว้ในแอปของตนเองได้โดยตรง แอปสภาพอากาศของ Apple สามารถแสดงสภาพอากาศ ณ ปัจจุบัน การพยากรณ์รายชั่วโมงตลอด 10 วัน การพยากรณ์รายวัน และสภาพอากาศย้อนหลัง โดยใช้โมเดลอุตุนิยมวิทยาความละเอียดสูงที่ทำงานร่วมกับการเรียนรู้ของระบบและอัลกอริทึมการคาดคะเน¹WeatherKit พร้อมให้นักพัฒนานำไปใช้งานได้ทั้งทาง Swift แบบเนทีฟและ REST API โดยสมาชิก Apple Developer Program สามารถเรียกใช้ API ได้ 500,000 ครั้งต่อเดือน ส่วนนักพัฒนาที่จำเป็นต้องใช้งานในปริมาณเพิ่มขึ้นก็สามารถซื้อสิทธิ์บริการในระดับที่สูงขึ้นได้จากทางแอป Apple Developer โดยจะเริ่มภายในปีนี้

นักพัฒนาสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนบริการที่มีให้เลือกสำหรับ WeatherKit ได้ที่นี่

แนวทางการวัดประสิทธิภาพของโฆษณาที่ใส่ใจในความเป็นส่วนตัว

SKAdNetwork API มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เครือข่ายโฆษณาและผู้โฆษณาสามารถวัดประสิทธิภาพของโฆษณาในแอปหรือบนเว็บได้ดียิ่งขึ้น โดยที่ยังคงสงวนไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เช่นเดิม และมีการใช้ ID แหล่งที่มาแบบลำดับชั้นที่ช่วยเพิ่มความสามารถของนักพัฒนาในการปรับปรุงแคมเปญให้ดีที่สุดโดยไม่เพิ่มความเสี่ยงจากการติดตามตัวบุคคลระหว่างแอป นอกจากนี้ SKAdNetwork ยังรองรับค่าการแปลงแบบลำดับชั้นซึ่งทำให้นักพัฒนาได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปลงที่เกิดขึ้นในแคมเปญขนาดเล็ก และยังช่วยในการคำนวณผลตอบแทนจากงบโฆษณาได้ดียิ่งขึ้นโดยอาศัยการแปลงหลายแบบตามช่วงเวลาที่กำหนด

API ใหม่เพื่อแอปที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เคย

นักพัฒนาของ Apple มี API ให้เลือกใช้ได้มากขึ้นกว่าที่เคย เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านการใช้งานแอปที่ผู้ใช้จะต้องชื่นชอบ โดย API ล่าสุดบางส่วนสำหรับนักพัฒนามีดังนี้

• วิดเจ็ตบนหน้าจอล็อค: iOS 16 รองรับการแสดงวิดเจ็ตบนหน้าจอล็อคของ iPhone ดังนั้นตอนนี้นักพัฒนาจึงสามารถแชร์โค้ดเดียวกันได้อย่างไร้รอยต่อระหว่างวิดเจ็ตบนหน้าจอล็อคและกลไกหน้าปัดบน Apple Watch ซึ่งล้วนใช้ WidgetKit API ชุดใหม่แบบเดียวกัน

• ข้อความในภาพ: ตอนนี้นักพัฒนาสามารถเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ดึงข้อความจากรูปภาพและวิดีโอที่พบในแอปหรือภาพจากกล้องสดได้โดยตรง คุณสมบัติข้อความในภาพจะประมวลผลบนอุปกรณ์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

• เครื่องมือในการทำงานร่วมกัน: คุณสมบัติการทำงานร่วมกันจะถูกเพิ่มเข้าไปในแอปข้อความและแอปของบริษัทอื่น นักพัฒนายังสามารถไฮไลต์คอนเทนต์ที่ผู้ใช้เคยแชร์จากแอปของตนเองเอาไว้ในแอปข้อความในส่วน “แชร์กับคุณ” แบบใหม่จากแอปของตนเอง ทำให้ผู้รับย้อนกลับไปยังคอนเทนต์นั้นได้ง่ายขึ้นในภายหลัง

• พาสคีย์: พาสคีย์คือการล็อกอินแบบใหม่ที่ปลอดภัยกว่า ใช้งานง่ายกว่า และถูกออกแบบมาให้ทำงานอย่างง่ายดายภายในแอปเช่นเดียวกันกับบนเว็บ

• MapKit: แอปของบริษัทอื่นสามารถใช้มุมมองเมืองสามมิติที่มีรายละเอียดสูงและคุณสมบัติมองไปรอบๆ เพื่อมอบประสบการณ์ของผู้ใช้ที่เต็มอิ่มยิ่งขึ้น โดย API ใหม่ด้านเซิร์ฟเวอร์ของแอปแผนที่ Apple ทำให้การผสานรวมกับแอปแผนที่เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

• ฟิลเตอร์สำหรับโหมดโฟกัส: นักพัฒนาสามารถปรัแต่งเนื้อหาของแอปตามโหมดโฟกัสของผู้ใช้งานได้

• คำสั่งลัดอัตโนมัติ: ตอนนี้นักพัฒนาสามารถใช้ App Intents เพื่อทำให้แอปของตนเองสามารถใช้งานได้กับ Siri และคำสั่งลัด โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าผู้ใช้แต่อย่างใด

• watchOS: การโทรแบบ VoIP จะถูกรับรองด้วย CallKit และแชร์ชีตจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถแชร์เนื้อหาจากแอปที่ตนเองชื่นชอบเข้าไปใน iMessage และแอปแชตที่เป็นที่นิยมได้โดยตรง นอกจากนี้แอปของบริษัทอื่นยังสามารถเข้าถึงแอปรูปภาพด้วยการเลือกรูปและทำงานร่วมกันกับ Apple TV ด้วย

• RoomPlan: คุณสมบัติที่ขับเคลื่อนด้วย ARKit ซึ่งทำให้นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากสแกนเนอร์ LiDAR บน iPhone และ iPad เพื่อสร้างผังพื้นสามมิติให้กับห้องพร้อมด้วยลักษณะเฉพาะต่างๆ อาทิ ขนาดและประเภทของเฟอร์นิเจอร์

• กิจกรรมสด: นักพัฒนาสามารถใช้ WidgetKit เพื่อมอบข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่เป็นปัจจุบันล่าสุดให้แก่ผู้ใช้ได้โดยตรงผ่านทางหน้าจอล็อค²

วิดเจ็ตบนหน้าจอล็อคมอบอีกหนึ่งช่องทางให้แก่นักพัฒนาในการติดต่อกับผู้ใช้ได้อย่างใกล้ชิด