Apple แนะนำแอปพลิเคชั่น Oceanic+ ครั้งแรก ในวันเปิดตัว Apple Watch Ultra เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่เพิ่งปล่อยออกมาให้ใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป
แอป Ocenic+ ออกแบบโดย Huish Outdoors ร่วมกับ Apple ช่วยให้นักดำน้ำสกูบาเชิงนันทนาการ สามารถนำนาฬิกาที่ใส่อยู่ในชีวิตประจำวันดำลงไปสู่ความลึกสูงสุด 40 เมตร ด้วยตัววัดความลึกแบบใหม่หมด และเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำบน Apple Watch Ultra
แอป Oceanic+ บน Apple Watch Ultra และแอปสำหรับใช้งานคู่กันบน iPhone มีครบทุกฟีเจอร์สำคัญของไดฟ์คอมพิวเตอร์ที่ล้ำสมัย การวางแผนดำน้ำที่ละเอียด และประสบการณ์หลังการดำน้ำที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
Apple Watch Ultra ถูกสร้างมาสำหรับกิจกรรมที่เน้นความทนทานของร่างกาย การสำรวจ และการผจญภัย อีกทั้งยังผ่านการรับรอง WR100 และ EN 13319 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลสำหรับอุปกรณ์ดำน้ำ อย่างตัววัดความลึก
ตัวเรือน Apple Watch Ultra ผลิตจากไทเทเนียม และด้านหน้าแบบผลึกแซฟไฟร์ที่แบนเรียบ เผยให้เห็นจอภาพ Apple Watch ที่ใหญ่และสว่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา สูงสุดถึง 2,000 นิต จึงมองเห็นได้ชัดเจนขณะอยู่ใต้น้ำ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งปุ่มการทำงานเพื่อใช้สำหรับเปิดแอป Oceanic+ เข้าสู่หน้าจอก่อนเริ่มดำน้ำ และขณะดำน้ำอยู่ยังสามารถกดปุ่มการทำงานเพื่อกำหนดองศาทิศบนเข็มทิศได้ด้วย
หนึ่งในฟีเจอร์ที่เข้าใจผู้ใช้มากที่สุดของแอป Oceanic+ บน Apple Watch Ultra คือการตอบสนองแบบสั่น ซึ่งเป็นความสำเร็จด้านการออกแบบทั้งในส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำให้นาฬิกาสามารถสะกิดเตือนผู้ใช้บนข้อมือได้โดยใช้วิธีการสั่นต่อเนื่องเป็นชุด ซึ่งช่วยให้นักดำน้ำรับรู้ถึงการแจ้งเตือนขณะอยู่ใต้น้ำแม้จะสวมเว็ทสูทที่หนาถึง 7 มม. ก็ตาม และถึงแม้การตอบสนองแบบสั่นจะเป็นฟีเจอร์ง่ายๆ ที่สะดวกสบายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่เมื่ออยู่ใต้น้ำ คุณสมบัตินี้กลับมีบทบาทสำคัญชนิดที่คาดไม่ถึง นั่นคือการเอาชนะเสียงรบกวนที่มาจากเสียงสะท้อนได้
แอป Oceanic+ ยังมีกลไกหน้าปัดที่จะนำข้อมูลและเครื่องมือสำคัญมาอยู่ใกล้ๆ ผู้ใช้แค่เหลือบมอง อย่างระยะเวลาห้ามบิน เวลาขึ้นสู่ผิวน้ำ ตัววางแผนการดำน้ำที่เรียกใช้ได้รวดเร็ว การตั้งค่าการดำน้ำ ระดับความสูงปัจจุบัน ระดับความสูงสูงสุดที่อนุญาต และปุ่มสำหรับกลับเข้าสู่แอปอย่างรวดเร็ว โดยที่ผู้ใช้สามารถติดตามและเปรียบเทียบรายละเอียดทั้งหมดของการดำน้ำได้ ตั้งแต่การวางแผนการดำน้ำ จนถึงการลงน้ำครั้งแรก และก้าวแรกที่กลับขึ้นฝั่ง แล้วแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนนักดำน้ำได้ทันทีจากในแอป
ทั้งนี้ แอป Oceanic+ พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วผ่านทาง App Store โดยรองรับ Apple Watch Ultra ที่รันบน watchOS 9.1 หรือเวอร์ชั่นใหม่กว่า และจับคู่กับ iPhone 8 หรือรุ่นใหม่กว่าที่ใช้ iOS 16.1 หรือเวอร์ชั่นใหม่กว่า และถ้าหากต้องการใช้การติดตามดีคอมเพรสชั่น, การรับโหลดของเนื้อเยื่อ, ตัววางแผนจุดดำน้ำ และสมุดบันทึกแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง Oceanic+ มีค่าบริการ 389 บาท ต่อเดือน หรือ 3,100 บาท ต่อปี ส่วนคุณสมบัติการแชร์กันในครอบครัวมีค่าบริการ 4,600 บาท ต่อปี และสามารถใช้งานได้สูงสุด 5 คน