หลังจากเปิดตัว vivo V25 5G ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาชูนวัตกรรมเครื่องเปลี่ยนสีได้และการถ่ายภาพตอนกลางคืน ในที่สุดก็ถึงเวลาของ vivo V25 Pro 5G สมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ของ vivo V25 Series 5G ที่ยังมาพร้อมสโลแกน พอร์ตเทรต ทุกคืนพิเศษของคุณ เช่นเคย มีดีไซน์หรูหราหราพรีเมี่ยม ด้วยกระจกขอบโค้ง 3D ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง และถ่ายภาพได้อย่างโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังหรือกล้องหน้า นอกจากนี้ ยังเปิดตัวพร้อมกับหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ vivo TWS Air ราคาสุดคุ้ม ซึ่งทีมงาน @Flashfly ถือโอกาสนำมารีวิวไปพร้อมกัน

สเปก vivo V25 Pro 5G

- จอแสดงผล FHD+ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว
- กล้องหลัง 64MP OIS Ultra-Sensing
- กล้องหน้า 32MP Eye AF Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 1300
- ความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 12GB + 8GB (Extended RAM)
- พื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 3.1 ขนาด 256GB
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi (2.4GHz/5GHz), Bluetooth 5.2, NFC, OTG, USB Type-C
- ระบบนำทาง GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO, QZSS
- เซ็นเซอร์ In-Display Fingerprint Sensor, Accelerometer, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope, Electronic Compass
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 12
- แบตเตอรี่ 4830mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 66W FlashCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 158.9 x 73.52 x 8.62 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 190 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Starlight Black และ Surfing Blue
แกะกล่อง vivo V25 Pro 5G

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมกล่องสีเทา ด้านหน้าพิมพ์ชื่อรุ่น V25 Pro ด้วยสีดำเข้มเด่นชัด โลโก้ vivo ขนาดใหญ่จัดวางในแนวตั้ง ข้างกล่องระบุชื่อรุ่น vivo V25 Pro 5G ไว้ชัดเจน อีกข้างติดโลโก้ vivo คู่กับโลโก้ FIFA World Cup Qatar 2022 การแข่งขันฟุตบอลโลกที่ vivo ให้การสนับสนุน โดยมีโปรแกรมการแข่งขันในปลายปีนี้


เมื่อเปิดกล่องขึ้นมา จะพบกับสมาร์ทโฟน vivo V25 Pro 5G ที่ถูกพันไว้ด้วยแผ่นพลาสติก



ถัดลงมามีเคสใสแถมมาให้ พร้อมกับเอกสารต่างๆ ได้แก่ คู่มือ, ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน




ชั้นล่าสุดแบ่งเป็น 2 ช่อง โดยช่องบนเป็นที่รวมสายชาร์จ, หูฟัง พร้อมตัวแปลงแจ็ค 3.5 มิลลิเมตร เป็น USB-C และ เข็มช่วยถอดถาดใส่ซิมการ์ด

อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ แยกเก็บไว้อีกช่อง
ดีไซน์พรีเมี่ยมเปลี่ยนสีได้

vivo V25 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Starlight Black สีดำที่มีความระยิบระยับเหมือนกำลังมองดูดวงดาวนับล้านบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ให้ความรู้สึกลึกลับและมีเสน่ห์ ส่วนสีที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว เรียกว่า Surfing Blue ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีครามของท้องทะเล ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนได้ออกไปเล่นกระดานโต้คลื่น

จุดเด่นในการออกแบบของ vivo V25 Pro 5G คือเทคโนโลยีเปลี่ยนสีได้ อย่างสี Surfing Blue ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว สามารถเปลี่ยนโทนสีได้อย่างชัดเจนเมื่ออยู่ภายในอาคารและกลางแจ้ง เนื่องจากด้านหลังผลิตจากเทคโนโลยี Photochromic ซึ่งสามารถแสดงสีได้หลายสีภายใต้แหล่งกำเนิดแสง Ultraviolet อย่างเช่น แสงแดด ผสานด้วยพื้นผิวกระจก Fluorite AG Glass จึงให้สีสันเปล่งประกายและเปลี่ยนสีได้ตามแสงที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ยังให้การสัมผัสที่สบายมือ และช่วยป้องกันรอยนิ้วมือได้อีกด้วย

ดีไซน์ด้านหน้าก็ให้ความหรูหราพรีเมี่ยมด้วยจอแสดงผลขอบโค้งแบบ 3D Curved ขนาด 6.56 นิ้ว และมีการเจาะหลุมไว้กึ่งกลางที่ส่วนบนหน้าจอ สำหรับติดตั้งกล้องหน้า 32MP Eye AF Selfie Camera

กล้องหลังใช้ดีไซน์ที่เรียกว่า Dual-Mirror Cloud Window ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 64MP + Ultra Wide + Macro พร้อมติดตั้งแฟลช LED ไว้ข้างกล้องหลัก

ส่วนขอบด้านข้างมีความบางเพียง 8.62 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์ ไว้ฝั่งเดียวกัน

อีกข้างไม่มีปุ่มกดแต่อย่างใด และไม่มีถาดใส่ซิมการ์ด

ถาดใส่ซิมการ์ดติดตั้งไว้ที่ด้านล่าง ใกล้กับรูไมโครโฟน ถัดมาเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ตามด้วยลำโพงซ่อนไว้ในรูตะแกรง

ด้านบนพบรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยกรองเสียงรบกวนรอบข้าง และมีข้อความ Professional Photography สลักไว้
หน้าจอ 6.56 นิ้วขอบโค้งรีเฟซ 120Hz

vivo V25 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล 3D Curved Display ที่สวยงามโดดเด่นขอบโค้งรับกับขอบตัวเครื่องที่บางเพียบ ทำให้ดีไซน์ในภาพรวมมีความพรีเมี่ยม โดยใช้จอแสดงผล POLED ที่มีความยืดหยุ่นสูง ความละเอียด 2376 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.56 นิ้ว ให้สีสันสวยงามคมชัด อีกทั้งยังตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็ว ด้วยอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 300Hz ให้ประสบการณ์ที่ดีทั้งการรับชมภาพยนตร์และเล่นเกม



จอแสดงผลของ vivo V25 Pro 5G ได้รับการรับรองมาตรฐาน HDR10+ จึงให้ความสว่างและสีสันที่คมชัดที่สุด และให้ความสำคัญกับการถนอมดวงตาด้วย SGS Low Blue Light Certification ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย ทำให้เพลิดเพลินับคอนเท้นต์บนหน้าจอได้ยาวนานอย่างปลอดภัย

นอกเหนือจากความสมบูรณ์แบบด้านภาพ vivo V25 Pro 5G ก็ใส่ใจในระบบเสียงด้วยเช่นกัน โดยติดตั้งลำโพงขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อให้เสียงที่ทรงพลัง และยังรองรับ Hi-Res Audio สนับสนุนไฟล์เสียงคุณภาพสูงเหมือนถูกส่งมาจากห้องบันทึกเสียง
สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ

vivo V25 Pro 5G รองรับระบบรักษาความปลอดภัยทาง Biometrics ทั้งระบบจดจำใบหน้า และ สแกนลายนิ้วมือ โดยติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล (In-Display Fingerprint Sensor) ตามสไตล์ของสมาร์ทโฟนระดับเรือธง สามารถปลดล็อคหรือยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้สะดวก และสามารถอ่านลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็ว สำหรับการปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า อาศัยกล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อัจฉริยะ ช่วยให้จดใจใบหน้าเจ้าของสมาร์ทโฟนได้อย่างแม่นยำ

กล้องหลัง 64MP OIS Ultra-Sensing

vivo V25 Pro 5G มีจุดเด่นที่กล้องตัวหลักความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ลดปัญหาภาพเบลอ ทำให้ภาพถ่ายคมชัด และวิดีโอมีความราบรื่นเสถียรยิ่งขึ้น

- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.89 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4


หลังจากเปิดเข้ามาในแอปกล้องของ vivo V25 Pro 5G จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Night, Portrait, Photo, Video ส่วนโหมดอื่นๆ รวมอยู่ใน More ได้แก่ 64MP, Panorama, Live Photo, Slow Motion, Time-lapse, Pro, AR Stickers, Vlog Movie, Documents, Pro Sport, Long Exposure, Double Exposure และ Dual View



โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลให้โดดเด่น มาพร้อมฟีเจอร์ Filter/Style, Beauty ปรับความงามบนใบหน้า และ Bokeh Effect ปรับความเบลอหรือละลายฉากหลัง โดดเด่นด้วย Bokeh Flare Portrait ที่สามารถสร้างเอฟเฟกต์โบเก้ที่นุ่มนวล เหมือนถ่ายจากกล้องโปร และ Natural Portrait ให้ภาพถ่ายบุคคลสวยงามแบบธรรมชาติ


โหมด Photo รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide ขยายได้สูงสุด 10x (Digital Zoom) เพิ่ม Filter/Style ได้จากไอคอนทางขวามือ ซึ่งมี Filter ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ให้เลือกได้หลากหลายสไตล์ สามารถดูตัวอย่างและปรับเอฟเฟกต์ด้แบบเรียลไทม์ แถบเครื่องมือด้านบนมีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพ HDR และ Macro ส่วนฟังก์ชั่น AI ย้ายลงมาที่มุมล่างซ้ายมือ

โหมด Video รองรับการซูมในช่วง 1 – 10x (Digital Zoom) สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที มีฟังก์ชั่น HDR (ผสานหลายเฟรมในช่วงไดนามิกสูงให้วิดีโอที่ถ่ายในสภาวะย้อนแสงมีความชัดเจนเพิ่มขึ้น), ระบบ้องกันภาพสั่นไหว และ Super Night Video เข้าถึงได้จากแถบเครื่องมือด้านบน ช่วยให้ผู้ใช้งานบันทึกวิดีโอในที่แสงน้อยได้สว่างคมชัดยิ่งขึ้น ส่วนไอคอนที่มุมล่างขวา ประกอบด้วยฟีเจอร์ Filter, Beauty และ Bokeh Portrait Video สามารถละลายฉากหลังในการถ่ายวิดีโอด้วยเอฟเฟกต์โบเก้ที่ให้แสงเป็นธรรมชาติ

โหมด Night สามารถซูมได้ตั้งแต่ 0.6x ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide ขยายได้สูงสุด 10x (Digital Zoom) พร้อมด้วย Style ซึ่งเป็น Filter สำหรับเปลี่ยนอารมณ์หรือโทนสีให้ภาพถ่ายในเวลากลางคืนมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และสามารถเก็บรายละเอียดภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นด้วยโหมด HDR แบบ RAW

กล้องหลังของ vivo V25 Pro 5G ได้รับการพัฒนาให้สามารถถ่ายวิดีโอได้อย่างยอดเยี่ยมทุกสภาพแสง ให้ภาพเคลื่อนไหวราบรื่นนุ่มนวลด้วยเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวแบบไฮบริด ที่เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่าง OIS และ EIS ผู้ใช้งานที่ชอบสร้างคอนเท้นต์วิดีโอสามารถใช้โหมด Vlog Movie บันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมีโหมด Slow Motion และ Time-lapse ที่สามารถสร้างวิดีโอระดับมืออาชีพให้ดูเหมือนฉากในภาพยนตร์
กล้องหน้า 32MP Eye AF Selfie Camera

กล้องหน้าของ vivo V25 Pro 5G ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ระบบกล้องหลัง โดยมีความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล มาพร้อม Eye Autofocus ช่วยจับโฟกัสดวงตาทั้งคู่ของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวไปทางใดหรืออยู่ใกลแค่ไหน โดยไม่จำเป็นต้องใช้สายตาโฟกัสไปที่กล้องตลอดเวลา และด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงของ Eye Autofocus ระบบโฟกัสของกล้องจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปรับโฟกัสแบบไดนามิก ช่วยให้ภาพเซลฟี่ออกมาโดดเด่น มีความสมจริงเป็นธรรมชาติ ไม่หลุดโฟกัส

โหมด Night รองรับฟังก์ชั่น HD Portrait Auto เปิดใช้งานได้จากแถบเครื่องมือด้านบน ทำให้ได้ภาพถ่ายเซลฟี่ที่คมชัดแม้ในยามค่ำคืน ทำให้รูปบุคคลโดดเด่นจากฉากหลังและดูสวยงามเป็นธรรมชาติ ส่วนไอคอนมุมล่างขวามือมี Beauty สำหรับปรับความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด

โหมด Portrait กล้องหน้ามาพร้อมฟีเจอร์ Style สามารถปรับแต่งภาพได้หลากหลายจาก 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ Classic / Shadows / Filter ถัดลงมาเป็นไอคอน Beauty ปรับความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด และ Bokeh Effect สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ

โหมด Photo รองรับฟังก์ชั่น HDR และ HD Portrait Auto ทั้ง 2 ฟังก์ชั่นเข้าถึงได้จากแถบเครื่องมือด้านบน และยังมีไอคอนที่มุมล่างขวามือ สำหรับเรียกใช้งาน Filter เพื่อเปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่าย

โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด Full HD 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที มีฟีเจอร์คล้ายกล้องหลัง อย่าง Filter/Style, Beauty และ Bokeh Portrait Video แถบเครื่องมือด้านบนมีฟังก์ชั่น HDR, ป้องกันภาพสั่นไหว และ Super Night Video
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า








ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง




























ประสิทธิภาพ Dimensity 1300



vivo V25 Pro 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 1300 ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร ของ TSMC ประกอบด้วยซีพียู Arm Cortex-A78 ความเร็วสูงสุด 3GHz (1x Ultra Core) + Arm Cortex-A78 ความเร็วสูงสุด 2.6GHz (3x Super Cores) + Arm Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2GHz (4x Efficiency Cores) ให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 40% มาพร้อมจีพียู Arm Mali-G77 MC9 (9-core) แสดงผลกราฟิกได้ดีขึ้นถึง 106% ให้ประสิทธิภาพด้าน AI เพิ่มขึ้น 80% ประสิทธิภาพด้านพลังงานเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับชิป Dimensity 900

ด้านความจำของ vivo V25 Pro 5G ได้รับ RAM 12GB แบบ LPDDR4X อีกทั้งยังขยายได้อีก 8GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM 3.0 จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 20GB ตอบสนองการทำงานแบบ Multitasking หรือ เปิดหลายแอปพร้อมกันได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด และยังให้ความจุ ROM มากถึง 256GB แบบ UFS 3.1 ที่มีความเร็วสูงสำหรับการโหลดและบันทึกข้อมูล

นอกจากชิปเรือธง vivo V25 Pro 5G ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Bionic Cooling system ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในตัวเครื่องให้เย็นอยู่เสมอ และยังมี Game Boost Mode ช่วยรีดประสิทธิภาพของซีพียูให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ผสานกับจอแสดงผล AMOLED ที่ให้อัตราการรีเฟรชสูง 120Hz ส่งผลให้ vivo V25 Pro 5G ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
ชาร์จไว 66W FlashCharge

vivo V25 Pro 5G มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4830mAh รองรับการใช้งานได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และถ้าต้องแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็สามารถเติมพลังงานกลับคืนได้อย่างรวดเร็ว ผ่านเทคโนโลยีชาร์จไว 66W FlashCharge พร้อมด้วย Smart Charging Engine ช่วยควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน เพื่อป้องกันความร้อนระหว่างการชาร์จ ลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ และช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น


Funtouch OS 12

vivo V25 Pro 5G ทำงานบน Funtouch OS 12 ที่มาพร้อม User Interface ที่สวยงาม ตอบสนองการใช้งานได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังช่วยยกระดับความปลอดภัยและปกป้องความเป็นส่วนตัวขึ้นไปอีกขั้น ด้วยคุณสมบัติใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการปักหมุดแอป, ตัวบ่งชี้ความเป็นส่วนตัว, ให้ตำแหน่ง GPS โดยประมาณ, ต้องปลดล็อคหรือใส่รหัสก่อนปิดโทรศัพท์ (เมื่อสูญหายหรือถูกขโมย), แดชบอร์ดความเป็นส่วนตัว และ ซ่อนอัลบั้ม
หูฟังไร้สาย vivo TWS Air

ในโอกาสเดียวกันนี้ vivo ยังได้แนะนำหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด vivo TWS Air ที่ให้เสียงเบสทรงพลัง น้ำหนักเบาพกพาสะดวก อายุการใช้งานยาวนาน และมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน เหมาะสำหรับใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟนของ vivo โดยเฉพาะ vivo V25 Series 5G
สเปก vivo TWS Air

- ไดเวอร์ไดนามิกขนาด 14.2 มิลลิเมตร
- ไมโครโฟนคู่แบบ Beamforming
- ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงถึง 45%
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, USB Type-C (สำหรับการชาร์จ)
- ได้รับมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น IP54 (เฉพาะหูฟัง)
- แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 25 ชั่วโมง (ด้วยเคสชาร์จ)
- ขนาดหูฟังแต่ละข้าง 30.09 x 18.54 x 16.52 มิลลิเมตร
- น้ำหนักหูฟังข้างละประมาณ 3.5 กรัม
- ขนาดเคสชาร์จ 56 x 52 x 24 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรวมเคสชาร์จ 38.04 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Pebble Blue และ Bubble White
แกะกล่อง vivo TWS Air

vivo TWS Air ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ Pebble Blue และ Bubble White โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับสี Pebble Blue มารีวิว ซึ่งถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพหูฟังไว้อย่างชัดเจน พร้อมชื่อผลิตภัณฑ์ด้านบน และพิมพ์โลโก้ vivo ขนาดใหญ่จัดวางในแนวตั้ง



เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับเคสชาร์จของ vivo TWS Air ถูกพันกันรอยไว้ด้วยแผ่นพลาสติก ส่วนหูฟังถูกเก็บไว้ในเคส


หลังจากหยิบ vivo TWS Air และแผ่นกระดาษรองออกมาจากกล่อง จะพบกับสายชาร์จ USB-C to USB-A

ชั้นล่าสุดมีคู่มือ, ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน
ดีไซน์เบาเพียง 3.5 กรัมสวมใส่สบาย

vivo TWS Air ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับสี Pebble Blue มารีวิว ซึ่งเป็นโทนสีเข้ม ได้รับการเคลือบผิวถึง 3 ชั้น จนเกิดเป็นพื้นผิวด้าน ต้านทานรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี และยังมีสี Bubble White เป็นอีกทางเลือก โดยมีพื้นผิวมันวาว ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา

เคสชาร์จของ vivo TWS Air มีดีไซน์โค้งมน ดูเหมือนว่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากก้อนหินตามธรรมชาติ ด้านหน้ามีไฟ LED แสดงสถานะ ด้านหลังมีปุ่มสำหรับการเชื่อมต่อ

ด้านบนเป็นฝาปิด และด้านล่างมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง vivo TWS Air มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษเพียงข้างละ 3.5 กรัมเท่านั้น อีกทั้งยังมีความโค้งมนรับกับใบหู จึงสวมใส่ได้อย่างสบายยาวนานตลอดทั้งวัน

หูฟัง vivo TWS Air ทั้ง 2 ข้าง ได้รับการออกแบบส่วนก้านให้สั้นลง 4 มิลลิเมตร เพื่อให้เกิดความกระชับ ไม่หลุดหล่นง่ายขณะใส่ออกกำลังกาย และยังได้รับการป้องกันน้ำ-ฝุ่นในระดับ IP54 หมดกังวลเรื่องสัมผัสกับเหงื่อหรือหยดน้ำ
ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Dual-Mic

vivo TWS Air สามารถขจัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 45% ด้วยไมโครโฟนคู่และอัลกอริทึม AI ลดเสียงรบกวนจากการโทร ช่วยให้เสียงสนทนาดังและชัดเจน แม้จะมีเสียงรบกวนรอบตัว อีกทั้งยังมีดีไซน์ท่อลมรูปตัว L แบบใหม่ ช่วยลดการต้านทานเสียงลมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
DeepX 2.0 Sound Effects

หูฟัง vivo TWS Air รองรับเสียงเอฟเฟกต์ระดับมืออาชีพ DeepX 2.0 ที่พัฒนามาเป็นพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างและพัฒนาคุณภาพชิปเสียง Hi-Fi บนโทรศัพท์มือถือสู่ vivo Golden Ears Acoustics Lab ช่วยให้ vivo TWS Air สามารถปรับเสียงที่แตกต่างกัน 3 รูปแบบอย่างลงตัว ให้เสียงสมจริงและทรงพลัง เสมือนมีนักดนตรีระดับโลกมาขับกล่อมอยู่ในหู ไม่ว่าจะเป็น Mega Bass เสียงเบสที่หนักแน่น (เหมาะสำหรับแนวเพลง Rock / R&B), Clear Voice ให้รายละเอียดเสียงร้องที่โดดเด่น (เหมาะสำหรับแนวเพลง Pop / Ballad) และ Clear High Pitch เพิ่มเสียงความถี่ระดับสูงของเครื่องดนตรี (เหมาะสำหรับแนวเพลง Blues / Classic)

ไดเวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่

หูฟัง vivo TWS Air ทั้ง 2 ข้าง มาพร้อมไดเวอร์ไดนามิกขนาด 14.2 มิลลิเมตร โดยใช้วอยซ์คอยล์ทองแดงจาก Daikoku เพิ่มความนุ่มลึกของเสียงเบส และใช้ไดอะแฟรมคอมโพสิตไบโอคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ทำมาจากวัสดุน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ให้รายละเอียดความถี่ระดับกลางและสูงชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศ ด้วยดีไซน์พลศาสตร์ของไหล เพื่อให้อากาศเข้าและออกจากช่องเสียงได้อย่างอิสระ
ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ

vivo TWS Air สามารถจับคู่กับ vivo V25 Series 5G และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของ Android ได้อย่างง่ายดายด้วย Google Fast Pair เพียงเปิดฝาเคสและนำมาวางใกล้กับสมาร์ทโฟน ขณะที่สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์รุ่นอื่นๆ ที่ไม่สนับสนุน Google Fast Pair ก็สามารถจับคู่ผ่านการตั้งค่า Bluetooth ได้อย่างง่ายดายเพียงคลิกเดียว โดยรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ที่มีความเสถียร ให้สัญญาณเสียงราบรื่นไม่หน่วง ไม่สะดุด

vivo TWS Air ยังรองรับการเรียกใช้ผู้ช่วยเสียง Google Assistant เพื่อตรวจสอบสภาพอากาศ ค้นหาข้อมูล หรือ เรียกใช้งานบางฟังก์ชั่นของสมาร์ทโฟนที่กำลังจับคู่ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Find My TWS ช่วยค้นหาหูฟังอีกข้างที่หล่นหายไป สามารถบอกพิกัดและแสดงตำแหน่งหูฟังที่หายไปได้อย่างแม่นยำ
อายุการใช้งานนานสูงสุด 25 ชั่วโมง

หูฟัง vivo TWS Air แต่ละข้างบรรจุแบตเตอรี่ 27mAh รองรับการเล่นเพลงได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุด 4.5 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที ก็เพียงพอต่อการใช้งานยาวนานถึง 1.5 ชั่วโมง สำหรับเคสชาร์จมีความจุแบตเตอรี่ 420mAh ช่วยยืดอายุการใช้งานของหูฟังให้ยาวนานสูงสุด 25 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ vivo TWS Air รองรับการใช้งานที่ยาวนานทั้งกลางวันและกลางคืน

สรุปราคาและการจำหน่าย

vivo V25 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีดีไซน์โดดเด่น ทั้งขอบจอโค้ง ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ ให้ประสิทธิภาพระดับเรือธง ตอบโจทย์คนรักการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังและกล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ ทั้งสภาวะแสงน้อยและแสงปกติ

vivo TWS Air หูฟังไร้สายที่มีดีไซน์เบาเป็นพิเศษ ให้ประสบการณ์ที่ดีเมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน มีจุดเด่นที่ความคมชัดของเสียงระหว่างการโทร ด้วยระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ถึง 45% และไมโครโฟนคู่ อีกทั้งยังให้เสียงที่มีคุณภาพสูง สามาถรปรับเอฟเฟกต์เสียงให้รองรับได้ทุกหลากหลายเพลง


V25 Pro 5G มากับสีใหม่สองตัวเลือก คือ Starlight Black และ Surfing Blue ที่ราคา 19,999 บาท จำหน่ายเฉพาะรุ่น 12GB + 256GB ส่วน vivo TWS Air วางจำหน่ายในราคา 1,999 บาท จองล่วงหน้า vivo V25 Pro 5G รับหูฟัง TWS Air กระเป๋าหิ้วและ E-VIP (ประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง 1 ปี) มูลค่ารวม 13,297.- พร้อมเลือกผ่อน 0% สูงถึง 18 เดือน ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 65 – 28 ก.ย. 65 ที่ BaNANA, IT City | CSC, Jaymart, TG FONE, KINGKONG, BKK, Big C, Maxlink, Powerbuy, Lotus, STAMP, Advice และ Power Mall ทุกสาขาทั่วประเทศ
รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://bit.ly/3rgr4hL
#vivoV25Series5G #พอร์ตเทรตทุกคืนพิเศษของคุณ