ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับ realme C33 ที่มีดีไซน์โดดเด่นที่สุดในระดับเซกเมนต์เดียวกัน มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง กล้องหลังความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ซึ่งหาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดวันจากแบตเตอรี่ความจุสูง
สเปก realme C33
- จอแสดงผล 6.5 นิ้ว
- กล้องหลัง 50MP AI Camera
- กล้องหน้า 5MP AI Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Unisoc T612
- ความจำ RAM 3/4GB (LPDDR4X)
- ความจุ ROM 32/64GB (UFS 2.2)
- รองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 1TB
- การเชื่อมต่อ 4G LTE, WiFi 2.4GHz, Bluetooth 5.0, Micro USB, 3.5mm headset jack
- สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง (Side-mounted Fingerprint Sensor)
- เซ็นเซอร์ Light sensor, Proximity sensor, Acceleration sensor
- ระบบนำทาง GPS, GLONASS, GALILEO
- ระบบปฏิบัติการ realme UI S Edition (Android 12)
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- ขนาดตัวเครื่อง 164.2 x 75.7 x 8.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 187 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Night Sea และ Aqua Blue
แกะกล่อง realme C33
realme C33 ถูกเก็บไว้ในกล่องสีเหลืองตามสไตล์ realme ซึ่งชั้นนอกเป็นปลอกกล่องที่พิมพ์ชื่อรุ่น C33 ขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน และพบชื่อ realme C33 กำกับไว้ข้างกล่อง
หลังกล่องบอกจุดเด่นไว้ 4 รายการ ได้แก่ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh, กล้องหลังความละเอียดสูง 50MP AI Camera, ดีไซน์บางเพียง 8.3 มิลลิเมตร และ ใช้โปรเซสเซอร์ Unisoc T612
เมื่อถอดปลอกกล่องออกไป จะพบกับซองเอกสารสีเหลือง ที่มีข้อความต้อนรับสู่ครอบครัว realme เมื่อแกะซองออกมา จะเจอกับเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด โดยมีคู่มือ Quick Guide และข้อมูลด้านความปลอดภัย (รวมถึงใบรับประกัน) เก็บไว้ภายใน
ถัดลงมาเป็นชั้นวางสมาร์ทโฟน realme C33 ถูกเก็บไว้ในซอง เพื่อป้องกันริ้วรอยระหว่างขนส่ง โดยทางผู้ผลิตได้ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว
ชั้นล่างสุดเป็นช่องเก็บสายชาร์จแบบ Micro USB to USB Type-A และ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 10W Power Adapter
ดีไซน์บางเพียง 8.3 มิลลิเมตร
ไม่อยากเชื่อว่านี่คือสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น เป็นความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นหลังจากนำ realme C33 ออกมาจากซอง เนื่องจากตัวเครื่องได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม ทันสมัย งานประกอบสัมผัสได้ถึงคุณภาพในการผลิต โดยรวมแล้วเหมือนเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่ดูแพง มีสไตล์โดดเด่นที่สุดในระดับเซกเมนต์เดียวกัน โดยเฉพาะฝาหลังที่ทำออกมาคล้ายวัสดุกระจก และมีพื้นผิวที่เปล่งประกายสวยงาม
realme C33 ที่เปิดตัวในไทย มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Aqua Blue ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว มาในโทนสีฟ้าน้ำทะเล ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงวันหยุดที่ด้เดินทางไปพักผ่อนริมทะเล มาพร้อมเอฟเฟกค์สะท้อนแสงที่ให้ความโรแมนติก ส่วนอีกตัวเลือกมาในโทนสีดำ Night Sea ที่สวยงามไม่แพ้กัน และเข้ากับทุกสไตล์ในชีวิตประจำวัน
ฝาหลงของ realme C33 ผ่านกระบวนการเคลือบผิวระดับไมครอน และการพิมพ์หิน (Lithography) ทำให้เกิดเอฟเฟกต์แสงแบบไดนามิก ที่ให้มุมมองแตกต่างกันไป และซ้อนทับด้วยพื้นผิวคอมโพสิตทราย ที่มีความระยิบระยับ ผสานกับการเคลือบที่สว่างขึ้น จึงเกิดเอฟเฟกต์ ‘การไหลของน้ำ’ ที่ชัดเจนและโปร่งใสยิ่งขึ้น
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 88.7% ซึ่งหมายถึงมีพื้นที่ขอบจอที่ค่อนข้างบาง
ขอบจอด้านบนทำรอยบากแบบหยดน้ำ สำหรับติดตั้งกล้องหน้า เหนือขึ้นไปซ่อนลำโพงหูฟังไว้สุดขอบด้านบน
ด้านหลังโดดเด่นด้วยระบบกล้องคู่ พร้อมแฟลช LED ดีไซน์สบายตาเพราะไม่มีกรอบกันชน ทำให้พื้นผิวฝาหลังไร้รอยต่อ และติดตั้งกล้องหลังบนฝาหลังที่มีพื้นผิวสวยงามพรีเมียม ซึ่งประกอบขึ้นจากวัสดุ Polycarbonate และ Polymethyl Methacrylate
ขอบด้านข้างเรียบแบน ตามเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม และมีความบางเพียง 8.3 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียง กับปุ่มเพาเวอร์ไว้ฝั่งเดียวกัน โดยปุ่มเพาเวอร์ยังรวมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย
อีกข้างมีช่องใส่การ์ดแบบ 3 ช่อง รองรับซิมการ์ด 2 ช่อง (Dual Nano-SIM) และใส่การ์ด Micro SD ได้อีกช่อง (รองรับความจุสูงสุด 1TB)
ด้านล่างประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, ช่องต่อ Micro USB และ ลำโพง ด้านบนดูเรียบๆ ไม่พบไมโครโฟนตัวที่ 2
จอแสดงผล 6.5 นิ้ว
realme C33 มาพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ให้สีสันสดใส 16.7 ล้านสี โดยมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 88.7% ซึ่งหมายถึงมีพื้นที่ขอบจอรอบด้านที่บางเป็นพิเศษ ให้ประสบการณ์ที่ดีในการรับชมคอนเท้นต์ต่างๆ และยังตอบสนองการสัมผัสได้อย่างราบรื่นนุ่มนวล
จอแสดงผลของ realme C33 เหมาะสำหรับการรับชมคอนเท้นต์วิดีโอ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา และยังให้เสียงที่มีคุณภาพชัดเจนทรงพลัง เนื่องจากรองรับเทคโนโลยี Dirac 3.0 จึงตอบสนองการดูหนัง ฟังเพลง ได้อย่างเพลิดเพลิน
สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
realme C33 ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ด้านข้าง รวมกับปุ่มเพาเวอร์ ซึ่งหาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น ทำให้ดีไซน์โดยรวมมีความทันสมัยเทียบเท่าสมาร์ทโฟนระดับกลาง และยังช่วยให้การปลดล็อคทำได้สะดวกกว่าสมาร์ทโฟนที่วางเซ็นเซอร์สแกนนิ้วไว้ด้านหลัง เพราะสามารถสแกนลายนิ้วมือได้ทันทีโดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา อีกทั้งยัง อ่านลายนิ้วมือได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็ว ใช้เวลาปลดล็อคเพียง 0.5 วินาที
กล้องหลัง 50MP AI Camera
realme C33 มีจุดเด่นที่กล้องหลัง 50MP AI Camera วางคู่กับกล้องรอง ช่วยถ่ายภาพ Portrait พร้อมด้วยอัลกอริทึม CHDR ที่เข้ามาปรับปรุงคุณภาพกล้องเมื่อถ่ายภาพในสภาวะแสงจ้า โดยลดไฮไลท์อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภาพถ่ายเก็บรายละเอียดได้สมบูรณ์ในทุกจุด แม้แต่ฉากหลังที่อาจไม่ได้เป็นจุดสนใจของสายตา
เปิดเข้ามาในแอปกล้อง จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Video, Photo, Portrait เมื่อแตะที่ More จะพบกับโหมดที่เหลือ ได้แก่ Time-lapse, Panorama,Pro, Night และโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 50M
โหมด Photo สำหรับถ่ายภาพนิ่งในสภาพแสงปกติ รองรับการซูม 1 – 4 เท่า พร้อมด้วยฟีเจอร์ HDR, Beauty และ Filter ถ้าต้องการถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล ให้ไปยัง More แล้วเลือกโหมด 50M
โหมด Portrait ช่วยในการถ่ายภาพบุคคลให้โดดเด่น พร้อมละลายฉลากหลัง สามารถปรับค่า F เพื่อเบลอฉากหลังได้ตั้งแต่ F0.95 ถึง F16
โหมด Video รองรับการซูม 1 – 4 เท่า สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียด Full HD 1080p, HD 720p, SD 480p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที โดยมีโหมด Time-lapse เป็นฟีเจอร์เสริม
กล้องหน้า 5MP AI Selfie Camera
กล้องหน้าของ realme C33 ติดตั้งไว้ในรอยบากรูปทรงหยดน้ำ มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับโหมดถ่ายภาพ Capture สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ มีฟีเจอร์ HDR, Beauty และ Filter แบบเดียวกับกล้องหลัง
โหมด Super Night ของกล้องหน้า ช่วยให้ภาพภ่ายในสภาวะแสงน้อยออกมาสวยงามมากขึ้น และยังมีโหมด Portrait ช่วยทำให้ภาพเซลฟี่โดดเด่นยิ่งขึ้น สามารถเบลอฉากหลังด้วยการปรับค่า F ในช่วง F0.95 ถึง F16
กล้องหน้าสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียด HD 720p, SD 480p และ CIF ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายหล้องหลัง
ประสิทธิภาพระดับ 12 นาโนเมตร
realme C33 ใช้ชิปประมวลผล Unisoc T612 Octa Core ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 12 นาโนเมตร มาพร้อมซีพียู ARM Cortex-A75 (2-core) + Cortex-A55 (6-core) ความเร็วสูงสุด 1.8GHz พร้อมด้วยจีพียู ARM Mali G57 สามารถทำคะแนนจากการทดสอบบนแอปพลิเคชั่น AnTuTu มากกว่า 220,000 คะแนน เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพที่ทรงพลังและเสถียรกว่าสมาร์ทโฟนคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกัน
ด้านความจำ realme C33 มาพร้อม RAM แบบ LPDDR4X จับคู่กับ ROM แบบ UFS 2.2 สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วกว่า 300% เมื่อเทียบกับ eMMC 5.1 มี 2 ตัวเลือก ได้แก่ RAM 3GB + ROM 32GB / RAM 4GB + ROM 64GB และยังสามารถขยายความจุได้อีกผ่านการ์ด MicroSD สูงสุด 1TB จึงมีพื้นที่เพียงพอสำหรับจัดเก็บไฟล์ต่างๆ ได้อย่างจุใจ
แบตเตอรี่ 5000mAh
realme C33 ได้รับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh มีอายุการใช้งานที่ยาวนานตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูหนัง สามารถสแตนด์บายได้นานสูงสุด 37 วัน หรือ ฟังเพลงได้นานสูงสุด 84.7 ชั่วโมง หรือ ใช้โทรคุยได้นานสูงสุด 36.7 ชั่วโมง หรือ เล่นวิดีโอนานต่อเนื่อง 14 ชั่วโมง
realme C33 ยังมีโหมดประหยัดพลังงาน Ultra Saving Mode สำหรับเปิดใช้งานเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด สามารถสแตนด์บายได้นาน 43.6 ชั่วโมง หรือ สนทนาได้นาน 1.8 ชั่วโมง หรือ แม้แต่ฟังเพลงผ่าน Spotify ได้นาน 4.1 ชั่วโมง ถึงแม้ระดับแบตเตอรี่จะลดต่ำลงเหลือเพียง 5%
สรุปราคาและการจำหน่าย
realme C33 มีจุดเด่นที่กล้องหลังความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ให้ภาพถ่ายในสภาพแสงเป็นใจออกมาสวยงามเหมือนถ่ายจากสมาร์ทโฟนราคาแพง และยังตอบสนองการใช้งานด้านความบันเทิงได้อย่างดีตลอดทั้งวัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีดีไซน์สวยงามโดดเด่นกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน ให้ความรู้สึกเหมือนสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่ให้ความคุ้มค่าเกินราคาตามสไตล์ realme
realme C33 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Night Sea และ Aqua Blue วางจำหน่ายผ่าน realme Brand Shop , ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,499 บาท